บท
ตั้งค่า

ทดสอบพลัง

เมื่อถึงเวลาที่งานเทศกาลบุปผาเริ่มต้นขึ้น ไทเฮาได้เสด็จขึ้นบนแท่นที่จัดเตรียมไว้ บรรดาฮูหยินขุนนางตระกูลสูงศักดิ์ และคุณหนูทั้งหลายต่างเงียบลงทันทีเมื่อเห็นพระพักตร์ของพระนาง ไทเฮาทรงสวมชุดสีทองประดับด้วยลายอันวิจิตร พระพักตร์ของนางแสดงถึงอำนาจและบารมีที่ไม่อาจละสายตาไปได้ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่พระนางอย่างพร้อมเพรียงกัน

ไทเฮายกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน แต่เปี่ยมไปด้วยอำนาจ

“พวกเจ้าทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ข้าขอต้อนรับทุกท่านสู่เทศกาลบุปผาอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ การชุมนุมนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพียงเพื่อเฉลิมฉลองความงามของบุปผา หากแต่ยังเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นพลังและความสามารถของลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์แห่งแคว้นเรา"

พระนางทอดพระเนตรไปยังกลุ่มคุณหนูที่ยืนเรียงรายอยู่ด้านล่าง พลางแย้มพระสรวลบาง ๆ

"ปีนี้พิเศษกว่าครั้งใด ๆ เพราะไม่เพียงจะเป็นโอกาสสำหรับการชื่นชมความงดงาม แต่ข้ายังมีเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณา หญิงสาวที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และความสามารถ จะถูกเลือกให้ร่วมเป็นหนึ่งในตระกูลอ๋อง ข้าเฝ้าดูแลอ๋องทั้งสองผู้มีความดีและความกล้าหาญมาโดยตลอด และข้าเชื่อว่าในวันนี้ หญิงสาวที่เหมาะสมจะปรากฏตัว"

เสียงกระซิบกระซาบในหมู่คุณหนูดังขึ้นทันที ทุกคนต่างลุ้นและตื่นเต้น เพราะการได้รับเลือกหมายถึงการได้เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ หลายคนพยายามเก็บอาการตื่นเต้นไว้ในใจ

ไทเฮาหยุดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ "ข้าขอให้พวกเจ้าแสดงความสามารถ พลังธาตุของแต่ละคน และความงามอย่างเต็มที่ อย่าได้ลังเล เพราะโชคชะตาอาจอยู่ในมือของพวกเจ้าแล้ว”

บรรยากาศในงานกลายเป็นเคร่งขรึม ทุกคนต่างรู้ดีว่านี่ไม่ใช่แค่งานบุปผาธรรมดา แต่เป็นการคัดเลือกหญิงที่จะมาเป็นคู่ครองให้กับท่านอ๋องแฝดผู้ยิ่งใหญ่ที่หญิงสาวทั่วทั้งแคว้นหลงซานหมายปอง

เมื่อไทเฮาประกาศเริ่มต้นการทดสอบ ผู้เข้าร่วมงานต่างรู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดในทันที สนามประลองที่จัดขึ้นกลางสวนเต็มไปด้วยพลังปราณที่เริ่มกระจายออกมาจากคุณหนูแต่ละคนที่เตรียมพร้อมแสดงฝีมือ

พิธีกรผู้ดูแลการทดสอบก้าวขึ้นมาบนแท่น พลางกล่าวว่า 

“เพื่อทดสอบความสามารถในวันนี้ พวกเราจะวัดค่าพลังปราณของคุณหนูแต่ละคน ตามกฎแห่งการบำเพ็ญตนในดินแดนของเรา ขอให้ท่านทั้งหลายแสดงพลังออกมา โดยจะมีลูกแก้ววิญญาณคอยตรวจวัดระดับพลังของพวกท่าน"

ลูกแก้ววิญญาณใสสะอาดถูกนำมาตั้งบนแท่นในบริเวณกลางลาน ลูกแก้วนี้สามารถตรวจจับระดับพลังปราณที่ผู้ใช้บำเพ็ญเพียรมาหลายปีได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสีและความเข้มของแสงที่ปรากฏจะบ่งบอกถึงระดับของผู้บำเพ็ญ

“ขอเชิญคุณหนูจากตระกูลหลี่ก่อนเป็นคนแรก” พิธีกรประกาศ

หลี่ซูเหม่ยก้าวขึ้นมาอย่างสง่างาม ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาอย่างจับจ้อง นางยื่นมือออกไปวางบนลูกแก้ววิญญาณ พลังปราณธาตุน้ำของนางไหลออกจากร่างอย่างสงบและเยือกเย็น ลูกแก้วเริ่มเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนออกมา แต่ค่อย ๆ ทวีความเข้มข้นขึ้นจนกลายเป็นสีน้ำเงินสด แสดงให้เห็นถึงพลังระดับสูงของนาง

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นในหมู่ผู้ชม “นางถึงขั้นก่อแก่นปราณแล้ว!”

หลี่ซูเหม่ยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะถอยกลับไปยังที่นั่งของตน

พิธีกรประกาศต่อไป “ต่อไป ขอเชิญคุณหนูอวิ๋น”

อวิ๋นชิงเฟิงก้าวขึ้นไปอย่างมั่นใจ นางรู้ว่าคนในงานต่างจับตาดูตนเองอย่างใกล้ชิด ข่าวลือที่ร้ายกาจเกี่ยวกับนางยังคงวนเวียนอยู่ในหมู่ชน แต่วันนี้นางตั้งใจจะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงพลังที่แท้จริงของนาง

นางวางมือบนลูกแก้ว พลังธาตุไฟของนางระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว ราวกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ ลูกแก้ววิญญาณเปลี่ยนเป็นสีแดงสด และสว่างไสวไปทั่วลานประลอง จนผู้คนต้องยกมือขึ้นบังแสงด้วยความตกตะลึง

“นี่มัน… พลังของนางถึงหลอมปราณขั้นสูงแล้ว!” หนึ่งในผู้ชมอุทานขึ้นด้วยความตื่นเต้น

ชิงเฟิงพบว่าในบรรดาคุณหนูในเมืองหลวงมีเพียงคุณหนูจากตระกูลหลี่เท่านั้นที่มีฝีมือเหนือกว่านางถึงหนึ่งขั้น! นับว่าสร้างความตระหนักให้กับชิงเฟิงว่านางได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว

แสงสีแดงนั้นบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของอวิ๋นชิงเฟิงได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นคุณหนูที่ถูกลือว่ามีข่าวเสียหาย แต่พลังของนางกลับทำให้ผู้คนยอมรับในทันที นางถอยกลับไปอย่างเยือกเย็น สายตาหลายคู่มองนางด้วยความตกใจและชื่นชม

เมื่อถึงคราวของซื่ออิงนางก้าวขึ้นไปยังแท่นประลองอย่างตื่นเต้นใจเต้นรัว ในขณะที่สายตาของผู้คนในงานจับจ้องมาที่นางด้วยความสงสัย ไม่ว่าจะเป็นคำลือที่มีมาหรือระดับพลังที่น้อยนิดในธาตุไม้ของนาง ทุกคนต่างรอดูว่านางจะสามารถแสดงความสามารถออกมาได้มากน้อยเพียงใด

“ขอเชิญคุณหนูหลิวซื่ออิง!” พิธีกรประกาศเสียงดัง

นางรู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน แต่ก็พยายามบังคับตัวเองไม่ให้แสดงความกลัวออกมา นางยืนอยู่ตรงหน้าลูกแก้ววิญญาณที่ตั้งอยู่บนแท่น บรรยากาศรอบ ๆ ตึงเครียดและเงียบสงัด จนกระทั่งเสียงของนางดังขึ้น

 “ข้าพร้อมแล้ว”

นางยื่นมือออกไปวางบนลูกแก้ว ขณะที่พลังธาตุไม้ในตัวนางเริ่มไหลออกมาอย่างช้า ๆ ซื่ออิงพยายามมุ่งมั่นในการส่งพลังของตนออกไป แม้รู้ดีว่าพลังของนางยังไม่แข็งแกร่งนัก แต่ก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองในวันนี้

ลูกแก้ววิญญาณเริ่มเปล่งแสงสีเขียวอ่อน ๆ ที่แทบไม่เห็น สายตาของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปจากความคาดหวังเป็นความผิดหวัง บางคนเริ่มซุบซิบกันเบา ๆ ว่า 

“พลังของนางแค่ระดับเริ่มต้น” หรือ “ธาตุไม้ที่อ่อนด้อยจริง ๆ”

ซื่ออิงรู้สึกถึงความผิดหวังและความอายที่เริ่มถาโถมเข้ามา นางไม่อยากให้ครอบครัวต้องเสียหน้า แต่พลังในตัวนางกลับไม่ได้ผลมากนัก เมื่อเห็นว่าลูกแก้วยังคงไม่เปล่งแสงอย่างเต็มที่ นางกัดฟันเพื่อรวบรวมความกล้า

“ข้าจะทำให้ได้!” นางกล่าวในใจ และพยายามมุ่งมั่นส่งพลังออกไปอีกครั้ง พลังธาตุไม้เริ่มไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ จนลูกแก้วเริ่มเปล่งแสงสีเขียวเข้ม แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่น่าพอใจ

ในที่สุด ลูกแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม แต่กลับไม่สามารถเปล่งแสงที่สดใสได้เหมือนกับคุณหนูคนอื่น ๆ แสงที่ออกมากลับแสดงถึงพลังที่ต่ำต้อย ทำให้ผู้คนที่รอดูรู้สึกผิดหวังมากขึ้นไปอีก

“ระดับขั้นหลอมปราณขั้นต้นเท่านั้น…” เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นมาในฝูงชน ทำให้ซื่ออิงรู้สึกถึงความสิ้นหวังในใจ

นางยิ้มบาง ๆ และกล่าวเสียงเบา “ไม่เป็นไร ข้าจะยังคงฝึกฝนและพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น” แม้ในใจจะรู้สึกท้อแท้ แต่ซื่ออิงไม่ยอมแพ้และตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดให้ชนะทุกคนให้ได้สักวันหนึ่ง!

พิธีกรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ “นี่คือพลังของคุณหนูซื่ออิงจากตระกูลหลิว พลังธาตุไม้ระดับเริ่มต้น ขอเชิญกลับไปยังที่นั่ง”

เมื่อเดินกลับไปที่นั่ง ซื่ออิงรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมองและคำพูดกระซิบที่กระจายไปทั่ว งานนี้อาจจะเป็นการทดสอบที่ยากลำบาก แต่ซื่ออิงมั่นใจว่าไม่ว่าจะมีพลังที่ต่ำต้อยเพียงใด นางจะยังคงมุ่งมั่นในการฝึกฝนเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel