บทที่ 4 เตรียมตัวสู่ดินแดนอเมริกา
“เมื่อไหร่น้องมึงจะกลับจากไทย จะครบปีแล้วไม่ใช่หรือไง” เสียงเปิดปิดประตูดังสะเทือนไปทั้งห้อง ตามมาด้วยคำถามห้วน ๆ ของผู้มาเยือนทำให้เมสันตวัดสายตาขึ้นมองแบบไม่พอใจนักที่ถูกบุกรุกจากคนที่เขาไม่ยอมรับสายมันเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
“มารยาทไม่มีหรือไงเห็นหรือเปล่าว่ากูทำงานอยู่” เสียงเข้มถามแบบไม่รักษาน้ำใจ
“กูไม่อยากมีมารยาทกับมึง เมื่อไหร่น้องมึงจะกลับ” ลูคัส ถามย้ำในสิ่งที่อยากรู้
“กูไม่รู้”
“มึงเป็นพี่ประสาอะไรไม่รู้ว่าน้องตัวเองจะไปจะมาเมื่อไหร่ ถ้าไมร่าตกอยู่ในอันตรายมึงจะทำยังไง”
“กูเป็นพี่ แล้วมึงเป็นอะไรถึงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนกู ไมร่าโตแล้วไม่จำเป็นต้องติดตามทุกฝีก้าว” สายตาคมเหลือบมองเพื่อนซี้ที่พยายามอยากเสนอตัวมาเป็นน้องเขยพร้อมพูดแบบไม่สะทกสะท้าน ยั่วให้ลูคัสอารมณ์กรุ่นมากยิ่งขึ้น
“แต่น้องมึงเป็นผู้หญิง ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนั้นเป็นปี โดยไม่มีคนคอยคุมก็ว่าเสี่ยงแล้ว นี่มึงยังจะละเลยไม่สนใจทั้งที่ใกล้ถึงเวลาที่ไมร่าต้องกลับเนี่ยนะ”
“เหลือเวลาอีกเป็นเดือนมึงจะโวยวายอะไร ธุรกิจอสังหาของมึงทั้งอเมริกามันล่มสลายแล้วหรือไงถึงมีเวลามายุ่งเรื่องน้องสาวกู” เมสันเริ่มอารมณ์เสียที่ลูคัสโวยวายไม่เลิก
“มึงอย่าทำเป็นไม่รู้อะไร มึงก็รู้ว่ากูเป็นห่วงไมร่า”
“มึงเป็นแค่เพื่อนของพี่ไมร่า ไม่ต้องแสดงท่าทางห่วงจนเกินหน้าเกินตากูที่เป็นพี่หรอก” เมสันสวนเพื่อนอย่างหมั่นไส้
“มึงก็รู้ว่ากูอยากเป็นมากกว่านั้น”
“มึงเคลียร์ตัวเองได้เมื่อไหร่คอยมาพูด กูไม่มีทางให้ไมร่าไปอยู่กับผู้ชายสกปรกอย่างมึง”
“มึงสะอาดตายล่ะไอ้เมสัน ถ้าเลวน้อยกว่ากูกูยอมให้ถีบ” ลูคัสสวนทันควัน ทั้งสองจึงหันมามองกันแบบต่างฝ่ายตางไม่สบอารมณ์นักแต่ก็เป็นสิ่งที่ชินตาสำหรับบรรดาลูกน้องทั้งของเมสันและลูคัสไปแล้ว ถึงแม้จะชอบงัดข้อกันบ่อย ๆ แต่ความจริงใจที่สองหนุ่มมีให้กันนั้นก็ยากที่ใครจะเทียบได้
--------------------------------------------------
เมสันอนุมัติทุนเรียนต่อให้ไพลินโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ หลังจากที่ได้คุยกับหญิงสาวผ่านทางวิดิโอคอล และยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างสำหรับใช้ในการเตรียมเอกสารเดินทางของ หญิงสาวด้วย โดยให้เจเดนผู้ช่วยเลขาของตนเองเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อคอยดูแลและช่วยเหลืออีกแรง พร้อมกับสั่งเจเดนให้พาไมร่าและไพลินเดินทางไปอเมริกาพร้อมกัน
“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเดินทางแล้วนะลิน” ไมร่าพูดท่าทางตื่นเต้น
“ลินคงคิดถึงบ้านมากแน่ ๆ เลย” ไพลินเสียงอ่อย ยิ่งใกล้ถึงวันเดินทางยิ่งรู้สึกเหมือนคนที่เป็นโฮมซิกตั้งแต่ยังไม่ได้ไป
“คิดเสียว่าไปอยู่หอพักก็แล้วกัน ช่วงปิดภาคเรียนลินก็บินกลับมาเยี่ยมบ้านก็ได้ เดี๋ยวนี้การเดินทางอะไรก็ง่ายไปหมด ลินโทรหาพี่สาวทุกวันยังได้เลย” ไมร่ายังคงให้กำลังใจทุกเรื่องกับไพลิน
“ลินขอบใจไมร่าที่ช่วยเป็นสื่อกลางคุยกับคุณเมสันให้ลินนะ คุณเมสันคงไม่ค่อยชอบหน้าลินเท่าไหร่เพราะนอกจากจะต้องให้ทุนแล้วยังต้องเป็นธุระคอยหาที่เรียนให้ลินอีก”
“ลินนี่ชอบคิดมากและขี้เกรงใจจริง ๆ เลยนะ ที่ลินพูดมาน่ะพี่เมสันไม่ได้ทำหรอกแค่สั่งลูกน้องเท่านั้น อีกอย่างพี่เมสันเป็นนักธุรกิจที่มีคนรู้จักไปทั่ว แค่เอ่ยปากนิดเดียวอะไรที่ว่ายากมันก็ง่ายไปหมดแหละอย่าคิดมากเลย เอาเวลาที่คิดมากมาเตรียมแพคกระเป๋ากันดีกว่า จริง ๆ ก็ไม่ต้องขนอะไรไปมากหรอกนะเดี๋ยวค่อยไปหาซื้อที่โน่น” ไมร่าแนะนำเพื่อนสาว
“ถ้าลินไปถึงที่นั่นไมร่าพอจะมีงานอะไรแนะนำให้ลินทำบ้างหรือเปล่า งานเด็กเสริ์ฟร้านอาหารอะไรก็ได้ ลินอยากหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวจะได้ไม่ต้องรบกวนคุณเมสัน แค่พี่ชายไมร่าให้ทุนเรียนกับลินมันก็มากพอแล้ว” ไพลินเกริ่นในสิ่งที่คิดไว้ เธอตั้งใจว่าเมื่อไปถึงอเมริกาจะรบกวนเมสันเฉพาะค่าเรียนเท่านั้น ส่วนค่าที่พัก ค่ากินค่าอยู่ เธอจะขอคำแนะนำจากไมร่าเพื่อหางานทำเพราะเคยได้ยินมาว่าเด็กไทยที่ไปเรียนเมืองนอกส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างหางานทำที่ร้านอาหารเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของทางครอบครัว ไพลินจึงคิดว่าเธอก็น่าจะทำแบบนั้นเหมือนกัน
“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยคุยกันตอนไปถึงอเมริกาดีกว่านะลิน เพราะถึงไมร่าบอกไปตอนนี้ลินก็ไมเห็นภาพอยู่ดี ถ้าอยากจะทำจริง ๆ ไมร่าก็พอแนะนำได้แต่ไมร่าอยากให้ลินไปพักอยู่ด้วยกันที่บ้านไมร่า เอาไว้ลินไปถึงค่อยตัดสินใจอีกทีก็แล้วกันเผื่อว่าพี่เมสันจะมีงานให้ลินทำ จะได้ไม่ต้องออกไปตะลอนหางานอื่น” ไมร่าพูดอย่างมีเหตุมีผล ไพลินจึงพยักหน้าเห็นด้วยในคำแนะนำของเพื่อน
ไพลินได้เอกสารสำหรับเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกามาอย่างครบถ้วนจากการช่วยเหลือของเจเดนที่เมสันส่งมาให้คอยช่วยอำนวยความสะดวก บางอย่างที่ดูเหมือนจะยากและมีปัญหาพอ เจเดนเข้าไปคุยกลับผ่านง่ายดายจนไพลินแปลกใจแต่ไมร่ากลับเฉย ๆ เหมือนรู้อยู่แล้วว่าคนที่พี่ชายส่งมาจะสามารถจัดการปัญหาทุกอย่างได้ ไพลินได้แต่สงสัยแต่ไม่กล้าถามอะไรมากนัก
