ควรปล่อยมือ
ตอนที่ 2
ควรปล่อยมือ
ภูภูมิร้อนใจเป็นห่วงคนรักที่ไม่ยอมรับสาย บางช่วงเธอก็ปิดเครื่อง เขาจึงรีบขับจากโรงแรมมาหาเธอที่บ้าน วันทั้งวันเขาติดงานเลี้ยงสังสรรค์กับลูกค้ารายใหญ่ที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง จึงไม่ได้เจอหน้าหญิงสาวเลยและไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ถึงได้ติดต่อ คนรักยากนัก
ปกติทั้งเขาและเธอมักจะโทรคุยและส่งข้อความหากันเสมอ ไม่เคยห่างกันแบบนี้มาก่อน
รถหรูราคาเฉียดสิบล้านเเล่นเข้ามาจอดหน้าอพาร์ทเม้นท์ ชายหนุ่มเดินลงมาจากรถเรียกสายตาสาวน้อยสาวใหญ่ให้มองตรงมาที่เขาเป็นตาเดียว
ภูภูมิไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ เขาไม่เคยตื่นเต้นเวลามีคนมองมาราวกับพึงพอใจในตัวเขา ชายหนุ่มรักมั่นคง หากไม่ใช่อภิญญาเขาก็ไม่สะดวกใจที่จะคุยด้วย
ชายหนุ่มเว้นระยะห่างจากผู้หญิงทุกคนแม้กระทั่งเพื่อนของเขาเองก็ตาม เพื่อให้เกียรติหญิงสาวที่เป็นคนรัก
“พิมพ์กลับมาหรือยังครับ”
เขามาที่นี่บ่อยครั้งจึงสนิทสนมกับผู้ดูแลตึก ชายหนุ่มท่าทางตุ้งติ้งพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นชี้ไปด้านบน เขาให้การต้อนรับภูภูมิเป็นอย่างดี แม้ว่า อีกฝ่ายจะเป็นคนนอกแต่เขาก็ไม่เคยกีดกัน และยื่นกุญแจสำรองให้เสมอเพราะรู้ดีว่าผู้ชายที่มาเป็นคนรักของอภิญญา
“กลับมาได้สักพักแล้วค่ะ แต่เหมือนน้องจะไม่ค่อยสบาย ดูหน้าซีดๆ”
ได้ยินอย่างนั้นความรู้สึกห่วงก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ชายหนุ่มรีบก้าวขายาวๆขึ้นบันได ตรงมาชั้นสอง ใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไปในห้องหญิงสาว
อภิญญานั่งอยู่ที่ระเบียงกำลังใช้สเปรย์ฉีดน้ำใส่ใต้โคนต้นไม้ เธอดูเหม่อลอยไม่ได้สนใจกิจกรรมตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
“พิมพ์”
อภิญญาเงยหน้า ไม่ได้ตกใจที่เห็นชายหนุ่มอยู่ในห้อง เป็นเรื่องปกติที่เขามักจะใช้กุญแจสำรองไขเข้ามาเสมอ
ภูภูมิคบหากับเธอมานานพอสมควรและสนิทสนมกับผู้ดูแลตึก ด้วยความที่เขาร่ำรวยทางนั้นจึงไว้วางใจ
“โทรศัพท์เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมมันติดๆดับๆ ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง”
ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าดวงตาหญิงสาวบวมเป่ง คล้ายกับคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง ภูภูมิตรงเข้าไปหาคนรักค่อยๆประคองใบหน้าเธออย่างทะนุถนอม
“พิมพ์ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น”
นักธุรกิจหนุ่มมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เห็นหญิงสาวร้องไห้เขาก็รู้สึกปวดใจ ปกติอภิญญาเป็นคนร่าเริงสดใส น้อยครั้งที่เขาจะเห็นเธออมทุกข์แบบนี้
“คุณภูมิกลับบ้านเถอะนะคะ”
เธอไม่ต้องการให้ชายหนุ่มมาเสียเวลากับคนแบบเธอ หญิงสาวจึงเอ่ยปากไล่โดยไม่มองหน้าเขา
ภูภูมิรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป ปกติอภิญญาไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาจึงเชื่อว่าต้องมีใครสักคนมารบกวนจิตใจเธออย่างแน่นอนและคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณภา แม่ของเขาเอง
“แม่ผมไม่ได้มาหาคุณที่บริษัทใช่ไหม แม่ไม่ได้มาพูดอะไรให้คุณไม่สบายใจใช่ไหม”
หญิงสาวไม่ตอบ เพราะสิ่งที่เธอเจอมันเลวร้ายกว่าการได้เผชิญหน้ากับคุณภาเสียอีก เธอถูกผู้ชายร่างใหญ่หน้าตาดุดันข่มขู่ แถมยังใช้มีดจ่อคอหอย คิดแล้วยังรู้สึกกลัวไม่หายแต่เธอก็ไม่กล้าบอกคนรัก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันก็แค่คิดว่าเราควรจะห่างกันสักพัก”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวถึงได้พูดอะไรแบบนี้
“คุณโกรธอะไรผมหรือเปล่า พูดกับผมตรงๆได้ไหม ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่คุณเข้าใจผมผิดอยู่ ผมจะพยายามอธิบาย”
ภูภูมิไม่มีทางยอมแพ้ เขากับเธอจับมือฝ่าฟันอุปสรรคกันมานานเกือบปี จู่ๆจะมาปล่อยมือกันแบบนี้ได้ยังไง ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะยังไม่ยอมรับความสัมพันธ์นี้ แต่ในอนาคตแม่ก็อาจจะใจอ่อน
ชายหนุ่มเชื่ออย่างนั้น แต่สิ่งที่หญิงสาวเจอมันตรงกันข้าม
เพราะรู้ดีว่ายังไงลูกชายก็ไม่มีทางปล่อยมือจากอภิญญา คุณภาจึงตัดสินใจใช้ไม้แข็ง ส่งคนมาข่มขู่ผู้หญิงตัวเล็กๆให้หวาดกลัว
“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ คุณเป็นคนดีมาก ดีทุกอย่าง ดีจนไม่คู่ควรกับกับฉันสักนิด ฉันขอโทษนะที่ไม่สามารถเดินไปกับคุณได้อีกแล้ว ฉันไม่อยากฉุดคุณให้ตกต่ำ ฉันอยากให้คุณได้เจอกับคนที่คู่ควรมากกว่านี้”
หญิงสาวระบายความในใจ เธอไม่ได้อยากพูดอะไรแบบนี้ ไม่ได้ต้องการจบความสัมพันธ์ แต่เธอละอายใจเกินกว่าที่จะจับมือชายหนุ่มเอาไว้
ภูภูมิควรจะได้เจอผู้หญิงที่คู่ควรกว่านี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดาแบบเธอ
อภิญญาอยากเป็นนกที่โบยบินบนท้องฟ้ามากกว่ากาในฝูงหงส์
