ตอนที่ 1-4
เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
ในเช้าวันหนึ่งขณะคุณหญิงชลัมพรกำลังจิบชาอังกฤษในยามเช้าพร้อมขนมมาการองสีสันสวยงามที่เพื่อนหอบหิ้วมาฝากจากโรงแรมดัง 6 ดาวในเชียงใหม่ คุณหญิงเกิดหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมเมื่อสายตากวาดไปเห็นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งฉบับที่ขายดีที่สุดมีรูปของชลลัมพี ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางกำลังโอบกอดกับดาราสาวเจ้าบทบาทคนหนึ่งออกมาจากโรงแรม ซึ่งเธอคนนั้นเป็นอดีตแฟนเก่าของชลลัมพีที่เคยคบหากันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเป็นหลานเลี้ยงของผู้ใหญ่ที่คุณหญิงนับถือ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเลือกแต่งงานไปกับลูกรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เพราะเหตุใดคุณหญิงชลัมพรไม่อาจทราบได้ก็เห็นว่าเลิกลากันไปนานแล้ว
แต่ที่อกคนเป็นแม่จะแตกเพราะว่าภาพท่าทางโอบกอดกันซึ่งช่างภาพแอบถ่ายภาพไว้ได้มันชวนให้คิดเป็นอื่นไม่ได้ถ้าเป็นผู้หญิงโสดมันก็ยังไม่น่าเกลียดเท่าฝ่ายหญิงมีสามีเป็นตัวเป็นตนพร้อมลูกอีกหนึ่งคนแล้ว
พาดหัวข่าวที่ชวนให้เป็นลมก็คือ ไฮโซหนุ่มชลลัมพี CEO แห่งบริษัทเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ย่องตีท้ายครัวลูกชายรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แอบพาดาราสาวรินลณีย่องเข้าโรงแรมกลางกรุงกลางวันแสก ๆ สรุปก็คือลูกชายของคุณหญิงไปเล่นชู้กับลูกรัฐมนตรีทั้งที่ชลลัมพีเองก็มีคู่ควงทั้งนางแบบ ดารา พริตตี้ไม่รู้กี่คนต่อกี่คน
คนเป็นแม่จึงไม่สามารถละเลยให้ลูกชายตกเป็นจำเลยสังคมได้ ทันทีที่บุตรชายเดินเข้าบ้านมาพร้อมอาการยังไม่สร่างเมาดีที่สำคัญปกคอเสื้อเชิ้ตยังมีรอยเปื้อนลิปสติกสีสดติดมาเป็นของฝากแม่จากลูกสะใภ้คนไหนหรือคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ รอยลิปสติกเป็นรูปริมฝีปากสตรีชัดเจนบ่งบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนที่พ่อลูกชายตัวดีไม่กลับบ้านไปผ่านศึกอะไรมาบ้าง
เพราะประเด็นวันนั้นจึงเกิดวันนี้เขาจึงจำต้องตกเป็นจำเลยของมารดาว่าเป็นผู้ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลป่นปี้ท่านจึงมีใบสั่งให้เขามีเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีจะได้พ้นขอหาว่าไปเล่นชู้กับลูกสะใภ้ท่านรัฐมนตรีที่กำลังจะล้มละลาย
ทั้งที่ผ่านมาคุณหญิงตามใจลูกชายเพียงคนเดียวมาตลอดไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวแม้จะไม่ชอบคู่ควงทั้งหลายของลูกชายก็ตามเพียงแต่ตักเตือนอยู่ห่าง ๆ พร้อมพยายามแนะนำผู้หญิงดี ๆ ให้ แต่ชลลัมพีก็ไม่เคยสนใจแถมยังไปยุ่งกับเมียชาวบ้านจนฉาวไปทั้งเมืองแบบนี้นางคงทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้
และเช้าวันนั้นชลลัมพีจำได้ดีไม่เคยลืมว่าคุณหญิงแม่ที่เปรียบดั่งน้ำเย็นมาตลอดกลับกลายเป็นน้ำร้อนสาดเอา ๆ ทำให้เขาสร่างเมาทันทีเมื่อท่านยื่นคำขาดว่าเขาควรเลิกใช้ชีวิตโสดอันเสเพลเรื่องงานน่ะรุ่งแต่เรื่องมุ้งยุ่งและคาวเหลือเกิน ท่านจะไม่ทนอีกแล้ว
หากคิดจะบ่ายเบี่ยงอีกคราวนี้หุ้นทั้งหมดของสยามอีเทอนัลประเทศไทยจำกัดมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท ท่านจะขายทิ้งให้หมดเอาเงินไปบริจาคให้มูลนิธิต่าง ๆ ให้สิ้นและจะไล่เขาออกจากตำแหน่งท่านประธานไปเป็นพนักงานในไลน์ผลิต
‘ช่างทำกับลูกชายคนเดียวได้’
เรื่องแค่นั้นเขาไม่กลัวหรอกแต่อาการโรคหัวใจกำเริบยามถูกขัดใจนี่สิ วันนั้นเขาจำเป็นต้องรับคำท่านเอาไว้ก่อนว่าจะเลือกผู้หญิงคนใดคนหนึ่งมาเป็นภรรยาแต่งงานออกหน้าออกตา
แต่ท่านกลับมีข้อแม้ขึ้นมาว่าท่านจะไม่ยอมให้เขาเลือกผู้หญิงที่มีอาชีพเป็นนางแบบ ดารา นักร้อง พริตตี้มาเป็นสะใภ้ท่านไม่ชอบอาชีพที่โชว์เนื้อหนังมังสาเพราะไม่คู่ควรจะมาเป็นสะใภ้ตระกูลผู้ดีเก่าของท่านแล้วจะเหลือใครล่ะที่ท่านจะยอมรับได้ที่ควงๆ อยู่ส่วนมากก็ดารากับนางแบบ และมีแอบซุกพริตตี้เอาไว้บ้าง
ในวันนั้นเขาจึงถามท่านกลับไปว่าแล้วท่านต้องการสะใภ้แบบไหนกันแน่ คุณหญิงแม่จึงยื่นคำขาดว่าสะใภ้ผู้ดีของท่านคือต้องมี ‘เรือนสามน้ำสี่’ ทำเอาเขายืนงงเป็นไก่ตาแตกมันคืออะไร
ท่านอธิบายจนเขาอึ้งไปชั่วขณะความหมายของเรือนสามน้ำสี่ก็คือหญิงสาวคนนั้นจะต้องดูแลบ้านเรือนได้อย่างดี ดูแลเรือนร่างตนเองให้น่ามอง เป็นคนดี ทั้งกาย วาจาใจ กิริยามารยาทดี จิตใจดี มีน้ำใจ มีน้ำคำหวานคอยปลอบประโลมใจสามี ที่สำคัญต้องถือศีลห้า และควรจะต้องมีเสน่ห์ปลายจวัก พอท่านพูดจบชลลัมพีถึงกับอ้าปากค้างกับสเปคลูกสะใภ้ของมารดาผู้หญิงพวกนั้นสงสัยจะมีแค่ในวรรณคดี
ชลลัมพีจำได้ว่าตนหน้าถอดสีเหงื่อแย่งกันผุดบนหน้าผากกุลสตรีไทยแบบแม่ต้องการสเปคแบบที่ท่านว่าจะไปหาได้ที่ซูเปอร์มาร์เกตไหน มันไม่ได้มีตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปเสียหน่อย คุณหญิงแม่ยังไม่สะใจพอเห็นหน้าที่ซีดเผือดของเขาแล้ว ท่านจึงเสนอต่อว่าหากเขาเลือกคู่ควงคนใดคนหนึ่งที่มีสเปคแบบที่ท่านต้องการขึ้นมาเป็นภรรยาตัวจริงไม่ได้ท่านก็จะหาคู่ให้เอง
มีหรือคนอย่างนายชลลัมพีจะยอมให้จับคลุมถุงชนง่าย ๆ เขาจึงรับคำท่านไปก่อน แล้วเมื่อมานั่งคิดพิจรณาทีหลังก็ไม่มีสาวข้างกายคนไหนพอจะเข้าสเปค
จนกระทั่งวันหนึ่งเขามองไปที่หน้าห้องทำงานและพบว่ายัยป้าเลขาที่เขาไม่ค่อยจะแยแสเธอเพราะเธอคือเลขาเก่าของแม่ที่เขาไม่ได้เลือกด้วยตัวเองแต่ติดตรงที่บุษบาบัณทำงานดีมาตลอดจนเขาหาเรื่องไล่ออกหรือย้ายตำแหน่งเธอไม่ได้ เธอนี่เองที่มีคุณสมบัติตามที่แม่ของเขาต้องการทุกข้อ กิริยา มารยาทดีพูดจาน่าเชื่อถือ ดูเป็นกุลสตรี รักษาศีลห้าทุกวันพระ มีเสน่ห์ปลายจวัก ยกเว้นเขาไม่เคยมีใจหรือสนใจเธอเลยหรือแท้จริงแล้วสนใจอยู่ลึก ๆ แต่ถูกกลบความรู้สึกเพราะคำว่าเจ้านายกับลูกน้องก็ไม่อาจรู้ได้
และแล้วฟ้าก็เข้าข้างผู้ชายที่แม้จะไม่ค่อยสด แต่ยังอยากครองความโสดหลังแต่งงาน เขาบอกตัวเองว่าไม่ต้องการภรรยาจริง ๆ เสียหน่อยเขาแค่ต้องการผู้หญิงที่แม่ยอมรับและพร้อมจะทำตามข้อเสนอแต่จะทำอย่างไรดีให้บุษบาบัณยอมช่วยเหลือนั่นคือปัญหา
และสวรรค์ก็เข้าข้างคนที่ไม่อยากถูกผูกมัดด้วยคำว่าแต่งงานอย่างเขาอีกครั้ง ฟ้าท่านคงเห็นใจคนถูกแม่บังคับ บุษบาบัณเข้ามาหาเขาในบ่ายวันหนึ่งด้วยสีหน้าซีดเผือดเป็นกระดาษขาวรอพิมพ์งาน ทำหน้าตื่นกลัวเขาเหมือนตอนที่ถูกอาละวาดใส่หากเธอปล่อยให้ผู้หญิงของเขาหลุดเข้ามาหาถึงห้องทำงานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
บุษบาบัณนั่งตัวรีบเหมือนมีปัญหาหนักอกหนักใจเขาถามเธอว่ามีอะไรต้องการให้เขาช่วยเหลือหรือเปล่า เธออ้ำอึ้งอยู่สักพักก่อนจะขยับปากพูดว่าจะมาขอกู้เงินจากเขาเป็นจำนวนเงินห้าล้านบาทเพื่อไปปรับปรุงโรงแรมเก่าของครอบครัว และร้านขนมไทโบราณอันเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ของเธอและครอบครัว เธอขอให้เขาเห็นใจที่เธอตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์มานานตลอดหลายปี
บุษบาบัณกู้ธนาคารไม่ผ่านเนื่องจากได้เคยกู้เงินจากธนาคารมาครั้งหนึ่งแล้วเพื่อนำไปซื้อรถยนต์ให้น้องชายและยังผ่อนไม่หมด เธอยินดีให้เขาคิดดอกเบี้ยได้ตามกฎหมายร้อยละสิบห้าต่อปี และให้เขาหักทั้งต้นและดอกเบี้ยจากเงินเดือนประจำของเธอในทุก ๆ เดือนซึ่งเธอมีรายได้ประจำประมาณสี่หมื่นบาทต่อเดือน เขาลองจิ้มเครื่องคิดเลขให้เธอดูและส่ายหน้า ดอกเบี้ยแค่นั้นเล็กน้อยมากสำหรับเขา ดูไม่เห็นจะคุ้มค่ากับการลงทุน
บุษบาบัณหน้าซีดผือดหลังจากเขาตอบกึ่งปฏิเสธ เขาจึงยื่นข้อเสนอใหม่ให้เธอทันที และเมื่อยัยป้าเลขาฟังจบเธอขยับกรอบแว่นตาคล้ายแว่นตัวการ์ตูนอาราเล่อันโตที่มีผลทำให้ใบหน้าสวยใสนั้นดูแก่กว่าวัยไปมากโข แล้วมองหน้าเขาราวกับว่าเจ้านายของเธอที่ใคร ๆ เปรียบเทียบกันว่าหล่อเหมือนดารา ติ๊ก เจษฎาภรณ์ กลายเป็นปีศาจมาจากอเวจีเพื่อยื่นข้อเสนอร้ายกาจที่สุดในชีวิตให้
หลังจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าแดงก่ำราวกับจะวิ่งออกไปร้องไห้นอกห้อง เขาจึงเรียกเธอไว้ให้นั่งลงและอธิบายว่าทำไมเขาถึงคิดจะจ้างเธอมาเป็นภรรยาตามกฎหมายอธิบายอยู่หลายชั่วโมง
เขาชี้แจงให้เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าเขาไม่เคยพิศวาสหน้าตารูปร่างของเธอแม้แต่น้อย เพราะสาว ๆ ของเขานั้นล้วนมีแต่คนงามระดับซุปตาร์ทั้งนั้น แต่ที่ต้องยื่นข้อเสนอให้เธอพิจารณาเพราะมารดาบังเกิดเกล้าบังคับให้หาภรรยาที่เป็นกุลสตรีโบราณ มีเรือนสามและน้ำสี่ มีความเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมดีทั้งกาย วาจาใจ และไม่ได้มีอาชีพเป็นดาราหรือนางแบบซึ่งเขาเห็นว่าหลายข้อมีอยู่ในตัวเธอ
และเอ่ยปากสัญญาว่าหากบุษบาบัณยอมรับข้อเสนอของเขา เขาจะไม่แตะต้องเธอโดยเด็ดขาดโดยเขาขอเวลาแค่หนึ่งปีแล้วจะรีบหาเรื่องหย่าขาดจากกันและเมื่อตอนนั้นเธอจะมีอิสระจะไปแต่งงานกับใครยังไงก็ได้ เธอปฏิเสธในทีแรกพร้อมทั้งบอกว่าจะลองไปยื่นเรื่องที่ธนาคารอื่นดูแต่พอหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เธอก็ต้องยอมรับและยอมแต่งงานเป็นเจ้าสาวเพียงในนามเพราะเขามีวิธีบางอย่างทำให้เธอกู้กับทุกธนาคารไม่ผ่าน มิหนำซ้ำบุษบาบัณยังถูกธนาคารเร่งรัดหนี้สิ้นอย่างหนักด้วยฝีมือใครคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังจนในที่สุดบุษบาบัณก็ยอมรับข้อเสนอของเขาอย่างจำใจ
ขณะคิดอะไรเพลิน ๆ ประตูห้องแต่งตัวก็ถูกเคาะก่อนจะถูกเปิดออกพร้อมกับนางต้นห้องของมารดาที่เปลี่ยนชุดอีกแล้วทำราวกับจะเป็นเจ้าสาวเองเขมศรีมาในชุดเดรสสีชมพูกระโปรงผ่าลึกเธอเข้ามาฉีกยิ้มหวานและแจ้งว่างานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสใกล้จะเริ่มแล้วเขาควรจะลงไปในงานได้แล้วพร้อมบรรยายความสวยของเจ้าสาวว่าคืนนี้สวยนักหนา
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะคุณพี คืนนี้คุณพีของเขมล้อหล่อ” พร้อมกับถึงเนื้อถึงตัวเช่นเคย สองมือตรงเข้ามาควงแขนชลลัมพีและพยายามดึงให้เขาตามเธอไป
“อะไรนี่เขม จะมาเร่งอะไรกันนักกันหนา” เขาสะบัดแขนนั้นออกอย่างเคยชิน ไม่ได้รังเกียจที่เขมศรีเป็นสาวประเภทสอง แต่มีรำคาญอยู่บ้างเป็นบางครั้ง
“ก็คุณหญิงน่ะสิคะเร่งเขมมาว่ายี่สิบนาทีต้องพาคุณพีลงไปที่งานให้ได้ไม่งั้นเขมจะถูกหักเงินเดือน”
ชลลัมพีไหวไหล่อย่างรำคาญแต่ก็ชินเสียแล้วกับนางต้นห้องคนสนิทของคุณแม่ ที่วันนี้แต่งตัวเสียสวยเช้งหากไม่รู้จักกันและมึนเมา ๆ ไปเจอข้างนอกเขาอาจเผลอจีบเธอก็ได้แต่ที่จริงแล้วเขมเป็นสาวประเภทสองที่แปลงเพศแล้ว
“เงินเดือนเธอไม่ใช่เงินเดือนฉัน คุณแม่จะหักเงินเดือนเธอแต่ฉันขอเตะเธอสักทีได้ไหมยัยเขมศรีจอมเจ้ากี้เจ้าการดีนัก ปล่อยสิบอกให้ปล่อยแล้วออกไปได้แล้ว”
“ว้าย!!! คุณพี ใจร้าย ไม่มีมนุษย์ธรรมกับกระเทยเลยนะคะเนี่ย” เขมศรีทำสีหน้าผิดหวัง
คุณมือแกะมือที่เกาะแขนล่ำ ๆ ของเขาออก สาวประเภทสองคนงามรีบปล่อยแขนชลลัมพีทันที พร้อมท่าทางสะบัดสะบิ้งและสายตามองค้อน “หน้าตาก็หล่อราวกับเทพบุตร แต่พูดจาเข้าสิอย่างกับอสูรกายปากร้ายจริงเชียวคุณพีนี่ แต่งงานแล้วขอแช่งให้กลัวเมีย” พร้อมกับเมินหน้าหนีเหมือนงอน
ชลลัมพีส่งยิ้มร้ายและหัวเราะเบา ๆ “จะร้ายกว่านี้อีกถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับฉันยัยเขม พูดมากเดี๋ยวจะจับโยนออกไปนอกหน้าต่าง” ชลลัมพีทำหน้าบอกบุญไม่รับแต่เขมไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มเป็นคนใจดีวาจาขวานผ่าซากแต่เนื้อแท้นั้นไม่ได้ใจร้ายเป็นยักษ์เป็นมารเหมือนสีหน้าท่าทางที่แสดงออก
เขมศรีชักสีหน้า “โธ่! แกล้งเขมอยู่ได้เร็วสิคะคุณพี รีบลงไปดูสิคะวันนี้คุณบุษเธอสวยผิดหูผิดตาแค่ไหนชุดเมื่อช่วงเช้าว่างาม
เหมือนนางในวรรณคดี แต่ชุดฉลองมงคลสมรสคืนนี้เธอยังสวยเหมือนซิลเดอเดลราอีก นี่ถ้าไม่รู้ว่าคุณบุษบาบัณอายุสามสิบสอง
เขมต้องคิดว่าเธออายุไม่เกินยี่สิบห้า คุณพีนี่ตาถึงจริง ๆ ใครจะคิดว่าคุณป้าเลขาที่แต่งตัวเฉย ๆ สวมแว่นตาหนาเตอะแค่ถอดแว่นตาและจับไปขัดสีฉวีวรรณทำผมเสียใหม่แค่นี้ก็ ไฉไลไม่แพ้ดารา….อ้อที่สำคัญคงไม่มีใครคิดว่าที่คุณพีแกล้งว่าแกล้งใช้งาน และเรียกคุณบุษว่ายัยป้าเลขา ที่แท้เป็นการสับขาหลอกให้ทุกคนจับไม่ได้ว่าคุณพีกำลังคบหาดูใจกับเลขาของตัวเอง แหม...ช่างแนบเนียนจังเลยนะคะเจ้านาย” สายตานางต้นห้องของมารดามองมาที่เขาอย่างจับผิดมากกว่าจะชื่นชม
ชลลัมพีรู้สึกร้อนตัวขึ้นมา “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเขม เธอก็รู้นี่ว่าเรื่องรักในที่ทำงานคือเรื่องต้องห้ามหากไม่มั่นใจใครล่ะจะกล้าเปิดเผยตัวที่ผ่านมาฉันทำแบบนั้นกับบุษเขาก็เพราะว่าคนจะได้ไม่สงสัยเรื่องของเรา เพราะไม่งั้นเดี๋ยวคนในบริษัทจะพูดไปว่านายชลลัมพีทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดมันจะไม่ดีต่อระบบการปกครองเข้าใจไหม”
เขมศรียิ้มและมองชลลัมพีอย่างรู้ทันก่อนจะถอนหายใจ “แสดงว่าแม่พวกดารา นักร้อง พริตตี้ที่คุณพีควงร่อนไปเร่มาเข้าโรงแรมโน้น ออกโรงแรมนี้ บินไปกินตับไกลยังต่างประเทศบ้างก็มีนั่นก็คือแผนการลวงสับขาหลอกให้คนเข้าใจผิดใช่ไหมคะ”
ชลลัมพียิ้มกว้างแววตาเอาเรื่องนางต้นห้องของมารดา ที่แอบกัดเขา “รีบออกไปเลยก่อนที่เธอจะถูกฉีกแขนฉีกขาและโยนออกไป อย่าได้ทำตัวสู่รู้หรือทำตัวเป็นหน่วยสอดแนมเข้าใจไหม” จากนั้นเจ้าของใบหน้าคร้ามคมก็ยื่นมือมาทำท่าว่าจะบีบคอเลขาคนปัจจุบันของมารดาจริง ๆ
