บท
ตั้งค่า

สวมกอด

อภิญญาเมื่อเห็นหน้าเพื่อนก็ถึงกับน้ำตาไหล ตรงเข้าไปสวมกอดนฤมลร้องไห้เงียบๆไม่พูดไม่จา เธอเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา พอได้เจอหน้านฤมลความรู้สึกอบอุ่นก็ครอบคลุมหัวใจ

“ร้องไห้ทำไม เป็นอะไร”

เห็นเพื่อนร้องไห้สะอึกสะอื้นนฤมลก็ตกใจ เธอรีบพาอภิญญาขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า คะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายเพื่อนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง

อภิญญาพูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งเหม่อลอยนานนับชั่วโมง จนกระทั่งเธอเริ่มมีสติจึงได้ตัดสินใจเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง

“แม่คุณภูมิส่งคนมาขู่ฉัน เมื่อเช้าที่ซอยเปลี่ยว ผู้ชายคนนั้นเอามีดมาจี้คอฉัน แล้วก็บอกให้ฉันเลิกยุ่งกับคุณภูมิ”

หญิงสาวเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดชีวิตของเธอไม่เคยประสบพบเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนี้มาก่อน อภิญญาเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่อยากมีชีวิตสุขสงบ แต่เรื่องของหัวใจมันห้ามกันไม่ได้ เธอดันรักกับคนที่ไม่คู่ควรและไม่ได้รับการยอมรับจากแม่ของเขา

แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามบีบคั้นเธอให้เลิกลากับภูภูมิ แต่เพราะความรักทำให้ทั้งสองตัดสินใจจับมือกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคตรงหน้า

แต่อุปสรรคชิ้นใหญ่กลับไม่ใจอ่อนเสียที ยังคงอคติตั้งแง่และไม่เคยให้โอกาสเธอได้พิสูจน์ตัวเองเลย

“ทำไมคุณภาทำถึงขนาดนี้ แบบนี้มันรุนแรงเกินไปแล้วนะ”

“คุณภาคงจะเป็นห่วงคุณภูมิ เขาเธอคงคิดว่าฉันเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่มีอะไรเหมาะสม”

จริงอยู่ที่ฐานะครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้จนตรอกขนาดนั้น พ่อของอภิญญาเป็นข้าราชการระดับสูง แต่ที่เธอไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวเป็นเพราะว่าพ่อแต่งงานใหม่กับแม่เลี้ยงที่ไม่ค่อยชอบหน้าเธอสักเท่าไหร่ หญิงสาวจึงไม่เคยคิดจะพาภูภูมิไปหาพ่อของเธอ

“จะมีหรือไม่มีหัวนอนปลายเท้าก็ไม่ควรทำแบบนี้ ฉันว่าแกแจ้งความดีกว่า อย่างน้อยๆจะได้ดัดสันดานว่าที่แม่ผัวแก่ไง”

“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากให้ คุณภูมิไม่สบายใจ”

ทุกวันนี้ภูภูมิมีภาระหน้าที่มากมาย เธอจึงไม่อยากให้เรื่องนี้ไปก่อกวนใจ อยากให้เขาทำงานอย่างสบายใจ ไม่อยากเพิ่มความเครียดให้คนรัก

“ฉันรู้แล้วแหละว่าทำไมคุณภูมิถึงรักแก แต่ก็นะ คบกันแต่เปิดตัวไม่ได้ เป็นฉันคงอึดอัดแย่”

นฤมลเข้าใจสถานการณ์ระหว่างภูภูมิและอภิญญาดี เธอเป็นคนเดียวในบริษัทที่รับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเพราะภูภูมิไม่ได้อยากปิดบัง

ความจริงแล้วชายหนุ่มอยากจะเปิดเผยว่าเขาคือคนรักของอภิญญา แต่เพราะแม่สั่งห้ามไว้ เขาจึงทำได้แค่คบหากับหญิงสาวเงียบๆ

“ถ้าวันหนึ่งแกมีความรัก แกจะเข้าใจ ความรักทำให้คนอดทนได้ทุกอย่าง”

เพราะเธออภิยญาคือคนที่ยืนอยู่จุดนี้จึงเข้าใจดี แต่นฤมลที่ครองตัวเป็นโสดมานานกว่า 5 ปีกลับไม่เข้าใจ เธอก็เคยมีความรักแต่เพราะความสัมพันธ์นั้นเฮงซวยเกินกว่าที่จะไปต่อ เธอจึงตัดสินใจถอยออกมา และไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลย

“ถ้าการอดทนของแก ทำให้แกมีความสุข ฉันก็ยินดีด้วย แต่ถ้าแกเริ่มทุกข์มากกว่าสุข ฉันก็อยากให้แกพิจารณาใหม่”

ในฐานะเพื่อน เธอไม่ได้อยากยุยงส่งเสริมให้อภิญญาเลิกกับภูภูมิ เพียงแต่เธออยากเห็นเพื่อนมีความสุข ไม่ใช่นั่งอมทุกข์อยู่ทุกวันแบบนี้คนมีความรักที่แบบไหน หน้าตาไม่สดใสเอาเสียเลย

“ขอบใจมากนะ ถ้าวันไหนฉันรู้สึกว่าไม่ไหว ฉันก็คงจะถอย”

เธอกับภูภูมิต่างกันราวฟ้ากับเหว เขาเหมือนเทพบุตรในขณะที่เธอเป็นสาวชาวบ้านที่แสนธรรมดา คุณภาเองก็คงจะรู้สึกแบบนั้นถึงได้พยายามกีดกันมาโดยตลอด

