5/5
ทรวงอกสวยที่ประดับด้วยยอดเชอรี่อยู่ในอุ้งปาก นี่ล่ะที่มีของความเจ็บ เขาเปลี่ยนจุดหมายย้ายจากยอดทรวงแสนหวานลงต่ำไปยังหน้าท้องแบนราบ เอวเล็กแค่คืบรับโค้งกับสะโพกผายอวบอิ่ม กางเกงชั้นในตัวจิ๋วบางจ๋อยที่เขาแน่ใจว่ากระชากเพียงนิดก็ขาดติดมือออกมา ลมหายใจคล้ายจะขาดห้วงเมื่อปลายลิ้นร้อนเลียวนรอบสะดือน่ารัก ก่อนจะลากเลียไล้ไปตามขอบกางเกงชั้นในสีขาวสะอ้าน
“อารัณ...”
พลับพลึงสะดุ้งแขม่วหน้าท้องหนีความจั๊กจี้ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นความซ่านไหววูบวาบในช่องท้อง ไม่ว่าอะไรที่เปียกชื้นกำลังแต้มไปทั่วขอบชั้นใน สิ่งนั้นคือสิ่งที่อันตรายรองจาก...
ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น เมื่อมือน้อยกระชากออกจากฝ่ามือใหญ่ แต่เพียงครู่เดียวดวงตาคมก็พราวพรายเมื่อจับจ้องอยู่บนความอิ่มนูนน่าพิสมัย เขาเผลอเลียริมฝีปากที่พลันแห้งผากขึ้นมาอย่างรั้งไว้ไม่อยู่ ก่อนครางแผ่วๆ ในลำคอเมื่อกดปากหนาอุ่นร้อนทาบไปตามความนุ่นนั้น
“นิ่ม”
ทีแรกหญิงสาวก็ไม่เข้าใจว่าอะไรที่ ‘นิ่ม’ แต่พอปลายจมูกโด่งเป็นสันแข็งกดลงหนักๆ เธอก็เข้าใจในทันที ดวงตากลมเบิกกว้างเป็นไข่ห่าน สำนึกเตือนให้พร้อมรับอันตรายที่กำลังมาเยือน
ขอบกางเกงตัวจิ๋วอ้ากว้างเพราะเรียวนิ้วแทรกเข้าไปนวดคลึงความนุ่มนิ่ม ช่วงเวลาในคืนนั้นเขารีบร้อนเสียจนไม่สังเกตว่าสัดส่วนตรงนี้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร บัดนี้ทั้งแตะต้อง ทั้งสำรวจ พบว่ามันนุ่มไม่แพ้สัดส่วนด้านบน เส้นไหมประปรายก็นุ่มมือปกปิดกุหลาบสาวที่ยังไม่ทันสำรวจจริงๆ จังๆ ไม่ได้เลย ความอวบอิ่มเบียดกระชับนูนเด่นขึ้นมาอย่างน่าพิสมัย
พลับพลึงหนีบขาเรียวแนบสนิท รับรู้ว่ากายสาวที่แสนบอบบางกำลังถูกสำรวจอยู่แค่ภายนอก กระนั่นก็มากพอจะทำให้ขนบนกายลุกเกรียว ปลายนิ้วที่ยังสำรวจอย่างซุกซนพันกับไยไหมอ่อนนุ่มสลับกับนวดคลึงหนักๆ เธอถอนใจเฮือกกัดริมฝีปากจนเจ็บ ความทรมานก็ยังติดตรึงไม่เสื่อมคลาย
กางเกงตัวจิ๋วถูกสลัดออกจากร่างเมื่อใดไม่รู้ มากกว่านั้นบัดนี้เรียวขาขาวสวยยังแยกกว้างเกร็งๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าควรจะหนีบหรือแยกออก ดวงตาปรือปรอยฉ่ำหวานมองศีรษะทุยที่เคลื่อนไปมาอยู่กลางหน้าขา แล้วเสียงครางครวญก็ดังกระเส่า เหงื่อกาฬแตกพลั่กๆ ร้อนเร่าจนทั้งร่างเปียกชื้น
ร่างหนาดึงตัวขึ้นตั้งตรงอย่างจำใจ ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่างอย่างไม่รีบเร่ง ที่ไม่เร่งเพราะเห็นแววตาฉ่ำเยิ้มมองร่างแกร่งไปด้วยกล้ามเนื้อ เรียวปากอิ่มคงแห้งผากเพราะเขาเห็นปลายลิ้นสีชมพูเล็กๆ ตวัดเลียจนฉ่ำวาว ลมหายใจของคนที่ยังยืนนิ่งอวดกายบึกบึนงดงามราวเทพบุตรกรีกเริ่มติดขัด แค่ตวัดสายตาจับจ้องทุกส่วนสัดที่อวบละมุนขาวผ่องละลานตา กายบึกบึนก็คล้ายจะทรมานราวกับยืนกลางกองเพลิงสุมให้ร้อนจับจิต
เขาทนยืนนิ่งอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเห็นความทรมานจากร่างสวยที่เริ่มขยับส่ายไหว ท่าทีที่เกิดจากความต้องการจนร่างกายทำปฏิกิริยากับภาพตรงหน้าอย่างทรมาน เป็นเหมือนผู้หญิงร้อนรัก เหมือนโสเภณีร่านสวาท แต่ทว่าหญิงสาวก็ไม่อาจบังคับกายให้นิ่งเฉย หรือแม้แต่จะดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดกายเปลือยก็ไม่ทำ ยิ่งเห็นสายตาพออกพอใจจากสามีหมาดๆ พลับพลึงก็ยิ่งส่ายร่างไปมาอยู่บนเตียง
ดรัณทำเสียงแหบพร่าในลำคอก่อนจะก้าวขึ้นเตียงแล้วฟอนเฟ้นทุกส่วนสัดอย่างกระหาย ทั้งบนล่างทุกตารางนิ้วไม่มีส่วนไหนหลีกพ้นฝ่ามือใหญ่ ใบหน้าคมคายก็ซุกซบอยู่ตรงซอกคอขาวนวล ท่อนขากำยำแทรกกลางลำตัวเบียดให้เรียวขางามแยกพอที่ตนจะแทรกกายกำยำแกร่งกร้าวลงไปได้
“เจ็บ อื้อ...อารัณ พลับเจ็บ”
เพราะกุหลาบสาวยังเบียดชิด เต่งตูมเหมือนดอกไม้แรกแย้ม กายกำยำใหญ่โตจึงทำได้แค่ค้างอยู่อย่างนั้น ดรัณสบถ นอกจากเธอจะเจ็บแล้วเขาก็ยังเจ็บไม่ต่างกัน จนอดคิดถึงเส้นสองสลึงที่ขาดมานานปีดีดักแล้วไม่ได้
ความรู้สึกในตอนนี้กับตอนนั้น...ไม่ต่างกันเท่าไหร่
ความรู้สึกลึกๆ ในหัวใจเท่านั้นที่เปรียบเทียบกันไม่ได้
กว่ากายแกร่งจะผ่านพ้นเข้าไปเติมเต็มกุหลาบสวย ดรัณก็เหงื่อแตกพลั่ก ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไม่ต่างจากร่างอิ่มที่น่าหลงใหล เขาหอบหายใจจนตัวโยนทั้งที่ยังไม่ถึงฝั่งฝัน ความสุขกำลังเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเริ่มจนทะลักล้นออกมาอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
ชายหนุ่มไม่พูด เฝ้าเพียรจุมพิตวาบหวามไปทั่วดวงหน้าจบลงบนเรียวปากและสนุกสนานกับการแลกลิ้น พลับพลึงตอบโต้เรียวลิ้นกับเขาอย่างเงอะงะ ทว่าสิ่งนั้นกลับเพิ่มความสุขได้ไม่น้อย
“อารัณขา อืม...”
เสียงครางของเธอหวานแหบพร่าอยู่ข้างหู ปลุกเร้าให้ดรัณเร่งอารมณ์หวามสะบัดสะโพกพลิ้วไหว อ้อมแขนยิ่งรัดแน่นแทบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกว่าน้อยไป หลวมไป จนต้องเบียดร่างทิ้งน้ำหนักให้มากขึ้น
ร่างกายของอารัณทั้งแกร่ง แข็ง และหนัก แต่ทำไมเธอถึงรับเขาได้โดยไม่รู้สึกหนักจนหายใจไม่ออกนะ เธอกลับชอบและต้องการมากกว่านี้ ลำแสงที่เริ่มเห็นเลือนรางสว่างวาบขึ้นมาจนเจิดจ้าอยู่ในหัว กายนุ่มพลิกพลิ้วไปตามครรลองและประสบการณ์ที่ถูกสั่งสอนจากคนบนร่าง
กว่าพายุสงบ ผ้าปูที่นอนก็หลุดกระจาย...
