สิ้นสุดงานเทศกาลบุปผา ๑
เมื่อเสียงประกาศจากพิธีกรดังขึ้น บรรยากาศในงานบุปผาก็เริ่มตึงเครียดและเข้มข้นขึ้น คุณหนูต่าง ๆ ที่มีพลังและทักษะยอดเยี่ยมเริ่มขึ้นสู้กันอย่างดุเดือด ในทุกการต่อสู้ ผู้คนต่างมองไปที่เวทีด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือร้น การต่อสู้ของแต่ละคู่แสดงถึงพลังของพวกนาง ทำให้สายตาทุกคู่มุ่งมองไปยังผู้ที่สามารถเอาชนะได้
เมื่อถึงคู่สุดท้ายที่ทุกคนรอคอย ชิงเฟิงในชุดสีขาวลายดอกเหมยแดงสดใส ยืนอยู่บนเวทีด้วยท่าทีมั่นใจ ดวงตาเป็นประกายของความมุ่งมั่น สายลมพัดเบา ๆ ทำให้ผมยาวของนางพลิ้วไหว สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหล
ตรงข้ามนางคือคุณหนูหลี่ ผู้มีพลังธาตุน้ำที่เป็นที่รู้จักในฐานะนักฝึกที่มีความสามารถสูง นางมีรูปลักษณ์ที่งดงามและแสดงออกถึงความสง่างามแต่แฝงไปด้วยความเฉียบแหลม นางได้ยิ้มให้กับชิงเฟิงอย่างมีเสน่ห์ ขณะที่เริ่มเตรียมตัวเข้าต่อสู้
“ข้าชื่อหลี่ซูเหม่ย หวังว่าคุณหนูอวิ๋นอย่าได้ออมมือ” เสียงหลี่ซูเหม่ยดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงถึงความมั่นใจ
“ดี งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ” ชิงเฟิงตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เมื่อสัญญาณเริ่มต้นดังขึ้น ทั้งสองต่างขยับตัวอย่างรวดเร็ว พลังของพวกนางเริ่มเปล่งประกายออกมา โดยเฉพาะชิงเฟิงที่ใช้พลังธาตุไฟของตนในการสร้างอาวุธเพลิงขึ้นมาในมือ ขณะที่คุณหนูหลี่ซูเหม่ยใช้ธาตุน้ำสร้างกำแพงน้ำป้องกันตัวเอง
การต่อสู้เริ่มต้นด้วยการโจมตีที่ดุเดือด ซุ่มเสียงของพลังและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ชมต่างลุ้นระทึก ซุ่มเสียงของไฟและน้ำปะทะกัน ทำให้เกิดประกายแสงและเสียงดังสนั่น
คุณหนูหลี่ซูเหม่ยใช้พลังน้ำสร้างกระแสน้ำพุ่งตรงไปยังชิงเฟิง แต่ด้วยความมั่นใจ ชิงเฟิงก็สามารถสร้างกำแพงไฟขึ้นมาขัดขวางการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ถึงเจ้าจะมีพลังเพลิง เจ้าก็จงเห็นพลังของน้ำที่ดับเพลิงของเจ้าได้!” เสียงคุณหนูหลี่ซูเหม่ยดังขึ้นขณะที่นางยกมือขึ้นสูง น้ำเริ่มพุ่งไปในรูปแบบของคลื่นเพื่อซัดไปที่ชิงเฟิง
ชิงเฟิงมองไปยังคลื่นน้ำที่กำลังพุ่งเข้ามา นางรวบรวมพลังธาตุไฟเพื่อเปลี่ยนทิศทางของพลังให้กลับไปโจมตีอีกครั้ง โดยสร้างเปลวไฟที่ร้อนแรงพุ่งเข้าไปขัดขวางการโจมตีของน้ำ
“เพลิงแห่งชีวิต!” นางตะโกนขณะส่งพลังไปยังคุณหนูหลี่ซูเหม่ย
การปะทะกันของไฟและน้ำเกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สั่นสะเทือน ทุกคนต่างเฝ้าจับตามองการต่อสู้อย่างตื่นเต้น
ในที่สุดความแข็งแกร่งของชิงเฟิงเริ่มปรากฏขึ้น ขณะที่นางใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์ในการต่อสู้จนสามารถตีความเป็นชัยชนะที่ทุกคนไม่คาดคิด
“เยี่ยมมาก! คุณหนูจากตระกูลหลี่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ไม่สามารถต้านทานไฟที่ร้อนแรงนี้ได้!”
เสียงพิธีกรดังขึ้นในขณะที่การต่อสู้สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของชิงเฟิง
เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังกระหึ่มในงาน ทุกคนเริ่มรู้สึกถึงความสามารถของชิงเฟิงและความมุ่งมั่นที่นางมี สายตาของผู้คนเปลี่ยนไปจากความสงสัยเป็นความเคารพ นางได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้ที่มีพลังและความสามารถเหนือกว่าในงานนี้.
หลังจากการต่อสู้จบลง หลี่ซูเหม่ยยืนอยู่กลางเวทีด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ในขณะที่ชิงเฟิงได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากผู้ชมที่คึกคัก สายตาของซูเหม่ยมองไปที่ชิงเฟิงด้วยความทึ่งและประหลาดใจ
“พลังของเจ้ามันน่าทึ่งมาก” ซูเหม่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
“ข้าไม่เคยเห็นใครที่สามารถควบคุมพลังธาตุไฟได้ดีขนาดนี้มาก่อน”
ชิงเฟิงหันมามองซูเหม่ย พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ขอบคุณเจ้าที่ชมข้า ข้าเพียงแค่พยายามทำให้ดีที่สุดก็เท่านั้นเอง”
“ไม่เพียงแต่พลังของเจ้าเท่านั้นที่น่าทึ่ง แต่วิธีที่เจ้าต่อสู้ด้วยความมั่นใจและความสงบสติอารมณ์ทำให้ข้าเห็นความแข็งแกร่งในตัวเจ้า” ซูเหม่ยพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ต่อสู้กับเจ้าที่มีพลังเยี่ยมยอดเช่นนี้เหมือนกัน” ชิงเฟิงกล่าวตอบพลางหันไปมองผู้ชมที่ยังคงยืนอยู่รอบเวที
“หากมีโอกาส หวังว่าพวกเราจะต่อสู้กันอีกในอนาคต” ซูเหม่ยกล่าวอย่างมั่นใจ
“ข้าจะไม่ยอมแพ้เจ้าอีกในครั้งหน้า”
ชิงเฟิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน! การต่อสู้เป็นสิ่งที่น่าสนุกเสมอ ข้าเองก็หวังว่าจะได้เรียนรู้จากเจ้าด้วยในอนาคต”
การสนทนาเบา ๆ นี้เต็มไปด้วยความเคารพและมิตรภาพ ท่ามกลางความตื่นเต้นของงาน ทุกคนเริ่มรับรู้ถึงความสามารถและศักยภาพของชิงเฟิงที่ทำให้ทุกคนในงานต้องหันมาจับตามอง
“อาจจะมีการทดสอบพลังอีกในอนาคต หรือแม้แต่การประลองใหญ่ในเมืองหลวง” ซูเหม่ยพูดด้วยความหวัง “ข้าจะตั้งใจฝึกฝนให้มากขึ้น”
