5.พิการแต่ก็มีหัวใจ
บทที่ 5. พิการแต่ก็มีหัวใจ
อี้เหอยังคงตั้งใจทำหน้าที่ต่อ แม้ว่าร่างกายอยากทำอย่างอื่นก็ตาม ยิ่งได้เห็นกายกำยำเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย ความต้องการมันก็ยิ่งมากขึ้น ทว่านางจำต้องข่มใจไว้
เมื่อเช็ดด้านบนเสร็จนางก็ขยับลงมาด้านล่าง ทว่าวันนี้มันกลับต่างออกไปจากที่เคย ใจดวงน้อยเริ่มเต้นรัวหนักกว่าทุกครั้ง ทั้งที่แต่ก่อนนี้นางก็เคยสอดมือเข้าไปเช็ดทำความสะอาดให้เขา ทว่าโดยปกติแล้ว เส้าเหว่ยจะหลับตาไม่มอง แต่คราวนี้เขากลับจ้องนางตาเป็นมัน มิหนำซ้ำแม่ทัพหนุ่มยังส่งยิ้มมาให้นางอีก
ราวกับเขากำลังท้าทายนางอยู่เสียอย่างนั้น
‘เขาคิดจะแกล้งข้ากระนั้นหรือ’ นึกในใจเมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่ายที่ชวนให้นางเกิดความคิดอยากเอาคืนขึ้นมา
จากนั้นริมฝีปากอิ่มก็เผยยิ้มร้ายพร้อมกับยักคิ้วสองสามทีใส่เขา แล้วนางก็เปิดผ้าออกรั้งกางเกงเขาไปกองที่เข่า เผยให้เห็นมังกรตัวขาวหลับสนิทที่คอหักอย่างน่าสงสาร
นางหันกลับมาหาแม่ทัพหนุ่มพร้อมกับแววตาที่หม่นลง ทว่าเขายังคงยิ้มอ่อนส่งให้ พออีกฝ่ายทำเช่นนี้นางก็ยิ่งสงสารเขาจับใจ หานเส้าเหว่ยเป็นบุรุษวัยฉกรรจ์แท้ ๆ แต่ไม่อาจเริงสวาทกับผู้ใดได้ แม้แต่ความรู้สึกก็คงไม่มีเลยกระมัง เป็นเช่นนี้ในใจเขาคงทรมานมาก เพราะมันไม่ต่างจากตายทั้งเป็นเลย
“ข้าจะทำความสะอาดให้นะเจ้าคะ” บอกเสียงอ่อน จากนั้นนางก็เริ่มเอาผ้ามาลูบเช็ดไปมาทำความสะอาดให้เขาอย่างเบามือ
เส้าเหว่ยก็มองอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นสีหน้าของนางดูเหมือนจะสงสารเขาเอามาก ๆ ช่างเป็นสตรีที่มีจิตใจดีเหลือเกิน
ทว่าพอนึกถึงบทบาทบนเตียงของนาง ความคิดนี้กลับทำให้เขานึกขัน คนแสนดีและออกจะขี้อาย ยามเมื่อมีเอ็นเนื้อเสียบคารูกลับกลายเป็นคนละคนไปได้ นึกมาถึงตรงนี้มังกรที่แห้งเหี่ยวก็เริ่มตื่นตัว ให้คนที่กำลังเช็ดถูถึงกับผงะหยุดชะงักมือ
อี้เหอหันกลับมามองแม่ทัพหนุ่มทันที
ทว่าครานี้นัยน์ตาเขากลับดูเปล่งประกายต่างจากทุกครั้ง พร้อมกับเผยยิ้มอ่อนโยนให้ และยังพยายามยกมือขึ้นมาชี้ที่มังกรของตนด้วย ราวกับว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
“ท่านแม่ทัพรู้สึกหรือเจ้าคะ” อี้เหอรีบถามเขาเสียงตื่นเต้น พร้อมกับจับรูดมังกรคอเหี่ยวไปมาเพื่อกระตุ้นอีกหน
เส้าเหว่ยไม่รู้จะตอบเช่นใดจึงพยายามพยักหน้าขึ้นลง และนี่เป็นคราแรกที่เขาเริ่มสื่อสารกับนาง ส่วนหนึ่งก็เพราะเกรงจางไห่จะรู้ว่าเขายังคงสามารถขยับส่วนบนได้บ้าง
ทว่าตอบนางไปแล้วเขาก็เกิดความกังวลขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะไม่รู้วันหน้านางจะไปบอกคนรักหรือไม่
หากเป็นแต่ก่อนเขาก็ไม่คิดอะไร ทว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันทำให้เขาต้องมองสหายใหม่ เพราะการกระทำของจางไห่ มันดูไม่เหมือนคนที่อยากช่วยรักษาเขาเลย
คำพูดก็เหมือนจะแย่ขึ้นทุกวัน มีแต่คำเสียดสีให้เขาต้องเจ็บใจเล่น ยิ่งไปกว่านั้น คนสนิทเขาก็หายหน้าไปหมด
ซึ่งอันที่จริงต้องมีใครสักคนอยู่ข้างกายเขา และที่น่าสงสัยมากกว่าก็คือ คนในครอบครัว ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาเลย
ยิ่งคิด เส้าเหว่ยก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ทว่าความคิดนี้ก็หยุดลง เมื่อเสียงสดใสของอี้เหอดังขึ้น
“ดียิ่งนัก เช่นนั้นต่อไปข้าน้อยจะเช็ดตัวให้ท่านแม่ทัพเช่นนี้ทุกวันนะเจ้าคะ ไม่แน่มันอาจจะดีขึ้นก็ได้ หากรักษาดีดีต้องหายแน่” นางกล่าวอย่างตื่นเต้น ใบหน้าก็มีแต่รอยยิ้ม ทว่าชายหนุ่มกลับมีแต่ความกังวล เพราะเขาเกรงว่านางจะเอาเรื่องนี้ไปบอกสหายของเขา เป็นเช่นนั้นร่างกายนี้คงไม่อาจรักษาให้หายได้
ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมา อี้เหอก็พึมพำให้ได้ยิน
“เรื่องนี้คงบอกพี่จางไห่ไม่ได้ หากเขารู้ว่าเราเปลื้องผ้าท่านแม่ทัพ เขาคงไม่ให้เราดูแลคนป่วยต่ออีกแน่” น้ำเสียงนางแผ่วลง ผู้ที่มองอยู่จึงยิ้มเอ็นดู พร้อมกับพยายามยกมือเอื้อมไปหานาง หมายจะจับแขนเพื่อปลอบทว่ามันก็หมดแรงเสียก่อน
อี้เหอเห็นจึงรีบคว้าเอาไว้ พร้อมกับขยับเข้ามาใกล้เขา พลันมองหน้าเป็นเชิงถามว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด ทว่าแม่ทัพหนุ่มกลับยกมืออีกข้างขึ้นเพื่อรั้งนางมากอด อี้เหอพอเข้าใจจึงขยับมาซบไหล่เขาโดยไม่ให้ชายหนุ่มต้องเหนื่อย
ภายในห้องจึงเงียบกริบราวกับไม่มีใครอยู่ ทว่าบนเตียงกลับมีเสียงลมหายใจของทั้งคู่แว่วมาให้ได้ยิน ผนวกกับเสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนป่วย
เขารู้สึกอบอุ่นเป็นที่สุด เพราะไม่นึกฝันว่าจะได้พบกับสตรีที่หน้าตาเหมือนกับคนรักเก่า และเขาก็หวังเป็นอย่างมากว่าอี้เหอจะใช่นาง เพราะรูปร่างหน้าตาคล้ายอย่างกับเป็นคนคนเดียวกัน แต่ที่เขาไม่แน่ใจ ก็เป็นเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่ามันยากที่นางจะรอด แม้แต่ตัวเขาเองยังตายแล้วมาอยู่ในร่างนี้เลย ฉะนั้นการที่คนรักเขาจะมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้มันจึงเป็นไปได้ยาก ทว่ากลิ่นราคะที่นางปล่อยออกมามันช่างคุ้นจมูกเขานัก
หรือไป่เหอของเขาจะรอดมาได้จริง ๆ
คนป่วยยังคงคิดไปเรื่อย พร้อมกันนั้นเขาก็โอบกอดนางไว้ เพราะการอยู่ใกล้อี้เหอมันทำให้เขารู้สึกดีมาก ก่อนหน้านี้ทำได้เพียงแค่มองนาง ไม่เคยได้แตะต้องหรือสัมผัสอะไรเลย
ทว่าวันนี้นางกลับมาอยู่ในอ้อมกอดเขา ทำให้ใจแกร่งมีแรงสู้ขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น พออยู่ใกล้มาก ๆ เข้า เขาก็รู้สึกถึงพลังบางอย่าง มันกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างและทำให้เขามีแรงขึ้น
หรือเป็นเพราะร่างกายนี้ได้รับการดูแลจากหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนคนที่เขาถวิลหา สตรีที่พลัดพรากกันเพราะความเห็นแก่ตัวของผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดในชนเผ่า ที่จับทั้งคู่แยกจากกันทั้งที่ยังรัก สุดท้ายก็ไม่อาจอยู่ร่วมใช้ชีวิตด้วยกันได้
ต่างฝ่ายต่างก็จากกันโดยไม่ได้ลา…
ทว่าบัดนี้เขากลับได้พบกับหญิงสาวที่มีใบหน้าเดียวกับคนรัก แต่เหตุไฉนสวรรค์ถึงได้ลงโทษ ทำให้การพบกันมันเป็นเช่นนี้ พอตื่นขึ้นมาเขากลับกลายเป็นคนพิการที่พูดไม่ได้ หมายจะบอกเล่ารื่องราวหรือถามไถ่ความเป็นมากับนางก็ไม่อาจทำได้
สุดท้ายเขาจึงทำได้เพียงแค่นอนมองนางถูกสหายเจ้าของร่างนี้ย่ำยี วันแล้ววันเล่า อย่างทุกข์ทรมานใจ ไม่รู้ว่าชาตินี้เขาจะมีโอกาสหาย ได้กลับมาใช้ชีวิตเช่นมนุษย์ทั่วไปได้อีกหรือเปล่า
ยามนี้นอกจากนอนรอโอกาสให้ตนเองหายดี เขาคงทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว ทว่ามันจะเป็นดั่งหวังไปได้เยี่ยงไร ในเมื่อสหายเจ้าของร่างทำเหมือนไม่ได้ไยดีที่จะรักษาเขาเลย
หากมิใช่เพราะอี้เหอคอยดูแลเป็นอย่างดี อย่าว่าแต่ให้เขาพูดเลย ช่วงก่อนนางมาแม้แต่นิ้วมือเขายังขยับไม่ได้ด้วยซ้ำ
บางคราเขาก็คิดว่าสหายเจ้าของร่างอาจจะไม่ได้หวังดีอย่างที่เห็น เพราะการกระทำของอีกฝ่ายมันสวนทางตลอด ทว่าความทรงจำของหานเส้าเหว่ย มันก็ไม่มีอันใดผิดเพี้ยนมิใช่หรือ นอกจากสหายผู้นี้ชอบทำหน้าบูดบึ้งยามสตรีเรียกหาหานเส้าเหว่ยเท่านั้น หรือว่าจางไห่เกิดริษยาเจ้าของร่างนี้มานานแล้ว พอสบโอกาสก็เอาคืนด้วยวิธีนี้ เพื่อให้หานเส้าเหว่ยทุกข์ทรมาน
‘ข้าหวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่คิด’
เขายังคงครุ่นคิดถึงความทรงจำเจ้าของร่างอย่างเหม่อลอย ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคนที่นอนซบอยู่ลุกพรวดแล้วเอ่ยว่า
“ท่านแม่ทัพขออี้เหอลองเลียมังกรท่านนะเจ้าคะ ไม่แน่มันอาจกระตุ้นให้ท่านมีความรู้สึกขึ้นมาก็ได้” อี้เหอบอกความคิดอันแสนพิเรนทร์ของตนให้อีกฝ่ายฟัง
