หรือควรหลีกทาง
ตอนที่ 1
หรือควรหลีกทาง
ขาก้าวยาวเร่งจังหวะเดินให้เร็วขึ้น เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังไล่ตาม อภิญญากลัวเกินกว่าที่จะ หันหน้ากลับไปมอง แต่เพราะตอนนี้เธอเดินอยู่ในซอยแคบๆหันซ้ายหันขวาไม่มีทางออกจึงจำเป็นต้องรีบ จ้ำอ้าวไปข้างหน้า
หญิงสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เมื่อมาถึงที่เปลี่ยว หัวใจของเธอก็สั่นระรัวมากขึ้นด้วยความรู้สึกกลัว หญิงสาวเร่งฝีเท้าแต่เพราะสวมส้นสูงจึงเดินไม่ค่อยถนัดนัก ได้แต่หลับตาเร่งเท้าให้ตัวเองเดินพ้นไปจากซอยแคบแห่งนี้
“เดี๋ยว!”
เสียงตวาดจากทางด้านหลังทำให้อภิญญาสะดุ้ง ขาทั้งสองข้างหยุดชะงักก้าวไม่ออก เธอค่อยๆหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นชายหน้าตาดุดัน หนวดเครารกครึ้มยืนอยู่ เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้ในขณะที่หญิงสาวก็ถอยหลังกรูด
“มะ มีอะไรคะ”
เธอกลัวมากแต่ก็ทำเป็นใจดีสู้เสือ ชายตรงน่าดูไม่เป็นมิตร เขาชักมีดออกมาจ่อที่คอหอยเธอและเอ่ยเสียงเหี้ยม
“ถ้าไม่อยากตาย เลิกยุ่งกับคุณภูภูมิซะ!”
เสียงกดต่ำเอ่ยเล็ดลอดไรฟันยิ่งเพิ่ม ความน่าเกรงขามมากขึ้น หญิงสาวตัวสั่นไม่กล้า สบสายตาคู่นั้นได้แต่ก้มมองปลายเท้าตัวเอง
“เธอยังสาวยังสวย ไปหาผู้ชายดีๆมาเป็นผัวเถอะ เลิกยุ่งกับคุณภูภูมิได้แล้ว!”
ชายผู้นี้ถูกจ้างให้มาข่มขู่หญิงสาวแต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอแล้วก็อดสงสารไม่ได้ หน้าตาที่ดูใสซื่อไม่มีพิษมีภัย ดวงตากลมโตสั่นระริกดูตื่นกลัว
ชายวัยกลางคนเคยทำงานให้ผู้มีอิทธิพล พออายุมากขึ้นเขาก็ตั้งใจจะปลดระวางตัวเอง แต่ช่วงนี้เงินขาดมือจึงต้องมารับจ้างทำเรื่องไม่ดีแบบนี้
“ถ้ายังอยากมีอนาคต ฉันขอเตือนให้เธอเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้ เพราะถ้าเธอยังดื้อด้าน นอกจากอนาคตจะไม่มีแล้วเธออาจจะไม่มีแม้แต่ลมหายใจ!”
เขาจำเป็นต้องข่มขู่หญิงสาวให้เธอรู้สึกหวาดกลัว เพื่อที่อภิญญาจะได้เลิกยุ่งกับภูภูมิและตัดเขาได้ง่ายขึ้น
ชายผู้มีใบหน้าเหี้ยมโหดเก็บมีดใส่กระเป๋า เดินจากไปโดยไม่ลืมหันมาใช้สายตากดดันหญิงสาว คล้อยหลังอีกฝ่าย อภิญญาก็ขาแข้งอ่อน เธอทรุดนั่งลงที่พื้น ยกมือทาบลงที่หน้าอกข้างซ้าย
เมื่อครู่เธอคิดว่าตัวเองจะถูกฆ่าตายเสียแล้ว อภิญญาพยายามตั้งสติ จนกระทั่งมีคนเดินผ่านมา เห็นว่าหญิงสาวนั่งอยู่ที่พื้น จึงได้เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณ”
อภิญญาเงยหน้า เธอฝืนยิ้มให้อีกฝ่ายและส่ายหน้าเบาๆ โดยตอบไปว่าตัวเองแค่หน้ามืดนั่งพักสักครู่ก็หาย แต่หญิงสาวแปลกหน้าเห็นว่าในซอยนี้ค่อนข้างเปลี่ยว จึงได้นั่งอยู่เป็นเพื่อนรอจนกว่าอภิญญาจะอาการดีขึ้น
“ขอบคุณนะคะ ฉันทำให้คุณต้องไปทำงานสายหรือเปล่า”
อภิญญาเอ่ยถามขณะที่ทั้งสองกำลังเดินออกมาหน้าปากซอย อีกฝ่ายส่ายหน้า เธอเป็นครูอยู่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง ปกติไม่เคยไปสาย แต่ถ้าจะสายบ้างก็คงไม่เป็นอะไร
“ไม่สายหรอกค่ะน่าจะยังทันอยู่ เดินข้ามถนนไปก็ถึงแล้ว”
“อย่างไรก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่อุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อน คุณครูเป็นคนจิตใจดีมากเลยค่ะ”
ทั้งสองส่งยิ้มให้แก่กัน แม้จะมีเรื่องร้ายๆแต่ก็ได้พบกับมิตรภาพที่ดี ทำให้อภิญญาพอจะมีเรี่ยวแรงเดินไปถึงบริษัท
“กว่าจะเสด็จมาได้”
นฤมลเอ่ยแซวเพื่อนสาว เธอเห็นว่าวันนี้อภิญญาเข้างานสายกว่าทุกวันจึงได้เดินลงมารอด้านล่าง
