5/4
ตาคมหรี่แคบลงมองร่างงดงามราวนางฟ้า ผิวขาวลออนวลเนียนเป็นหนึ่งไม่มีสอง ลำคอระหงตั้งตรงเรียวเล็กจนน่ากลัวว่าหากหนักมือไปจะหักได้ง่าย อกอวบใหญ่ละลานตาซ่อนรูปอยู่ได้ยังไงในเสื้อผ้าชิ้นน้อย พอเป็นอิสระถึงจะรู้ขนาดไซส์ที่แท้จริง ดรัณมองตาเชื่อมปฏิเสธความต้องการของตัวเองไม่ได้ เขาก็เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อร้อนแรง เห็นผู้หญิงสาวสวยแบบนี้ยังจะอดใจไหวก็คงต้องลาบวช
คืนนั้นในความมืดเขาเห็นเพียงเงาเลือนราง แต่ก็รู้ว่าเธอขาวสวยในระดับหนึ่ง มาตอนนี้ในขณะที่เปิดไฟนีออนสว่างจ้า เขาเห็นความน่าลุ่มหลงมัวเมา เสน่หาที่ยากจะต้านทานส่งสะท้อนมาเป็นออร่ามัดใจชายอยู่หมัด แม้ชายคนนี้จะต่อต้านมาสักกี่หน สุดท้ายก็จบลงตรงความปรารถนาที่พลุ่งพล่านราวกองเพลิงกองใหญ่
ฝ่ามือหนาประเคนคลึงบนอกนุ่ม บีบขยำจนเจ้าของเรือนร่างบอบบางอ่อนระทวย จุดอ่อนของเธอถูกโจมตีด้วยปลายลิ้นที่ตวัดไล้ไปทั่วทรวงงาม
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ มันร้อนผ่าวจนเหงื่อซึม มันอ่อนแรงเหมือนคนจะเป็นลม ทว่าทุกอย่างถูกจำกัดด้วยความซ่านสยิว เธอแอ่นอกขึ้นทั้งที่แทบไร้เรี่ยวแรง หยัดร่างเกือบเปลือยเข้าหาร่างหนาที่ยังสวมเสื้อผ้าอย่างหน้าไม่อาย มือไม้เกร็งจนไม่รู้จะวางตรงไหนจึงค่อยไต่ขึ้นไปเหนี่ยวลำคอหนา ขืนนิ่งอยู่อย่างนั้นก็ทำไม่ได้ ต้องลูบไล้ไปมา ซุกไซ้เรือนผมดกหนาที่ตัดสั้นเข้ารูป
ดรัณใช้ประสบการณ์สั่งสอนหญิงสาวให้รู้จักความปรารถนา เขาเบียดร่างเข้าหายังไม่พอ ยังเสียดสีไปมาทั้งที่ตนสวมเสื้อผ้า แรงเสียดสีเร่งเร้าให้มือน้อยปล่อยต้นคอก่อนจะแตะปลายนิ้วลงบนกระดุมเสื้อ แล้วลูบไล้ออกข้างสัมผัสกับตุ่มไตเล็กๆ ที่แข็งตัวไม่ต่างกัน
“ไม่ใช่ตรงนั้น”
ชายหนุ่มจับมือน้อยกดลงต่ำ ละจากกระดุมเสื้อที่ไม่น่าสนใจเลยลงไปในส่วนที่ต่ำกว่า เข็มขัดคาดเอวถูกมือเจ้าของปลดออกนำทางให้มือเล็กเคลื่อนต่ำลงจนสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัวนักในความรู้สึกของพลับพลึง
มันใหญ่โต ร้อนผ่าว และกระตุกเยือก!!
พลับพลึงทอดถอนใจกับสิ่งที่อยู่ใต้ฝ่ามือ แม้จะมีผ้าขวางกั้นแต่ความร้อนก็ส่งผ่านมาถืออุ้งมือได้ไม่ยาก ยิ่งแตะต้อง ยิ่งลูบไล้ มันก็ยิ่งขยาย
“ไม่” ดรัณค้านเมื่อหญิงสาวกลัวจนจะผละห่าง เขาเป็นฝ่ายรูดซิปแล้วกดมือบางซุกเข้าไปในช่องซิป “นี่คือสิ่งที่เธอควรจะแตะต้องมากที่สุดแล้ว”
“อย่าค่ะอารัณ ปล่อยพลับ” แค่เพียงแตะถูกความร้อนใต้อุ้งมือ พลับพลึงก็ชักมือกลับหากทำไม่ได้อย่างใจคิด สามีหมาดๆ ของเธอจงใจกดปลายนิ้วเล็กๆ ให้กำรอบ “อารัณ!!!”
“อย่าเสแสร้งหน่อยเลย เธอเคยจับมันมาแล้ว ยิ่งกว่าจับก็ทำมาแล้ว เขินอายตอนนี้ไม่สายไปหน่อยหรือ”
หญิงสาวไม่สามารถขยับหนีการรุกรานและบังคับแตะต้องไปทั่วเนื้อตัวได้ เธอได้แต่ตื่นตระหนกระคนวาบหวามกับประสบการณ์แปลกใหม่ ถึงตอนนั้นเธอกับเขาจะก้าวล้ำเส้นไปถึงไหนต่อไหน ทว่าเธอก็เคยสัมผัสตัวตนเต็มๆ แบบนี้ในขณะสติยังครบถ้วนสมบูรณ์
ฝ่ายดรัณเองเขาแน่ใจว่าเธออยากรู้พอๆ กับอยากถอยห่าง แต่ยังแน่ใจยิ่งกว่าก็ตรงที่เธอคนนี้บริสุทธิ์ผุดผ่องจนกระทั่งวินาทีที่เขาก้าวล่วงฝ่าด่านปราการบางๆ เป็นคนแรก ทว่าการกระทำที่ตรงกันข้ามกับความอ่อนโยนเช่นนี้จะเป็นปราการป้องกันอารมณ์หวั่นไหวที่เขาไม่พร้อมจะเปิดใจรับใครเข้ามาแทนอิงฟ้า
ความดิบเถื่อนรุนแรงที่แสดงออกกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นภาพพจน์ที่ตนชื่นชอบ ยิ่งกลัวก็ยิ่งพอใจ การเปลี่ยนไปในทางไม่ดีมีมารดาคนเดียวที่ดูจะเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง
ใบหน้าคร้ามคมก้มลงต่ำหลังจากประสานสายตาตื่นตระหนกของเจ้าสาวอยู่พักใหญ่ มือเล็กๆ บอบบางที่อยู่ใต้ฝ่ามือใหญ่ให้ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายจริงๆ เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าสวยเฉี่ยวที่แตกต่างจากดวงหน้าหวานแฉล้มของอิงฟ้า จูบปากอิ่มระเรื่อเป็นธรรมชาติของเจ้าสาวที่หลับตาปี๋ ซุกซอนเรียวลิ้นเข้าหาความหวานที่อยู่ในอุ้งปาก ตวัดไล้ชิมรสหวานที่เปรียบกับใครไม่ได้ เพราะ...ไม่มีใครหวานเท่า
แม้กระทั่ง...อิงฟ้า
ความรู้สึกทะลักล้นแปลกใหม่เกิดขึ้นในใจ ดรัณรู้สึกราวอยู่ในป่าหิมพานต์ มีหลายอย่างน่าค้นหา หลายอย่างที่ว่าไม่มีอยู่ในที่อื่นใดนอกจากที่นี่ เขาแน่ใจ ตลอดชีวิต 35 ปี ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ความต้องการอันมากล้นมาพร้อมกับความสับสน ความกระวนกระวาย ความเรียกร้องเอาแต่ใจ
กับอิงฟ้า...เขารู้สึกเพียงผู้ให้ หากจะพูดให้เต็มปากกว่านี้อีกสักนิด ก็คงไม่ผิดจากคำว่า ‘ไม่เคยได้รับ’ ไม่ใช่ไม่มีความสุข หลังการปลดปล่อยความสุขก็ตามมาเป็นครรลองธรรมชาติ แต่ความรู้สึกเต็มที่ไม่เคยเกิด ถึงจะค้นคว้าตักตวงมากขนาดไหน คำว่า ‘จุดสูงสุด’ ก็ดูจะห่างไกลเหลือเกิน
“อารัณ เจ็บ” เสียงแห้งๆ ของหญิงสาวใต้ร่างดังขึ้นดับความคิดสะเปะสะปะ ดรัณสบถที่ตนเผลอเปรียบเทียบ ‘รสรัก’ ระหว่างหญิงสาวผู้มีฐานะเป็น ‘เมีย’ ทั้งสองคน กร่นด่าตัวเองว่าแม้แต่ความคิดก็ยังไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ลูกผู้ชายจะต้องไม่คิดเปรียบเทียบผู้หญิงก่อนและหลัง
ทว่า...ความแตกต่างที่จับต้องได้ทั้งใจและกาย เหวี่ยงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทิ้งไปจนหมด ความหวานใต้ร่างกลบความคิดสุภาพของตนให้จมดิน