“สรุปจะไม่แจ้งความใช่ไหม”

อภิญญาพยักหน้า ถึงแม้ว่าคุณภาจะทำเกินกว่าเหตุ แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะแจ้งความจับอีกฝ่าย เพราะเป็นห่วงความรู้สึกคนรักอย่างภูภูมิ…

ที่ผ่านมาแม้แม่คนรักจะถูกดูแคลนมากแค่ไหนแต่อภิญญาก็พยายามอดทนจับมือฝ่าฟันอุปสรรคมาโดยตลอด แต่ทว่าครั้งนี้ความคิดของเธอเริ่มเปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มันถูกเดิมพันด้วยชีวิต เธอไม่เคยรู้เลยว่าคุณภาจะเป็นคนจิตใจเหี้ยมโหด ถึงขั้นส่งคนมาขู่ฆ่า

แม้ว่าจะรักภูภูมิมากแค่ไหนแต่เธอก็รู้สึก หวั่นใจไม่น้อย อีกอย่างเธอเริ่มหันกลับมามองตัวเองและพิจารณาอีกครั้ง หากดันทุรังต่อไปแบบนี้ก็มีแต่จะฉุดชายหนุ่มให้ตกต่ำลง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแต่อภิญญาเลือกที่จะไม่รับสาย แม้จะทุกข์ทรมานมากแค่ไหนแต่เธอก็ต้องทำให้ได้ หญิงสาวตัดสินใจปิดเครื่องโทรศัพท์ งดติดต่อกับผู้คน นั่งทำงานเงียบๆจนกระทั่งหมดเวลา

“ให้ฉันไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไร ช่วงเย็นๆแบบนี้คนเยอะ ไม่น่ากลัวหรอก”

เมื่อเช้าเธอคงออกจากบ้านผิดจังหวะไปหน่อย ก็เลยไม่มีเพื่อนร่วมทางเหมือนทุกๆวัน แต่หากเป็นช่วงเย็นผู้คนจะพลุกพล่านมากจนแทบจะเดินเบียดเสียดกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอภิญญาจึงไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะอย่างน้อยๆก็มีเพื่อนร่วมทางมากมายคงไม่มีใครกล้าเข้ามาข่มขู่เธอแบบเมื่อเช้าอีก

“ยังไงก็เดินทางดีๆ ระมัดระวังตัวเองด้วย”

นฤมลเป็นห่วง แต่ในเมื่อเพื่อนของเธอยืนยันว่ากลับเองได้ เธอก็ไม่กล้าเซ้าซี้ กลัวว่าอีกฝ่ายจะรำคาญ

ช่วงเวลาที่เดินทางกลับบ้านเธออภิญญาจำเป็นต้องเปิดเครื่อง เพื่อกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ทันทีที่เปิดเครื่องได้ไม่นานภูภูมิก็โทรเข้ามา ทั้งยังส่งข้อความมามากกว่าสิบครั้ง

อภิญญาน้ำตาแทบร่วง สงสารชายหนุ่มจับใจ ภูภูมิไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ผิดอย่างเดียวคือเขาเกิดมาสูงส่งเกินไปจนเธอนั้นเอื้อมไม่ถึง

หญิงสาวกลับมาถึงที่พักซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ขนาดกลาง ความจริงแล้วเธอสามารถเดินออกซอยหลักได้ แต่ที่เดินลัดเลาะมาทางซอยแคบ นั่นเป็นเพราะว่าซอยเปลี่ยวนี้ใกล้บริษัทมากกว่า แต่นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอคงเลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทาง เพื่อป้องกันอันตราย

แม้ว่าทางเดิมจะสะดวกสบายมากกว่าแต่ก็อันตรายจนเธอนั้นไม่กล้าที่จะเดินผ่านอีก หญิงสาวยอมเดินไกลกว่าเดิมเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

โทรศัพท์ยังคงสั่นอยู่ในกระเป๋า อภิญญาจึงตัดสินใจกดปิดเครื่องเพื่อตัดปัญหา เธอไม่จำเป็นต้องติดต่อใครหลังเลิกงาน จึงได้เก็บโทรศัพท์ไว้ในลิ้นชัก

หญิงสาวต้องข่มใจตัวเองเอาไว้ อย่างไรเสียเธอก็ต้องปล่อยภูภูมิไป เธอไม่คู่ควรกับเขา และครอบครัวเขาก็ไม่สามารถยอมรับเธอได้ อภิญญารู้ดีว่าไม่ใช่แค่ภูภูมิที่จะทุกข์ทรมานกับการตัดสินใจของเธอ แต่ตัวเธอเองก็จะได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน ดีไม่ดีคนถูกทิ้งอย่างเขาอาจจะตัดใจได้ในเร็ววัน ขณะที่เธออาจจมปลักไปตลอดชีวิต แต่ถึงยังไงก็เป็นผลดีไม่ใช่หรือ สิ่งที่เธอต้องการคือเห็นภูภูมิมีความสุข แม้ในวันข้างหน้าคนที่อยู่เคียงข้างเขาจะไม่ใช่เธอ แต่อย่างน้อยๆถ้า เขามีความสุขเธอก็พอใจแล้ว

หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา เพียงแค่จินตนาการว่าเจ้าสาวในอนาคตของเขาไม่ใช่เธอ หัวใจก็ร้าวราน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel