1.กามเทพเล่นกล
*** ทักทายคร้า ***
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
รถเบนซ์คันหรูส่ายไปมาบนเส้นทางถนนบางนา-ตราดที่มุ่งหน้าไปจังหวัดระยอง แต่ร่างสูงสง่าที่นั่งอยู่ด้านหลังกลับไม่สะทกสะท้าน ชายฉกรรจ์ใส่สูทสีดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าสองคนหยิบปืนพกที่เหน็บอยู่กับเอวออกมา ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“คุณชายระวังตัวด้วยนะครับ”
เสียงภาษาอาหรับดังออกมาจากปากของอลัน องครักษ์ของเหมราช คาราซัฟ อาบีอิน ลูกครึ่งไทย-อาหรับ นักธุรกิจค้าน้ำมันและโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมาร์จาและติดอันดับมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของโลก
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนกลยิงกราดเข้าใส่หน้ารถ แต่ไม่ได้ระแคะระคายกระจกกันกระสุนแม้แต่น้อย
เหมราชกดสวิตช์ลิ้นชักหยิบปืนออกมา มือกระชับปืนไว้แน่น สบตากับอลันและดาจิมองครักษ์อย่างรู้กัน
“จะฆ่ากันให้ตายเลยใช่ไหม ได้เลย” ร่างสูงเบี่ยงตัวยิงใส่รถคันหลังที่วิ่งเบียดเข้ามาใกล้ รถอีกคันที่อยู่ด้านหลังประกบยิงเข้าที่ยางรถทำให้รถส่ายไปมา
เอี๊ยด!!!
“คุณชายหนีออกไปก่อน ผมกับจิมจะยิงคุ้มกันให้ เร็วครับ!” อลันตะโกนบอก
เหมราชพยักหน้าเปิดประตูรถกระโดดออกไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยร่างของอลันและดาจิมเปิดประตูด้านหน้ากระโดดออกมา รถวิ่งเข้าไปชนต้นไม้ข้างทางระเบิดเสียงดังสนั่น
บึ้ม!!!!!
ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ระวังตัวนะอลัน จิม”
เสียงปืนยังคงดังไม่หยุด ชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวแปดคนสวมชุดสีดำเปิดประตูเดินลงจากรถมาดูผลงานพลางแสยะยิ้มนัยน์ตาเหี้ยมเกรียม เพราะคิดว่าทั้งสามติดอยู่ในรถที่กำลังมีไฟลุกท่วมทั้งคัน
ดวงตาคมกริบดุจพญาอินทรีของเหมราชมองคนที่จ้องเอาชีวิตเขาอย่างแปลกใจ มือปืนพวกนี้เขาไม่เคยเห็นแถมยังเป็นคนไทยทั้งหมด คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย การมาเมืองไทยของเขาเป็นความลับ รู้กันเฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นเอง แล้วข่าวรั่วออกไปได้ยังไง แสดงว่าภายในวังหลวงมีหนอนบ่อนไส้ปะปนอยู่แน่นอน และด้วยความที่กระโดดออกมากระแทกกับพื้นอย่างแรงจึงทำให้ชายหนุ่มไม่รู้สึกตัวอีกหลังจากนั้น
สวนส้มกัญนราเป็นสวนของคุณนายสายใจ ชยากาล ข้าราชการบำนาญที่ผันตัวเองมาเป็นชาวสวน นับว่าเป็นสวนเก่าแก่และกว้างพอสมควร ด้วยวัยหกสิบเอ็ดปีหลังเกษียณอายุราชการครู คุณนายสายใจก็ตั้งหน้าตั้งตาทำสวนที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่สามีทิ้งไว้ให้ ก่อนตายไปเมื่อหลายปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทิ้งให้เธอต้องอยู่กับกัญนรา ชยากาล หลานสาวที่เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอ
“นายแม่! นายแม่!” เสียงเรียกอย่างตกอกตกใจของจ้อยดังเข้ามาใกล้
หญิงวัยกลางคนในชุดเสื้อแขนยาวสีดำและกางเกงผ้ายืด ใบหน้าถูกปิดด้วยหมวกใบโตที่กำลังสำรวจผลส้มที่ออกลูกเหลืองไปทั้งสวนและคนงานหลายสิบคนที่กำลังขะมักเขม้นเก็บส้มอยู่ต่างหันไปมองต้นเสียงพร้อมๆ กัน
“นายแม่อยู่นี่จ้อย มีอะไร” คุณนายสายใจขานรับพร้อมกับเดินออกมาจากใต้ต้นส้มเขียวหวาน
“แย่แล้วนายแม่ มีผู้ชายสามคนนอนสลบอยู่ท้ายสวนโน่น” ร่างผอมหอบหายใจ ชี้มือไปทางด้านหลังที่วิ่งมาพลางกระซิบข้างหูสายใจด้วยท่าทางตกใจ
“เป็นคนแถวนี้หรือเปล่า” สายใจกระซิบถามอย่างตกใจ
“ไม่ใช่หรอกนายแม่ เป็นต่างชาติตัวสูงเหมือนแขก ตอนนี้ผมให้ไอ้ดอมมันเฝ้าอยู่”
“จ้อยไปตามนายชมกับนายคิดให้เอารถออกนะ แล้วให้คนไปดูคุณกัญด้วยว่ากลับจากทำงานหรือยัง ถ้ากลับมาแล้วให้ตามไปช่วยที่ท้ายสวน เร็วเข้า” สายใจสั่งเสร็จก็เดินเข้าไปในสำนักงานเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ เพื่อไปหยิบชุดปฐมพยาบาลเผื่อจำเป็นต้องใช้ แล้วรีบออกมาขึ้นรถที่นายชมติดเครื่องรออยู่
ร่างสูงใหญ่ของอลันค่อยๆ ขยับและพยุงตัวลุกขึ้นอย่างยากเย็น ชายหนุ่มมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจความปลอดภัยรอบบริเวณ
ร่างของเหมราชนอนไม่รู้สึกตัวอยู่อีกฟากของท้องร่อง อลันค่อยๆ ประคองตัวเดินเข้าไปหาร่างสูงที่นอนไม่ได้สติ มือหนาจับแขนสีน้ำตาลของนายหนุ่มอย่างเป็นห่วง เขาประมาทเกินไปไม่คิดว่าศัตรูจะกล้าตามมาทำร้ายที่เมืองไทย
“คุณชายครับ…คุณชาย” อลันออกแรงเขย่าแขนเจ้านายเบาๆ
เงียบ! ร่างสูงยังคงนอนเหยียดยาวไม่รู้สึกตัว อลันมองดูบาดแผลทั่วทั้งตัวของคุณชายแห่งวังฮาคาล ลูกชายคนเดียวของชีคนาร์ธานและชายาฟาติมา ผู้มีทั้งอำนาจและบารมี นี่ถ้ารู้ว่าลูกชายสุดรักถูกทำร้ายจะเป็นยังไงบ้างหนอ
สายตาคมของอลันมองเลือดที่แห้งกรังหลังท้ายทอยด้วยใบหน้าและแววตาที่กังวล เสียงขลุกขลักดังจากด้านหลังทำให้ อลันหันขวับและเล็งปืนไปทันที
“ฉันเองอลัน” ดาจิมเดินโซซัดโซเซเข้ามาใกล้ๆ
“นายเป็นยังไงบ้าง” อลันถามอย่างเป็นห่วง
“ฉันยังไหว คุณชายเป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่รู้สึกตัวเลย อาการหนักพอดู” สายตาคมมองผู้เป็นนาย ดาจิมตัดสินใจเขย่าแขนเหมราชอีกครั้ง
“คุณชายครับ คุณชาย”
องครักษ์หนุ่มทั้งสองเริ่มใจคอไม่ดี เพราะร่างสูงสง่าของนายหนุ่มยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง
***
