บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 แอบมอง

เจเดนพาไมร่าและไพลินเดินทางไปอเมริกาด้วยสายการบินชั้นเฟิร์สคลาสตามคำสั่งของเมสัน ไพลินรู้สึกตื่นเต้นกับการขึ้นนกเหล็กเป็นครั้งแรกในชีวิต การเดินทางไกลที่เธอเคยคิดว่าคงเป็นได้แค่ความฝันตอนนี้ความฝันนั้นกำลังเป็นจริงและยังเป็นฝันที่เกินฝันอีกด้วย

“เป็นไงบ้างลิน กลัวหรือเปล่า” ไมร่าหันมาถามเพราะรู้ว่าเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของไพลิน

“ก็รู้สึกเสียวที่ท้องตอนที่เครื่องกำลังขึ้นแต่ตอนนี้โอเคแล้ว”

“มีอะไรก็บอกได้นะไมร่าขอพักสายตานิดหนึ่ง อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึง” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าคนพูดเริ่มจะง่วงนอนทำให้เพื่อนสาวอย่างไพลินรีบพยักหน้าหงึกหงัก ดวงตาคู่หวานมองเลยไปยังเจเดนที่นั่งอยู่แถวถัดไปใกล้กับไมร่า ตอนนี้ฝ่ายนั้นก็หลับตาแล้วเหมือนกันแต่จะหลับจริงหรือเปล่าเธอก็ไม่รู้ ตั้งแต่ถูกส่งมาจัดการเรื่องบินกลับอเมริกาของไมร่าและคอยช่วยเหลือเธอด้านเอกสารเดินทางไพลินรู้สึกว่าเจเดนพูดน้อยมาก จะพูดก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องพูดเท่านั้น ถ้าไมร่าไม่บอกว่าเจเดนเป็นเลขามือสองของพี่ชาย ไพลินก็คิดว่าเจเดนคงเป็นบอดี้การ์ดเหมือนในหนังแน่ ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย บุคลิก รวมถึงท่าทีเกรงใจที่แสดงกับไมร่านั้น ไม่ต่างอะไรเลยจากการอารักขาบุคคลสำคัญที่เธอเคยเห็นในละคร

ตั้งแต่ไมร่ามาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โรงเรียน ไพลินรู้เพียงว่าบ้านไมร่านั้นร่ำรวยมาก ไมร่าเป็นน้องสาวของนักธุรกิจชื่อดังของอเมริกาแต่ไพลินก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนสาวต่างชาติไปมากกว่านั้น ไม่เคยถามว่าที่บ้านเพื่อนมีธุรกิจอะไร แม้แต่ชื่อพี่ชายของเพื่อนไพลินก็พึ่งรู้จักตอนที่ไมร่าบอกจะขอทุนจากพี่ชายให้ ไพลินจะรับรู้เรื่องราวของที่บ้านไมร่าเท่าที่เพื่อนเล่าให้ฟังเท่านั้น เพราะไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย

บรรยากาศบนเครื่องบินเริ่มมืดสลัวเมื่อไฟในห้องผู้โดยสารถูกดับลงหลังจากพนักงานบนเครื่องได้บริการอาหารและเครื่องดื่มรอบแรกแก่ผู้โดยสารเสร็จสิ้น และเป็นเวลาที่ผู้โดยสารจะได้พักผ่อนกับการเดินทางที่แสนยาวไกลครั้งนี้ ไพลินมองผู้ร่วมทางที่ต่างพากันทยอยหลับตาลง เธอจึงหันกลับมาขยับตัวเล็กน้อยให้เข้าที่ก่อนจะหลับไปในที่สุด

---------------------------------------------

อากาศที่เย็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิสำหรับคนอเมริกาอาจจะสบาย ๆ แต่สำหรับคนที่ไม่ชินกับอากาศเย็นอย่างไพลิน เมื่อถูกความเย็นแรกกระทบผิวหลังจากเหยียบลงบนแผ่นดินอเมริกาก็ทำให้เธอถึงกับสั่นไปเลยทีเดียว มือบางกระชับเสื้อโค้ทตัวหนาเข้าหากันแน่นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย

