EP6
ฉันหันมองคีรีตาเขม็งเมื่อเขาพ่นวาจาดูถูกครอบครัวฉันซึ่ง ๆ หน้าออกมา
"ขอโทษลุงสนกับป้าสำลีเดี๋ยวนี้คีรี" คุณหญิงรตีเองก็ดูตกใจไม่น้อยกับคำพูดของลูกชายก่อนที่ท่านจะหันไปเอ็ดและบอกคีรีให้ขอโทษพ่อกับแม่ฉันซะ
"ไม่เป็นไรค่ะคุณหญิง" ในขณะที่ฉันโกรธจนตัวสั่นอยากจะลุกขึ้นไปตบหน้าคีรีสักฉาดใหญ่แต่ทว่าพ่อกับแม่ฉันกลับเมินเฉยคำดูถูกนั่นเสมือนว่าไม่ได้ถือสาอะไรแถมยังหันไปบอกกับคุณหญิงรตีหน้าตายว่าไม่เป็นอะไรทั้ง ๆ ที่โดนเขาดูถูกเหยียดหยามขนาดนั้น
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงต้องยอมขนาดนั้น ทำไมต้องยอมให้เขาต่อว่า ทำไมต้องยอมให้เขาดูถูกดูแคลนเพียงเพราะว่าเราติดหนี้เขาอย่างนั้นเหรอ
"ไม่ได้หรอกแม่สำลี คีรีไม่ควรพูดแบบนี้กับพวกเธอ" คุณหญิงรตีหันมาบอกแม่ฉันละคนรู้สึกผิดในขณะที่เจ้าของประโยคดูหมิ่นดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดของตัวเองสักนิด
"ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับคุณหญิง"
"พ่อ" ฉันร้องเรียกชื่อพ่ออย่างไม่พอใจด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด
"หึ" ฉันหันไปถลึงตาใส่คีรีเมื่อจู่ ๆ หมอนั่นก็หัวเราะเยาะในลำคอออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมส่งสายตากวนบาทามาให้ฉัน
ฉันเองก็จ้องหน้าเขากลับอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกันถ้าลุกไปบีบคอเขาให้ตายได้เสียตอนนี้ฉันไม่มีทางนั่งนิ่งเฉยอยู่แบบนี้แน่
"เขาไม่ได้คิดมากอะไร แม่จะซีเรียสทำไม" ดูคำพูดของผู้ชายคนนี้สิ คนแบบนี้เหรอที่ปกครองคนงานนับพัน คนที่คอยดูถูก ดูหมิ่นคนที่ต่ำกว่าคนแบบนี้นะเหรอที่ดูแลชีวิตคนมากมายฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยจริง ๆ
และยิ่งไปกว่านั้นนี่ฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้จริง ๆ เหรอ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกนรกทั้งที่ยังไม่ตายยังไงยังงั้นเลย
เมื่อคนโดนดูถูกไม่เอาเรื่องเอาราวบรรยากาศที่เคยอึมครึมก็กลับมาปกติอีกครั้ง คุณหญิงรตีเลือกชุดแต่งงานให้ฉันก่อนจะเรียกพนักงานให้มาพาฉันไปห้องแต่งตัว
"สวยมากเลยค่ะคุณน้อง" ฉันยิ้มเมื่อได้รับคำชมจากเจ้าของร้านที่วันนี้เป็นคนมาลองชุดให้ฉันเองกับมือ ฉันมองตัวเองในกระจกก็อดตกตะลึงในสภาพของตัวเองตอนนี้ที่ดูสวยขึ้นแบบผิดหูผิดตาไม่ได้ "ถ้าเจ้าบ่าวได้มาเห็นต้องตกตะลึงแน่ ๆ ค่ะที่เจ้าสาวสวยมากขนาดนี้" เจ้าของร้านยังเยินยอฉันไม่หยุด ฉันที่ได้ยินเจ้าของร้านพูดถึงตาพ่อเลี้ยงคีรีจอมนิสัยเสียนั่นก็เบะปากมองบนรัว ๆ ราวกับหมั่นไส้ "งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูฝั่งเจ้าบ่าวก่อนนะคะว่าไปถึงไหนแล้ว เชิญน้องเพียงจันทร์ตรวจเช็กความเรียบร้อยตามสบาย" ฉันพยักหน้ารับคำพี่เจ้าของร้านก่อนที่เธอจะเดินออกไปภายในห้องแต่งตัวตอนนี้เลยเหลือแค่ฉัน
"เฮ้อ" เมื่อได้อยู่คนเดียวตามลำพังฉันก็อดรู้สึกหดหู่ใจไม่ได้ นั่งจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองอย่างคนล่องลอย
แทบไม่ต้องเดาเลยด้วยซ้ำว่าหลังจากแต่งงานชีวิตฉันจะเป็นยังไงแค่เจอหน้าว่าที่สามีแค่ยี่สิบนาทีฉันก็มองเห็นอนาคตของตัวเองหลังจากนี้มาแต่ไกล
ยังไงซะฉันก็คงไม่พ้นตกนรกทั้งเป็นเป็นแน่
