บท
ตั้งค่า

ตัวปล่อยข่าว

ข่าวลือร้ายกาจที่แพร่สะพัดไปทั่วเกี่ยวกับ "อวิ๋นชิงเฟิง" ที่เที่ยวท้าประลองไปทั่วและถูกมองว่าเป็นหญิงโหดเหี้ยมและเย่อหยิ่ง แท้จริงแล้วมาจากปากของเพื่อนสนิทของนางเอง คนที่ชิงเฟิงเคยไว้ใจและไม่เคยระแวงว่าจะกลายเป็นผู้สร้างความเข้าใจผิด

หลิวซื่ออิงเพื่อนคนนี้อาจจะอิจฉาในพรสวรรค์และพลังธาตุไฟของชิงเฟิง และต้องการทำลายชื่อเสียงของนางอย่างลับ ๆ อีกทั้งมีเหตุผลส่วนตัวที่ต้องการเห็นชิงเฟิงถูกกดดันและอับอาย การใช้ความซื่อของชิงเฟิงเป็นเครื่องมือในการทำลายนางจึงเป็นสิ่งที่เพื่อนคนนี้วางแผนไว้อย่างแนบเนียน

ข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงเกี่ยวกับ "อวิ๋นชิงเฟิง" นอกจากจะทำให้นางถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนโหดเหี้ยมและเย่อหยิ่งแล้ว ยังส่งผลให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาสู่ขอนางอีกด้วย หนุ่ม ๆ ที่เคยชื่นชมในความงดงามและความสามารถของชิงเฟิงต่างพากันถอยห่าง เพราะกลัวว่านางจะไม่อ่อนโยนหรือไม่คู่ควรกับพวกเขา

ความเหงาและความโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นนี้คือสิ่งที่ทำให้ซื่ออิงเพื่อนสนิทของชิงเฟิงสะใจมาก เพื่อนคนนี้ได้เห็นชิงเฟิงที่ไร้คู่และโดนตีตราจากสังคม ก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจที่แผนการของตนสำเร็จ

หลิวซื่ออิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ขณะที่นางรับฟังข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วเมืองเกี่ยวกับ "อวิ๋นชิงเฟิง" ดวงตาของนางเป็นประกายด้วยความพึงพอใจ ริมฝีปากยกยิ้มเยาะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างสะใจ

"หึ... นางที่เคยหยิ่งผยองคิดว่าตัวเองเก่งกาจเหนือใคร ตอนนี้ดูสิ ไม่มีใครกล้าเฉียดใกล้ ไม่ต้องพูดถึงการสู่ขอ นางคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะข้าเอง... อวิ๋นชิงเฟิง เจ้าสมควรแล้วที่ต้องอยู่โดดเดี่ยว ถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงร้ายกาจ เพราะเจ้าช่างไร้เดียงสาเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าโลกนี้โหดร้ายแค่ไหน"

ซื่ออิงหัวเราะเบา ๆ ขณะที่นางจิบชาด้วยท่าทีสง่างาม แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสะใจที่ได้เห็นชิงเฟิงถูกนินทาไปในทางไม่ดีจากข่าวลือที่นางวางแผนไว้

สาวใช้ของหลิวซื่ออิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พยักหน้าเห็นด้วย พลางพูดเสริมด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

"คุณหนูช่างฉลาดยิ่งนักเจ้าค่ะ ใครจะไปคิดว่าคนอย่างคุณหนูอวิ๋นชิงเฟิง จะถูกทำให้ตกต่ำเพียงข่าวลือไม่กี่คำ นางคงจะเสียใจจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน"

สาวใช้ยิ้มแสยะ "ท่านดูสิ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นางเลยแม้แต่น้อย ข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วนั้นได้ผลยิ่งนัก"

หลิวซื่ออิงหัวเราะเบา ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ "นั่นสินะ... ก็สมควรแล้วที่นางจะได้รู้สึกบ้างว่าการอยู่โดดเดี่ยวเป็นเช่นไร ข้าจะรอดูว่านางจะอดทนได้สักแค่ไหน"

ซื่ออิงรู้ว่าอีกไม่นานไทเฮาจะจัดงานเทศกาลบุปผาในวัง ดังนั้นนางจึงวางแผนให้ร้ายชิงเฟิงตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะว่านางกลัวว่าชิงเฟิงเป็นคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นกว่านางจะได้แต่งงานกับท่านอ๋องสักคนคงไม่ดีแน่!