ทันทีที่ลงจากเครื่องและรอรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วเจเดนก็เดินนำทั้งไมร่าและไพลินไปยังประตูทางออก พอพ้นจากพื้นที่ด้านในก็มีชายร่างหนาสองคนเดินมาสมทบกับเจเดนเพื่อคอยช่วยเหลือในการขนสัมภาระของไพลินและไมร่า และก็เป็นอีกครั้งที่ไพลินสังเกตว่าผู้ชายสองคนที่รอรับพวกเธอที่สนามบินนั้นดูท่าทางเกรงใจและนอบน้อมต่อไมร่าเป็นพิเศษ

“นายสั่งให้คุณแม่บ้านจัดห้องให้เพื่อนคุณไมร่าเรียบร้อยนะครับ ส่วนวันนี้นายมีงานเลี้ยงคงกลับดึก”

“งานเลี้ยงหรือนัดสาวที่ไหนกันแน่ ขนาดว่าไม่เจอกันเป็นปีพอน้องสาวกลับมาบ้านแทนที่จะอยู่รอเจอหน้ากลับเห็นคนอื่นดีกว่า” ไมร่าหน้ามุ่ยสะบัดเสียงเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด

“นายมีงานเลี้ยงกับลูกค้าจริง ๆ ครับ” เจเดนยืนยันแต่ไมร่าก็ยังไม่อยากจะเชื่อเพราะถึงแม้ภายนอกพี่ชายของเธอจะดูเคร่งขรึมเป็นที่น่าเกรงขามเมื่อยามอยู่ในคราบนักธุรกิจ แต่เมื่อถึงเวลาส่วนตัวเมสันก็คือเสือผู้หญิงตัวพ่อดี ๆ นี่เอง คู่ควงแต่ละคนระดับนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ทหรือดาราฮอลลีวูดทั้งนั้น

“ช่างเถอะเจเดน เดี๋ยวไมร่ากับลินจะออกไปทานข้าวข้างนอกไม่ต้องให้แม่บ้านตั้งโต๊ะนะ วันนี้ไมร่าจะพาลินออกไปชมแสงสีของวอชิงตันดีกว่า” ท่าทางไม่พอใจก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีเมื่อนึกบางอย่างได้

“แต่ว่านาย….” เจเดนทำทาจะแย้ง

“ไม่ต้องห้ามไมร่าเลยนะเจเดน” ไมร่าขัดขึ้น เจเดนจึงเลือกที่จะเงียบเพราะหากมาแนวนี้ต่อให้ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง เจเดนรู้ดีว่าน้องสาวเจ้านายคนนี้รั้นเป็นที่หนึ่งมีเพียงเจ้านายของเขาเท่านั้นที่เอาอยู่

“ลินว่าเราเดินทางมาเหนื่อย ๆ พักผ่อนก่อนดีกว่าไหม ไม่ต้องรีบพาลินไปไหนหรอก ลินยังต้องอยู่ที่นี่อีกนานไว้ค่อยไปกันก็ได้” หลังจากที่นั่งเงียบมานานไพลินก็มีโอกาสพูดกับเพื่อนเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นต้นเหตุให้ไมร่ากับพี่ชายต้องขัดใจกัน ดูจากท่าทีของเจเดนแล้วเหมือนลำบากใจยังไงไม่รู้ที่ไมร่าบอกจะออกไปทานอาหารนอกบ้าน

“แค่ออกไปทานอาหารนอกบ้านไม่ได้เหนื่อยอะไรหรอกลิน ทานเสร็จค่อยกลับมาพักผ่อน ไมร่าคิดถึงบรรยากาศยามค่ำคืนของวอชิงตัน ไม่ได้เห็นมานานแล้ว” ในเมื่อเจ้าถิ่นยืนกรานมาแบบนี่ไพลินจึงไม่รู้จะปฏิเสธยังไง สรุปแล้วก็คงต้องแล้วแต่ไมร่าเพราะตอนนี้ไมร่าคือที่พักพิงเดียวที่เธอมี

“คุณไมร่าจะให้จองร้านให้หรือเปล่าครับ” เจเดนถาม

“ก็ดีเหมือนกัน ช่วยจองโต๊ะสำหรับสองที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม…ให้ไมร่ากับเพื่อนด้วย เอาโต๊ะที่มองเห็นวิววอชิงตันแบบ180 องศานะ” ชื่อของโรงแรมที่เมสันถือหุ้นอยู่ถูกระบุเป็นสถานที่สำหรับทานอาหารเย็นของไมร่าและไพลิน เจเดนแอบถอนใจหนัก ๆ เพราะโรงแรมที่ว่านี้ วันนี้เมสันควงนางแบบสาวชื่อดังไปร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นที่นั่นด้วย ถึงแม้ว่าโรงแรมจะกว้างและห้องจัดงานที่เมสันอยู่กับห้องอาหารที่ไมร่าไปจะอยู่คนละฝั่ง แต่เจเดนก็รู้สึกว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์โลกกลมขึ้นมายังไงชอบกล ถ้าหากว่าไมร่าเห็นพี่ชายอยู่กับผู้หญิงอื่นในวันที่น้องสาวพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ แน่นอนว่าไมร่าต้องแสดงอาการไม่พอใจใส่พี่ชายและสาวคู่ควงอย่างแน่นอน เพราะเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วและคนที่โดนหางเลขมากที่สุดก็เห็นจะเป็นคู่ควงของพี่ชายนั่นเอง ด้วยหน้าที่เจเดนจึงต้องโทรบอกให้ดีแลนทราบเพื่อรายงานเมสันให้รับรู้

ไมร่าถูกเลี้ยงมาจากครอบครัวชนชั้นสูง ถึงแม้จะดูมีความเป็นผู้ใหญ่แต่เมื่ออยู่กับพี่ชายก็จะเป็นอีกคนที่รั้นเหมือนเด็กทันที ยิ่งเวลาถูกขัดใจด้วยล่ะก็ไม่ต้องพูดถึง บางครั้งเมสันก็ต้องใช้ไม้แข็งเพื่อปรามอยู่บ่อย ๆ

-----------------------------------------------------

“ลินใส่ชุดนี้ได้หรือเปล่า” เดรสผ้ายืดยี่ห้อดังระดับโลกสีดำแขนยาวถูกยื่นมาตรงหน้าไพลิน เพื่อให้เธอได้ลองสวมใส่

“ลินว่ามันจะเน้นรูปร่างมากไปหรือเปล่า” สายตาของไพลินที่มองดูชุดเหมือนเป็นสิ่งแปลกประหลาดทำให้ไมร่าอดที่จะขำไม่ได้

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าลินไม่เคยใส่เดรสเลย”

“อยู่ที่ไทยลินก็ใส่แต่ชุดนักเรียนกับชุดอยู่บ้านเท่านั้น วันไหนมีงานพิเศษให้ไปรับจ๊อบก็จะใส่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืด ไม่ค่อยได้ใส่แบบนี้” เสียงอ่อยตอบไปตามจริง

“โอเคไม่เป็นไร งั้นวันนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของลินก็แล้วกันที่จะได้ลองใส่เพราะอนาคตลินจะต้องได้ใส่มันบ่อยขึ้นเชื่อไมร่าสิ” ไมร่าดึงตัวไพลินมาใกล้พร้อมยกชุดขึ้นทาบตัวเพื่อน คาดคะเนด้วยสายตาแล้วคิดว่าคงพอใส่ได้

“ลินว่ามันดูเห็นรูปร่างมากเกินไปนะไมร่า” ไพลินยังคงย้ำคำเดิมอย่างไม่มั่นใจ

“ที่อเมริกาผู้หญิงเขาก็ใส่แบบนี้เวลาออกไปดินเนอร์นอกบ้านทั้งนั้นแหละ นี่ไมร่ากลัวว่าลินจะหนาวหรอกนะถึงเลือกแขนยาวให้ จริง ๆ แล้วชุดเดรสไมร่าส่วนใหญ่จะเป็นสายเดี่ยวมากกว่า ลินใส่ไปเถอะเชื่อไมร่าสิว่าใส่แล้วลินจะต้องสวย” ไมร่าจัดแจงทุกอย่างทั้งเสื้อผ้าหน้าผมให้ไพลินเพื่อให้เหมาะกับสถานที่ที่พวกเธอจะไป ไมร่าค่อนข้างที่จะแต่งตัวเก่งเพราะด้วยฐานะทางสังคมของที่บ้านที่บางครั้งเมสันก็ต้องพาน้องสาวออกงานด้วยหากว่างานนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับครอบครัว แม้จะเอาแต่ใจและรั้นกับพี่แค่ไหนแต่เมื่อถึงเวลาจริงจังไมร่าก็ไม่เคยทำให้พี่ชายผิดหวัง

รถของที่บ้านเดวาลอฟพาหญิงสาวทั้งสองมายังจุดหมายที่ต้องการ ไมร่าในชุดเดรสสายเดี่ยวพอดีตัวหนีบกระเป๋าถือใบย่อมไว้ที่แขนและไพลินในชุดเดรสรัดรูปสีดำคอกว้างแขนยาวที่ยาวเลยเข่ามาเล็กน้อยนั้นดูสง่าและสวยงามจนเรียกสายตาแทบจะทุกคู่ที่อยู่บริเวณลอบบี้ของโรงแรมให้หันมามอง

ไมร่าออกจะชินกับสายตาที่มองมาเหล่านั้นแต่ไพลินนั้นประหม่าจนแทบก้าวขาไม่ออก ไมร่าเดินนำไพลินเข้าไปยังภายในโรงแรมหรูใจกลางกรุงวอชิงตันแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่มีร้านอาหารชื่อดังตั้งอยู่ เมื่อมาถึงก็มีบริกรเดินพาไปยังโต๊ะที่เจเดนจองไว้ให้

“เป็นยังไงบ้างลิน วิวยามค่ำคืนของวอชิงตันสวยหรือเปล่า” ไมร่าถามเมื่อเดินมานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว

“สวยมาก สวยแบบที่ลินไม่เคยเห็นมาก่อน ลินไม่คิดเลยนะว่าวันหนึ่งลินจะได้มีโอกาสมายืนอยู่ตรงนี้”

“ไม่ต้องซึ้งมากนะ ไม่อยากกินน้ำตาแทนข้าว” ไมร่าพูดดักคอเพราะรู้ว่าไพลินจะต้องร้องไห้แน่

“ไมร่าก็รู้ทันลินไปทุกเรื่อง ว่าแต่ลินไม่มั่นใจที่ใส่ชุดแบบนี้เลย เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาในโรงแรมมีแต่คนมองเรา ลินแทบก้าวขาเดินไม่ออก”

“ไม่ต้องไปสนใจหรอก เราสวยไงเขาก็เลยมอง ว่าแต่ลินใส่ชุดแบบนี้แล้วดูไม่ได้บอบบางเหมือนที่คิดเลยนะ”

“ไมร่าว่าลินอ้วนเหรอ” ไพลินแกล้งทำเสียงงอน

“เปล่า ๆ จะชมต่างหากว่าลินมีรูปร่างที่สวยสมส่วนมาก ไม่อ้วนไม่ผอม เอวคอดมาก หุ่นแบบนี้นางแบบวิกทอเรียซีเคร็ทยังอาย” ไมร่ารีบอธิบายและชมเพื่อน

“ไมร่าก็พูดเกินไป ลินอายแล้วเนี่ย” สองสาวหัวเราะก่อนอาหารที่สั่งไว้จะทยอยมาเสริ์ฟ ทั้งสองนั่งคุยกันไปทานอาหารกันไปโดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมายังพวกเธอ สายตาคมกริบกำลังมองดูสาวชาวไทยอยู่ในมุมหนึ่งของร้าน เขาเห็นเธอตั้งแต่เดินลงมาจากรถของที่บ้าน เมสันยอมรับว่าสาวชาวไทยเพื่อนของน้องสาวเขาคนนี้มีแรงดึงดูดบางอย่างที่มหาศาลจนเขาอยากจะค้นหา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel