2/1
ภายในห้องนอนใหญ่ที่ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำทะเลตัดสีขาว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็มีสีเข้าชุดกัน การตกแต่งทุกอย่างเป็นไปตามความชอบของเจ้าของแต่ไม่ใช่คนตัวสูงแข็งแกร่งไปทุกส่วนที่กำลังยืนนิ่งอยู่กลางห้อง พ่อเลี้ยงดรัณมองทุกสิ่งที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ในห้องค่อนข้างอับชื้นเพราะไม่ได้รับการทำความสะอาดหรือแม้จะเปิดหน้าต่างระบายอากาศก็ไม่เคย ทุกอย่างยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ
กรอบรูปที่วางอยู่บนชั้นหนังสือเตี้ยๆ ถูกมือใหญ่หยิบขึ้นมาปัดฝุ่นบนกระจกออก รูปนั้นเป็นรูปของเขากับผู้หญิงหน้าหวานหยดเหมือนอัญมณีล้ำค่า สวยและเปราะบางน่าทะนุถนอม รอยยิ้มของเธอหวานเยิ้มจนคนมองอยู่กระตุกมุมปากยิ้มเสียทุกครั้งร่ำไป ก่อนดวงตาคมเข้มจะรื้นพร่ามัวจนต้องกลืนก้อนความเจ็บช้ำที่ตีตื้นขึ้นมาอยู่ตรงลำคอ
ดรัณวางกรอบรูปลงเพราะไม่อยากเปิดประตูต้อนรับความเจ็บปวดที่ยังคงแทรกแซงเข้ามาเป็นบ่อนทำลายความดีในหัวใจเสียทุกครั้ง เขาระฝ่ามือไปตามขอบชั้นตั้งแต่ริมด้านหนึ่งไปจนถึงอีกด้านหนึ่ง และที่ตรงนั้นเองมือของเขาก็หยุดนิ่ง
กรอบรูปเล็กๆ ของใครบางคนที่กำลังยิ้มแป้นจนเห็นฟันครบ 32 ซี่ สาวน้อยหน้าตาน่ารักค่อนข้างสะดุดตาแต่แก่นแก้วสดใส พลับพลึงเมื่อ 6 ปีก่อน เธอเพิ่งจะทำบัตรประชาชนเป็นครั้งแรก รูปนี้เธอถ่ายตอนที่กลับมาจากที่ว่าการอำเภอแล้วสั่งให้เขาถ่ายรูปเธอหลังจากที่เธอถ่ายรูปเขากับอิงฟ้าให้แล้ว
‘ทีนี้ตาอารัณต้องถ่ายรูปให้พลับบ้างแล้วล่ะ พลับถ่ายรูปคู่อารัณกับอาอิงให้แล้ว แลกกันไง’
‘อายังไม่ได้รับปากซะหน่อยว่าจะถ่ายให้’
‘ขี้โกง ทีพลับยังถ่ายรูปให้อารัณโดยไม่มีข้อแม้ แบบนี้เรียกว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กใช่มั้ยล่ะ’
‘รังแกตรงไหน อาบังคับให้พลับถ่ายหรือก็เปล่า’
‘อ๋อ...พูดแบบนี้ก็สวยสิ คิดจะเป็นศัตรูกันใช่มั้ย’
เด็กสาวพลับพลึงถลกแขนเสื้อขึ้นแบบนักเลง คิดจะเอาเรื่องเขาเต็มที่ อารัณก็ยังตีหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งที่ใจหัวเราะลั่นกับท่าทางรวนๆ ของเธอ กระทั่งคนกลางอย่างอิงฟ้าต้องเข้ามาห้ามทัพ
‘อะไรกันสองคนนี่ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ตีกัน รัณก็เหอะ ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้ แค่หลานขอให้ถ่ายรูปให้หน่อยแค่นี้มีปัญหาหรือคะ พลับจ๋า เดี๋ยวอาอิงถ่ายให้เองแล้วกันนะ’
‘ไม่ต้องหรอกจ้ะ ผมก็แค่แกล้งยัยพลับเล่นเฉยๆ เรารักกันจะตายไป เนอะพลับเนอะ’
เด็กหญิงพลับพลึงถูกดึงไปกอดแล้วยังหอมแก้มอิ่มแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดหน้าตาเฉย คนหอมก็ไม่คิดอะไรมากไปกว่าเอ็นดู ส่วนคนถูกหอมก็หน้าเหยเกแล้วผลักคนตัวโตสุดแรง
‘โอ๊ย!! อารัณไม่อยากถ่ายรูปให้พลับ แล้วยังจะมาขโมยหอมแก้มพลับอีกเหรอ อาอิงเอาอารัณคืนไป อารัณจะหอมแก้มอาอิงคนเดียวเท่านั้น ยี้!!! คนจมูกเหม็น’
ภาพความหลังครั้งเก่าดรัณไม่เคยลืม ยังจำได้เลยว่ากว่าเขาจะจับพลับพลึงมาถ่ายรูปได้ก็เล่นเอาเหงื่อตก ยัยเด็กจอมยวนนี่ถึงขนาดปีนต้นไม้ซุ่มอยู่ ถ้ากิ่งไม้นั่นไม่ลั่นเปรี๊ยะจนคนตัวเล็กเผลอปล่อยมือแล้วตกลงมาใส่ร่างเขาจังๆ เขาก็คงยังตามหาเจ้าหล่อนให้วุ่น
ริมฝีปากหยักหนาใต้หนวดเรียวเกือบจะยิ้มแต่แล้วมันก็จางหายเป็นขบเม้มกันไว้ดุจเดิม ดรัณเดินออกมาจากตรงนั้น ตรงไปยังเปลเด็กแบบที่มีรั้วแล้วมุ้งกันยุง เปลสีชมพูเพราะเด็กทารกเป็นเพศหญิง ปลายจมูกของชายหนุ่มแดงระเรื่ออย่างไม่อาจระงับความทุกข์ระทมที่ตีตื้นขึ้นมาอีกระลอก ห้องนี้รวบรวมความทรงจำที่มีทั้งสุขและทุกข์มากมาย ทุกครั้งที่เข้ามาเขาก็จะดึงเอาความรู้สึกทุกข์กลับออกไปด้วย เหมือนในตอนนี้
“อ้าวพลับกลับมาแล้วหรือลูก” แม่เลี้ยงกาญจนาเรียกบุตรสาว พลับพลึงจึงต้องหยุดชะงักแล้วเลี้ยวเข้าไปกอดมารดาแทน แต่ตอนนี้ท่านไม่ได้อยู่คนเดียวมีใครอีกสองคนนั่งอยู่ด้วย
“ลูกพลับ จำพี่ดลได้ไหมลูก พี่นฤดลลูกชายคุณป้าเดือนฉายกับคุณลุงโกวิท เจ้าของไร่โกวิทไงล่ะลูก” มารดาทบทวนความจำให้
“อ๋อค่ะ พลับจำได้” พลับพลึงบอกก่อนจะยกมือไหว้แขกของมารดาทั้งสองคน “คุณแม่มีแขก งั้นพลับขอตัวก่อนนะคะ”
“จะรีบไปไหนล่ะลูก อยู่คุยกับคุณป้าและพี่ดลด้วยกันก่อน” แม่เลี้ยงกาญจนาหัวมายิ้มให้แขก “วันนี้ยัยพลับเข้าไปช่วยงานในไร่ทั้งวันเลยค่ะ ท่าจะเหนื่อย”
“เก่งจังเลยนะคะ เป็นสาวเป็นนางทำงานได้เหมือนผู้ชายน่าภูมิใจจังค่ะแม่เลี้ยง” คุณเดือนฉายมองพลับพลึงอย่างพอใจ หญิงสาวหน้าตาสะสวยอยู่ในชุดทะมัดทะแมงดูท่าจะขยันขันแข็งไม่เบา แบบนี้สิดีเหมาะจะเป็นลูกสะใภ้ของไร่โกวิท
“ยัยพลับอยากเป็นมัณฑนากรค่ะ แต่พ่อเลี้ยงขอให้มาช่วยดูงานในไร่ไปพลางๆ ก่อนจะออกหางานทำตามที่ได้เรียนมาค่ะ จะได้รู้ว่างานไร่น่ะมันเป็นยังไง”
“เป็นมัณฑนากรก็เก่งนะครับแม่เลี้ยง แต่น้องพลับน่าจะเก่งกว่าเพราะต้องดูงานในไร่ได้ด้วย เยี่ยมจริงๆ ครับ” นฤดลกวาดตามองพลับพลึงตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อตอนเพิ่งจะแตกเนื้อสาวเขาก็เห็นเค้าความสวยอยู่แล้ว โตมาสวยกว่าที่คิดไว้ซะอีก ไม่ใช่สวยหวาน แต่เป็นสวยเปรี้ยว สวยสดใสสมวัย
“ก็พลับเป็นลูกชาวไร่นี่คะ เป็นธรรมดาที่ต้องเรียนรู้งานในไร่ ยิ่งไร่รุ่งโรจน์กินเนื้อที่บนเขาเป็นลูกๆ พลับก็ยิ่งต้องเรียนรู้จริงไหมคะ”