ซื่ออิงในฐานะคุณหนูใหญ่ของจวนอัครเสนาบดี แม้ว่านางจะเป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ในแคว้นหลงซาน แต่นางกลับมีหน้าตาธรรมดาไม่ได้โดดเด่น จับโยนไปในกลุ่มย่อมหาไม่เจออย่างแน่นอน อีกทั้งนางยังอิจฉาเพื่อนที่มีพรสวรรค์กว่าตนเอง ทั้งที่นางนั้นไม่ได้เข้าเรียนจากสำนักใดอย่างซื่ออิงซึ่งได้เข้าสำนักอันดับหนึ่งของแคว้น

….

อวิ๋นซื่อพ่อของอวิ๋นชิงเฟิงเคยเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้น หยัดยืนต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนและประชาชนมาหลายครั้ง ในช่วงเวลาที่พลังปราณของเขายังคงแข็งแกร่ง เขาเป็นนักรบที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เขาเข้าร่วมคือการรบครั้งสำคัญ ซึ่งทำให้เขาสูญเสียพลังปราณทั้งหมดไป ทว่าแม้จะได้รับเกียรติและคำชื่นชมมากมายจากผู้คน แต่เขาปฏิเสธทุกตำแหน่งในราชสำนักด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครเข้าใจ

เขาเลือกที่จะกลับมาสู่ชีวิตเงียบสงบ ไม่รับตำแหน่งหรืออำนาจใด ๆ แทนที่จะเป็นขุนนางผู้ทรงอิทธิพลในวัง เขากลับมาดูแลครอบครัวที่จวนของตระกูลอวิ๋น

มีเพียงอวิ๋นเซิงพี่ชายของชิงเฟิงเท่านั้นที่รับหน้าที่งานราชการ ในตำแหน่งรองแม่ทัพสืบทอดเกียรติยศของตระกูล แต่พ่อของนางไม่เคยเร่งรัดลูก ๆ ให้เดินตามรอยเท้าของเขา เพียงแต่ให้พวกเขาเลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวเอง

และอวิ๋นชิงเฟิงเริ่มต้นด้วยค่าพลังที่โดดเด่นกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน นางมีพรสวรรค์ทางด้านพลังธาตุไฟที่แข็งแกร่งและสมดุล แต่พลังที่แท้จริงของนางยังคงซ่อนเร้น ด้วยข่าวลือที่ว่านางเป็นคนอันธพาลและชอบท้าประลอง นางมักแสดงพลังเพียงระดับพื้นฐานเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็นว่าตนเองแข็งแกร่งเพียงใด

ในช่วงเริ่มต้นของชิงเฟิงมีค่าพลังอยู่ในระดับขั้นหลอมปราณขั้นสูง ซึ่งเป็นระดับที่สามารถควบคุมธาตุไฟได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ยังต้องเรียนรู้วิธีใช้อย่างเต็มศักยภาพ นางสามารถสร้างเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูง และเปลี่ยนรูปร่างของไฟได้เพื่อใช้ในการต่อสู้และป้องกันตัว อย่างไรก็ตาม นางยังไม่สามารถใช้พลังปราณเพื่อรักษาคนอื่นได้เต็มที่ ต้องพัฒนาค่าพลังขึ้นไปอีกหลายขั้นเพื่อให้สามารถหลอมโอสถหรือถอนพิษได้

...

ในดินแดนบำเพ็ญเซียน ค่าพลังปราณเป็นสิ่งที่แสดงถึงความแข็งแกร่งและระดับการฝึกฝนของผู้ฝึกยุทธ์ในการเดินทางเพื่อบรรลุความเป็นเซียน แต่ละขั้นของการฝึกฝนจะบ่งบอกถึงพลัง ความสามารถ และความเข้าใจในธรรมชาติของพลังปราณ โดยทั่วไปค่าพลังปราณแบ่งออกเป็นหลายระดับ ดังนี้:

1. ขั้นหลอมปราณ

ขั้นต้น ผู้เริ่มต้นฝึกฝนสามารถสัมผัสและควบคุมพลังปราณเบื้องต้นได้บ้าง ยังมีความไม่สมดุลในพลังและต้องการการฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อเสถียรภาพ

ขั้นกลาง สามารถรวบรวมพลังปราณได้อย่างเสถียร และใช้พลังในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น ควบคุมพลังธาตุประจำตัวได้ดีขึ้น

ขั้นสูง พลังปราณเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง สามารถใช้พลังในการต่อสู้ได้อย่างชำนาญ

2. ขั้นก่อแก่นปราณ

เป็นขั้นที่ผู้ฝึกยุทธ์เริ่มสร้างแก่นปราณของตนเอง มีพลังมากพอที่จะเริ่มควบคุมพลังในขอบเขตที่กว้างขึ้น ทั้งยังพัฒนาเทคนิคการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ

พลังปราณในขั้นนี้ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์มีความสามารถป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง และเริ่มรับรู้ถึงการไหลเวียนของพลังในโลกธรรมชาติ

3. ขั้นจินตัน

ระดับนี้ผู้ฝึกยุทธ์จะบรรลุ "จินตัน" ซึ่งเป็นแก่นพลังที่เข้มแข็งในร่างกาย เมื่อสร้างจินตันได้สำเร็จ ความสามารถในการต่อสู้และควบคุมพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ผู้ที่อยู่ในระดับจินตันจะสามารถใช้พลังปราณในการรักษาตนเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถหลอมโอสถได้ด้วย

4. ขั้นหยวนอิง

ในขั้นนี้ ผู้ฝึกยุทธ์จะสร้าง "หยวนอิง" หรือทารกแห่งพลังในร่างกาย ซึ่งเป็นรูปแบบพลังที่พัฒนาสูงที่สุดในร่างกาย สามารถควบคุมพลังธาตุธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ และพลังในการฟื้นตัวก็เพิ่มขึ้นมาก

ผู้ที่ถึงขั้นหยวนอิงจะเริ่มเข้าใจสัจธรรมของการเป็นเซียน และสามารถใช้พลังปราณในการสร้างอาวุธวิเศษหรือขับเคลื่อนสิ่งของ

5. ขั้นหลอมรวม

การรวมพลังหยวนอิงและพลังธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์มีพลังที่ไม่สามารถมองข้ามได้ พลังและจิตวิญญาณกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน สามารถต่อสู้ในระดับสูงและควบคุมสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ดั่งใจ

6. ขั้นมหาเซียน ขั้นนี้เป็นการต่อสู้กับพลังฟ้าดินและก้าวผ่านด่านแห่งสวรรค์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะกลายเป็นเซียนอย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ผ่านด่านนี้จะสามารถเป็นเซียนที่แท้จริงได้

การผ่านด่านในขั้นนี้เป็นการทดสอบจิตใจและร่างกาย หากล้มเหลว อาจจะต้องเริ่มต้นใหม่ แต่หากผ่านได้สำเร็จ ผู้ฝึกยุทธ์จะได้รับพลังอันแข็งแกร่งที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียม

7. ขั้นเซียน

เป็นระดับที่สูงสุดของการฝึกยุทธ์ ผู้ที่บรรลุขั้นนี้จะกลายเป็นเซียนหรืออมตะ มีพลังเหนือฟ้า สามารถควบคุมธรรมชาติและพลังฟ้าดินได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นผู้ที่สามารถเดินทางไปในโลกต่างๆ ได้โดยไม่ถูกจำกัด

ธาตุพิเศษที่เกี่ยวข้องกับพลังปราณ:

ธาตุไฟ: สามารถควบคุมเปลวเพลิง สร้างความร้อนในการโจมตีและป้องกัน รวมถึงหลอมวัตถุและสร้างโอสถได้

ธาตุน้ำ: ควบคุมการเคลื่อนไหวของน้ำเพื่อรักษาและสร้างพลังปราณในการฟื้นตัว

ธาตุดิน: มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง สามารถใช้ดินและหินในการโจมตีหรือป้องกันตัว

ธาตุลม: มีความเร็วและคล่องแคล่ว สามารถใช้ลมเป็นอาวุธหรือสร้างพลังปราณที่เคลื่อนที่

รวดเร็ว

ธาตุไม้: เชี่ยวชาญด้านการรักษาและการฟื้นฟู สร้างโอสถและพลังชีวิตที่ยั่งยืน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel