1-เรื่องจริงหรือความฝัน 4/4
“ท่านอาศิรวิษองครักษ์ประจำกายเจ้านางน้อยเพคะ”
“หล่อจัง”
คนที่ฉันเห็นทำให้ฉันเผลอลั่นปากพูดออกมา ก็ใบหน้าสมส่วนมีเสน่ห์ ใครเห็นก็ต้องทักแบบฉันนี่แหละ เขาหล่อจริง ๆ ล่ำสั่นสมชายชาตรี ฉันไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าก็หาที่ติในความหล่อเหลาของเขาไม่ได้เลย นี่คนหรือเทพบุตรกันแน่นะ
“เจ้านางน้อยเพคะ...เจ้านางน้อย”
“ห ห๊ะ”
“ทรงเป็นกระไรหรือเพคะหม่อมฉันสะกิดอยู่นานก็ไม่ขานรับ”
“ม ไม่มีอะไร กลีบบัวว่าอะไรนะ ขออีกที”
ฉันรู้สึกตัวจากการจ้องหน้าผู้ชายที่เป็นองครักษ์เมื่อกลีบบัวเขย่าแขนแรง มันอดไม่ได้ที่จะมอง ครุ่นคิดในหัวเขาเหมือนกับผู้ชายที่อยู่ในหนังสือเรื่องที่เพิ่งอ่านจบไป ภาพจินตนาการของฉันจากการบรรยายในหนังสือบอกว่าเป็นเขา แต่มันคงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง
“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเราออกไปกันเสียก่อน ให้เจ้านางน้อยได้พักผ่อน” เป็นเจ้าหลวงที่พูดขึ้น
(พ่ะย่ะค่ะ)
(“กราบลาเจ้าหลวงเพคะ”)
กลีบบัวและกาลัดน้อมตัวแล้วกราบลาผู้สูงศักดิ์ จากนั้นทุกคนก็ออกจากห้องไป มีเพียงกาลัดกับกลีบบัวที่อยู่เหมือนเดิม พวกเธอคงไม่ห่างจากฉันเป็นแน่ เพราะตั้งแต่ลืมตาตื่นมาก็เห็นทั้งสองคนอยู่เคียงข้าง คงเป็นคนสนิทของเจ้าของร่างนี้นั่นแหละ แล้วฉันจะใช้ชีวิตหลังจากนี้อย่างไร ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับชีวิตฉันนัก นึกแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือการวิถีชีวิตตอนนี้ยังไง แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?
“นี่ ๆ พวกเธอบอกว่าฉันตกน้ำแล้วองครักษ์ก็มาช่วยไว้อย่างนั้นเหรอ?” หลังจากที่คนอื่น ๆ ออกจากห้องไปไม่นาน ฉันก็เอ่ยถามกลีบบัวและกาลัดทันที เพราะฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ใช่เพคะ” กลีบบัวตอบ
“แต่หม่อมฉันก็ยังไม่เข้าใจ ว่าเจ้านางน้อยจะจมน้ำได้เช่นไร ในเมื่อเจ้านางน้อยเป็นนาคี” กาลัดพูดเสริมต่อทำเอาฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“นาคี!!! พ พญานาคอะเหรอ”
“เพคะเจ้านางน้อย พวกเราล้วนเป็นเผ่าพันธุ์นาคานาคีทั้งมคธนครแห่งนี้” กาลัดตอบ
“เจ้านางน้อยลืมเสียหมดสิ้นแล้วกาลัด จะทำเยี่ยงไรกันดี” กลีบบัวพูดขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่เป็นกังวล ส่วนฉันก็ยังคงตกใจไม่หายกับสิ่งที่กาลัดบอกถึงตัวตน
“เอ็งลืมสิ่งที่หมอหลวงกล่าวแล้วหรือว่าเจ้านางน้อยมีอาการเลอะเลือน ย่อมต้องลืมตัวตน ก็ค่อย ๆ รักษาพระอาการไป” กาลัดย้ำเตือน ฉันได้แต่นั่งฟังและมองหน้าทั้งสองสาวสลับกันไปมา อยากตะโกนบอกเหลือเกินฉันไม่ได้บ้า!
“เฮ้อ...แล้วแบบมีเปลี่ยนร่างอะไรกันไหมอะ เหมือนในละครที่ฉันเคยดูอะไรทำนองนั้น” ฉันทิ้งตัวลงนอนหงายราบกับพื้นเตียง แล้วพูดลอย ๆ ตามสิ่งที่พบเจอมา
“เพคะเป็นเช่นนั้นแล เจ้านางน้อยหรือใครก็ย่อมกลายร่างได้ทั้งหมดเพคะ” กลีบบัวพูดขึ้น
“แล้วต้องแปลงร่างยังไงวะนั่น ต้องโอมสุจิปุริหรือไง” ฉันพูดกับตัวเองในใจ เพราะไม่สามารถเข้าใจในเรื่องเหล่านี้เอาซะเลย ก็ฉันเป็นคนจะมากลายร่างอะไรได้เล่า “ฉันง่วงขอนอนก่อนนะ” พูดจบฉันก็ปิดเปลือกตาลง
“เดี๋ยวหม่อมฉันจะพัดวีให้ จะได้บรรทมสบายขึ้น” เสียงนี้ของกลีบบัวฉันได้ยินก่อนที่จะหลับสนิทลง
