9/4
“ช่างเถอะ เรื่องมันนานมาแล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นของอิงฟ้าไปแล้ว”
ดรัณปล่อยมือบาง เมื่อพลับพลึงเดินไปรอบๆ ห้อง
“จากที่เคยเห็นครั้งแรก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย นอกจาก...”
“...”
“ห้องนี้เต็มไปด้วยรูปของอาอิง วันแต่งงานของอารัณกับอาอิง พลับเห็นห้องนี้มีแต่รูปของอาอิง แล้วทำไมเหลือแค่นี้”
พลับพลึงหมายถึงเหลือแค่รูปพรีเว้ดดิ้งรูปใหญ่ที่ติดบนผนัง ไม่มีรูปเล็กๆ ใส่กรอบที่เคยตั้งเรียงราย รูปอาอิงเกือบทุกอิริยาบถมันหายไปไหน
“อย่าถามเซ้าซี้น่า เธอควรจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องของเธอได้แล้ว” เขาตัดบท แล้วรั้งร่างบางโอบประคองพากลับห้อง กิริยานุ่มนวลอ่อนโยนทำให้ภรรยาสาวซาบซึ้งใจ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ดีกับเธอจนอยากหยุดเวลานี้ไว้ อยากจะนอนป่วยถ้าเขาจะดูแลเธอดีขนาดนี้
ดรัณกดร่างบางลงบนเตียง แล้วทอดตัวลงนั่งริมขอบเตียงใกล้ๆ ดวงตาวาววับหลุบมองกลีบปากสีระเรื่อ สีของมันอ่อนลงเพราะเจ้าของเป็นลม เขาหมายจะทำให้มันคืนสีเดิมให้สวยดังที่เคยเห็น คิดแล้วชายหนุ่มก็ทำตามที่คิด
พลับพลึงพริ้มตาลงเมื่อใบหน้าคมคายที่เต็มไปด้วยหนวดเคราโน้มต่ำลงมาใกล้เรื่อยๆ ปลายจมูกชนกัน ริมฝีปากหนาเกือบจะแนบชิด ถ้าเธอไม่สะดุ้งเพราะไรหนวดเหนือริมฝีปากหนาทิ่มปากเธอเสียก่อน
“เจ็บเหรอ” เขาถามเสียงนุ่ม มุมปากมีร่องรอยคล้ายกระตุกยิ้มบางๆ
“...” พลับพลึงไม่ตอบ แต่ส่ายหน้าแทน
“ไม่ชอบเหรอ จั๊กจี้อยู่นะ” ทีนี้มุมปากหนากดลึกมากกว่าเดิม นอกจากจะทำดีกับเธอ เขายังยิ้มให้เธอด้วย
“ไม่ชอบเท่าไหร่ค่ะ”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วกับคำตอบที่ออกมาจากปากอิ่ม แต่พอกดปากทาบจูบซับเรียวปากแห้งผากของเธอแผ่วๆ คำตอบก็ดังชิดเรียวปากนุ่มเบาๆ
“คืนนี้นะ”
พลับพลึงไม่มีเวลาถามด้วยซ้ำว่า ‘คืนนี้’ เขาจะทำอะไร ‘คืนนี้นะ’ หมายถึงอะไร ถ้ารู้ล่วงหน้าเธอจะได้เตรียมตัว แต่ดรัณไม่เปิดโอกาสให้ซักถาม เขาจูบหนักๆ ไปทั่วเรียวปากสวย ละเลียดชิมความหวานด้วยปลายลิ้นหนาที่สอดเข้าไปยั่วเย้าลิ้นเล็กๆ ให้ซาบซ่าน
แทนคำถามหญิงสาวได้แต่ครางฮือในลำคอ เมื่อความหวานอ่อนโยนเริ่มเปลี่ยนเป็นเรียกร้องเอาแต่ใจ จนเธอต้องยึดบ่ากว้างแล้วแอ่นร่างเข้าหาอย่างลืมตัว
จุมพิตวาบหวามเร่าร้อนและดูดดื่มกำลังจะต่ำลงมาเรื่อยๆ ถ้าดรัณไม่สัมผัสความเย็นบริเวณกกหูนุ่มนิ่ม อุณหภูมิในร่างกายของภรรยาตัวน้อยยังไม่สูงขึ้นเท่าที่ควร และเขาก็ยังไม่ควรเอาแต่ใจเรียกร้องการตอบสนองจากเธออย่างถึงพริกถึงขิง มิเช่นนั้นแล้วคืนนี้เขาคงอด!
ลมหายใจอุ่นๆ ตรงซอกคอระหงเริ่มห่างออกมา เมื่อชายหนุ่มตัดใจโยนความปรารถนาที่พลุ่งพล่านทิ้งแล้วผละห่าง
“อาบน้ำนะหรือเช็ดตัวดี” เขาถามตัวเองหรือถามเธอ เธอก็ยังไม่แน่ใจ
“เอ่อ...” พอจะเอ่ยปากบอก
“เช็ดตัวดีกว่า อาบน้ำเดี๋ยวไข้จับ” นี่เขาตอบตัวเองใช่หรือไม่ ก็ไม่เห็นรอคำตอบจากเธอเลยนี่นา
แล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นก่อนจะโน้มหน้าลงมาหอมแก้มอิ่มอย่างอดใจไม่ไหว แล้วเดินตัวตรงก้าวยาวๆ ไปยังห้องน้ำ เธอได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ สักพักเขาก็ออกมากระชากประตูห้องเปิด
“ใครก็ได้เอากะละมังกับผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ที ต่อไปนี้ในห้องนี้ต้องมีสองสิ่งนี้อยู่เสมอ ถ้าไม่มีฉันจะตัดเงินเดือนทุกคน”
แล้วพลับพลึงก็แว่วเสียงฝีเท้าสะท้อนมาจากชั้นล่างเพราะพื้นบ้านเป็นไม้ ฝีเท้าซอยยิกๆ คงจะเป็นของแม่บ้านคนใดคนหนึ่งที่กำลังวุ่นวายหาของที่เจ้านายต้องการ ถ้าช้าอาจจะถูกตัดเงินเดือน
หญิงสาวนอนอมยิ้มมองแผ่นหลังกว้างของคนที่ยังยืนรอของที่ต้องการอยู่ตรงประตูห้อง อยากหยุดเวลานี้ไว้ให้นานๆ อยากให้อารัณดีกับเธอแบบนี้ไปเรื่อยๆ อยากเป็นคนที่อารัณรักและคอยดูแลปกป้องแบบนี้ตลอดไป
“ยิ้มอะไร”
พลับพลึงหุบยิ้มไม่ทันก็เลยได้เห็นคนตัวโตทำหน้ายักษ์ใส่ ในมือมีกะละมังที่คงมีผ้าอยู่ในนั้น เธอเบือนหน้าหนีทำเป็นพลิกตัวไปอีกทาง ดรัณอมยิ้มแล้วเดินเลยไปเข้าห้องน้ำ
“ว้าย!!! อารัณจะทำอะไร”
เสียงโวยวายดังขึ้นเมื่อคนตัวโตถือกะละมังออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หากแต่ตอนนี้เขากำลังพลิกร่างเธออย่างรวดเร็วแล้ววุ่นวายกับกระดุมเสื้อของเธอทุกเม็ด
“อยู่เฉยๆ น่ะ” เขาเอ็ดแล้วปัดมือเกะกะของเธอออก หญิงสาวเห็นความมุ่งมั่นจากแววตาคมกริบก็นิ่งเฉย ปล่อยให้เขาจัดการกับเนื้อตัวเธอต่อไปเงียบๆ
ดรัณพึงพอใจที่พลับพลึงไม่พูด ไม่ดื้อกับเขาอีก เขาปลดเสื้อผ้าออกจากร่างนุ่มเปลือยเปล่า พยายามไม่คิดถึงนวลเนื้อขาวโพลนทั้งที่ตาก็ยังจับจ้องไม่หาย เช็ดร่างน้อยด้วยผ้าขนหนูอย่างเบามือ คนถูกเช็ดเองก็พูดไม่ออกเขินอายที่ต้องนอนนิ่งให้สามีเช็ดตัวให้ทั้งที่เธอก็ทำเองได้ กระนั้นในเมื่อเขาอยากบริการแล้วไยเธอจะขัดศรัทธาล่ะ
เนื้อตัวของภรรยาสาวเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ จากน้ำมือของสามีหนุ่ม ทั้งคู่เอาแต่นิ่งเงียบปล่อยให้ความเงียบครอบงำทุกสิ่งรอบตัว ชายหนุ่มสัมผัสถึงความอุ่นทดแทนความเย็นชืดจากร่างสาว เขาทิ้งผ้าขนหนูลงในกะละมัง เคลื่อนฝ่ามือเปล่าๆ ไปทั่วเนื้อกายอุ่นๆ
ทรวงสาวถูกแตะต้องทั้งจากฝ่ามือใหญ่และดวงตาคู่คมที่จ้องวาววับเหมือนพอใจกับยอดทรวงที่กำลังพุ่งชันอัตโนมัติ พลับพลึงหลับตาลงปิดกั้นทุกสิ่งเพื่อซึมซับด้วยความรู้สึก ความอ่อนโยนจากมือหนากำลังสร้างความปั่นป่วนไปทั่วช่องท้อง ไออุ่นจากลมหายใจกำลังคล้อยต่ำลง ในที่สุดเรียวปากอิ่มก็ถูกประทับด้วยริมฝีปากรุ่มร้อนเนิ่นนาน
