บท
ตั้งค่า

3/4

‘พลับคะ ผู้หญิงคนสวยๆ คนนั้นเป็นใครคะ’

เด็กสาวในวัย 14 ปี มองไปตามนิ้วมือที่ชี้ไปยังร่างบอบบางที่อยู่ในชุด เดรสสีขาวลายดอกไม้สวยหวาน ใบหน้าเรียวใสด้วยวัยสาวอิ่มไปด้วยเลือดฝาดแย้มเรียวปากน้อยๆ ก่อนรอยยิ้มจะกระจายไปทั่วดวงหน้าทั้งปากและตา

‘อาอิงค่ะ อาอิงฟ้า เป็นอาสาวของพลับเองค่ะ’

‘อารัณไม่ยักรู้ว่าพลับมีอาสวยขนาดนี้ ทั้งที่ไร่ของเราอยู่ติดกันขนาดนี้ ทำไมอาถึงไม่เคยเห็นอาอิงฟ้าของพลับล่ะ’

‘อ๋อ...อาอิงเพิ่งกลับมาจากอังกฤษค่ะ อาอิงไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่อังกฤษตั้งนานค่ะ นี่ก็เพิ่งจะกลับมาเยี่ยมคุณพ่อ’ พลับพลึงบอกเช่นนั้นเพราะคุณตากับคุณยายของเธอเสียไปนานแล้ว คุณพ่อมีน้องสาวอยู่คนเดียวก็คืออาอิงฟ้า

‘งั้นเหรอ แล้วอาอิงของพลับมีแฟนหรือยังล่ะจ๊ะ’ พ่อเลี้ยงดรัณหลอกถามสาวน้อย แต่ดูเหมือนพลับพลึงจะรู้ทันจึงมองค้อนเขาเล็กน้อย แล้วยอมบอกความลับสุดยอดให้ฟัง

‘อาอิงของพลับมีคนมาจีบเยอะมาก ก็แหม...อาอิงสวยจะตาย ตัวเลือกก็เลยเยอะ แต่อาอิงยังไม่เลือกใครเลยสักคนค่ะ อาอิงใจแข็งมาก’ เด็กสาวจีบปากจีบคอบอกคนที่มีศักดิ์เป็นอาและเป็นเจ้าของไร่องุ่นติดกัน หลายปีมานี้เธอกับอารัณสนิทสนมกันจนเหมือนเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจนใครๆ คิดว่าดรัณจะกินเด็ก แต่นั่นก็แค่ข่าวลือ อารัณไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบเดียวกับที่มองอาอิงในตอนนี้

‘สวยเนอะ อยากรู้จักอาอิงของพลับมากกว่านี้จัง ช่วยอาหน่อยสิ’ เขาไม่เห็นใครเหมาะจะเป็นแม่สื่อแม่ชักเท่าพลับพลึงอีกแล้ว ความสวยของอิงฟ้าสะดุดใจเขาเกินกว่าจะปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปง่ายๆ ดรัณตัดสินใจทันทีที่เห็น อิงฟ้าเป็นผู้หญิงที่เหมาะจะเป็นแม่ของลูกเขาจริงๆ

‘อารัณเอาจริงเหรอ อาอิงจีบยากนะจะบอกให้’

‘อาไม่เคยจริงจังกับใครมากเท่านี้มาก่อนเลย คำตอบนี้มากพอจะทำให้พลับช่วยอาชายสุดที่รักคนนี้ได้มั้ย’

เมื่อถูกออดอ้อนยกใหญ่ขนาดนี้ ทำไมพลับพลึงจะไม่ใจอ่อนเล่า

‘ก็ได้ค่ะ พลับจะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะคะ’ เธอเลือกตอบแบบชาญฉลาด ไม่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าฝีมือการเป็นศิราณีของตนจะดีเยี่ยมขนาดทำให้คนใจแข็งอย่างอิงฟ้าใจอ่อน เพราะถ้าอิงฟ้าใจอ่อนก็คงมีแฟนไปตั้งนานแล้ว

‘โอเค ขอบคุณล่วงหน้านะหลานสาวคนสวยของอา ถ้าอาสมหวังเมื่อไหร่ อาจะตบรางวัลให้พลับอย่างงาม’

เด็กสาวทำตาโตก่อนจะครุ่นคิดถึงรางวัลที่อยากได้ แล้วหางตาเธอก็เหลือบไปเห็นเจ้าพายุ ม้าตัวใหม่พันธุ์ดีที่ซื้อมาด้วยราคาแพงลิบเท่ากับราคาม้าแข่งพันธุ์เยี่ยมเลยกระมัง เจ้าพายุรูปหล่อสะดุดใจสาวน้อยอย่างเธอตั้งแต่แรกเห็น ความซุกซนของเธอจะชนะความองอาจพยศร้ายของมันได้หรือไม่ มันคือความท้าทายมากที่สุดในตอนนี้

‘พลับขอรางวัลก่อนเลยได้ไหมคะ’

ดรัณมองตามสายตาสีน้ำตาลอ่อนสวยแวววาวระยับที่กำลังทอดผ่านไปยังม้าหนุ่มสุดหล่อที่ยืนอวดโฉมอยู่ริมรั้ว เขาส่ายหน้าในทันที

‘ไม่น่า พลับก็รู้ว่าเจ้าพายุมันพยศแค่ไหน มันยังไม่คุ้นกับที่นี่โดยเฉพาะคน ใครเข้าใกล้มันยังเคยถูกดีดมาแล้ว’

‘ไม่รู้ล่ะ พลับถูกชะตากับเจ้าพายุ พลับต้องการปราบพยศมัน อารัณต้องให้พลับลองขี่เจ้าพายุ ถ้าอารัณสมหวัง แต่ถ้าไม่ตกลง พลับก็ไม่ตกลงเหมือนกัน’ เธอยื่นคำขาด เล่นเอาพ่อเลี้ยงหน้าหยกต้องค้อนใส่ให้บ้าง

‘หนอย...ถ้าพลับถูกดีดตกม้า อาจะได้เป็นน้องเขยพ่อของพลับหรือเปล่าล่ะ’

‘ข้อนั้นไม่ต้องวอรี่ อารัณแค่รับปากมาก็พอ พลับจะไม่ทำให้อารัณเดือดร้อนเรื่องม้าเด็ดขาด โอเคมั้ยคะ’

ดรัณลอบมองอิงฟ้าอีกครั้ง และก่อนที่เธอจะเดินผ่านหน้าเขาไป เธอก็หันมาเหมือนจะมองพลับพลึง แต่แล้วรอยยิ้มบางๆ ก็ส่งตรงมาให้เขา เท่านั้นแหละ พ่อเลี้ยงหน้าหยกก็เลยตอบตกลงรับข้อเสนอของแม่หลานสาวข้างไร่ตัวแสบทันที

‘ตกลง ถ้าอาสมหวัง พลับก็สมหวัง’

‘ต้องอย่างงั้นสิอารัณ ฮิ ฮิ’

5 ปีมาแล้วสินะ ที่ดรัณไม่มีรอยยิ้มและสายตาอ่อนเชื่อมแบบนั้นอีก ชายหนุ่มไม่เคยลืมความสุขล้นทะลักในครั้งนั้น มันไม่ใช่ความสุขที่เกิดจากความสมหวังในความรัก เพราะเขาเพิ่งจะเจอกับอิงฟ้าและเพิ่งจะแลกสัญญากับพลับพลึง แต่เป็นความสุขทางใจที่เขาสัมผัสได้มาตลอดตั้งแต่เจอเด็กสาวในครั้งแรก เด็กพลับพลึงเป็นเหมือนแสงของดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าสว่างไสวยิ่งกว่าไฟนีออน เธอไม่เคยทำให้เขาทุกข์ใจมีแต่เพิ่มพูนความสุขให้เขายิ้มและหัวเราะตลอดเวลาเรื่อยมา

พ่อเลี้ยงหนุ่มมองภาพถ่ายในกรอบรูปสีหม่นอย่างสีเทา กรอบรูปอันนี้มีความหลัง อิงฟ้าเป็นผู้หญิงไม่เรื่องมาก เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ เธอมีความแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มักจะชอบสีสันสดใส ทว่าอิงฟ้ากลับชอบสีเทา เขาเคยถามว่าทำไมถึงชอบสีหม่นๆ แบบนี้ เธอก็ตอบง่ายๆ สั้นๆ ว่าชีวิตของเธอเป็นสีนี้กระมัง

สีเทาเป็นสีหม่นหมองเหมาะกับผู้ใหญ่วัยกลางคนเป็นต้นไป ไม่เหมาะกับผู้หญิงสาววัยสดใสอย่างเธอเลยสักนิด เขามารู้เอาทีหลังว่าสาเหตุที่เธอชอบสีเทาคืออะไร แต่ตอนนั้นเขาไม่ใส่ใจอะไรไปมากกว่าโลกสีชมพูที่อยู่ในมือ

“อิง...ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ทรยศคุณนะอิง ผมไม่ได้ตั้งใจ”

ดรัณยกกรอบรูปขึ้นมาใกล้ๆ ภาพของอิงฟ้าที่ยิ้มบางๆ พลันเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง

“เพล้ง!!!” กรอบรูปตกลงพื้น กระจกแตกกระจายเกลื่อน ดรัณปล่อยมือจากมันทันทีที่เห็นอิงฟ้าทำหน้าบึ้ง ก่อนจะก้มลงไปเก็บมันขึ้นมา ไม่สนใจว่ากระจกร้าวจะตำมือจนเลือดหยดหรือไม่ เขาสนใจแต่รอยยิ้มของเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel