บท
ตั้งค่า

6 จูบแรก

หลังจากนั่งคิดตลอดคืน ในเช้าวันถัดมาณนันก็พาน้องสาวอย่างณิชกานต์ที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เมื่อฟ้าประธานความโชคดีให้ณิชกานต์หญิงสาวผู้อาภัพเสมอมาบ้าง เมื่อมีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าใบเล็กของเธอได้แล้วนำมาส่งตำรวจ ทว่าดวงที่อับโชคของเธอมันก็โชคร้ายและอับโชคอยู่วันยังค่ำ เมื่อภายในนั้นไม่หลงเหลือเงินอยู่เลย ไม่ต้องพูดถึงในบัญชี มันถูกถอนออกจนหมดเหลือไว้ให้เธอเพียงสองร้อยเท่านั้น

ณิชกานต์ทรุดตัวลงอย่างหมดแรง โดยมีพี่สาวคอยกอดปลอบอยู่ไม่ห่าง ก่อนจะพากลับมาห้อง เมื่อเห็นว่าน้องสาวอาการเริ่มไม่สู้ดี หลังจากฝากเรื่องไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยตามตัวคนร้าย เพื่อที่จะได้เงินกลับคืน

“เอาน่า นี่ก็ถือเป็นบทเรียน ทีหลังอย่าเชื่อและไว้ใจใครง่าย ๆ อีก” ณนันพยายามปลอมน้องสอง เมื่อได้รู้ความจริงจากกล้องวงจรปิดแล้วว่าคนที่ขโมยเงินของณิชกานต์ไปไม่ใช่ใครที่ไหน คือคนที่บอกทางและพาขึ้นรถเมล์นั่นเอง

“คุณป้าเค้าดูใจดี ณิไม่คิดว่าคุณป้าจะใจร้ายกับณิแบบนี้” เสียงหวานเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่คิดเลยว่าจะถูกหลอกตั้งแต่วันแรกที่เธอเดินทางมาที่นี่ ทั้งที่เธอพยายามระวังตัวมากแล้วแท้ ๆ

“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ วันนี้เราก็พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยออกไปหางานทำ”

“กับข้าวอยู่ในตู้เย็นนะ อยากกินอะไรก็ทำกินเอา ใกล้เวลาทำงานพี่แล้วพี่ต้องไปทำงานก่อน”

“อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม” ณนันพูดขึ้น แม้จะอยากอยู่ปลอบน้องสาวต่อก็ตาม แต่เธอต้องตัดใจปล่อยให้น้องสาวได้อยู่กับตัวเอง คิดทบทวน เรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง ไม่อย่างนั้นน้องสาวเธอก็จะไม่โตขึ้น

“ค่ะ ณิอยู่ได้ ขอบคุณนะคะ ถ้าณิไม่มีพี่นัน ณิคงแย่มากแน่ ๆ”

ลับหลังพี่สาวไปได้ไม่นาน ณิชกานต์ก็ผล็อยหลับไป ก่อนจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเย็น หัวสมองน้อย ๆ ของเธอมันเต้นตุบ ๆ เหมือนเธอหลงลืมอะไรบางอย่างไป แต่ก็คิดไม่ออกสักที ก่อนจะหันไปเห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ตากอยู่ตรงระเบียงห้อง

“นั่นมัน!” คิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบเอาเสื้อตัวที่ว่ามารีดจับจีบตามรอยเดิม ก่อนจะพับใส่ถุงอย่างประณีต แล้วตามพี่สาวไปที่ทำงานทันที

แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้นั่งวินไป ด้วยเงินที่เหลืออยู่น้อยนิด ทำให้เธอต้องประหยัด แม้ว่าพี่สาวจะให้เงินไว้ใช้ แต่เธอก็ไม่อยากใช้มันอยู่ดี เพราะเห็นว่ามันไม่จำเป็น และเธอก็คิดว่าระยะทางแค่นี้เธอสามารถเดินได้

มาถึงหน้าบาร์ ขาเล็ก ๆ ที่กำลังก้าวเข้าไป จำต้องหยุดชะงัก เมื่อถูกการ์ดดักไว้

“ขอตรวจบัตรด้วยครับ”

“คะ?” ณิชกานต์ทำหน้างงในทันที ทั้งที่เมื่อวานเธอยังเดินเข้าไปได้ ไม่เห็นมีการตรวจบัตรเลย แล้วบัตรที่ว่ามันคือบัตรสมาชิกหรือเปล่านะ เธอไม่มีด้วยสิ

“บัตรด้วยครับ”

“ถ้าเป็นบัตรสมาชิกฉันไม่มีค่ะ เมื่อวานฉันทำงานที่นี่ แล้วพี่สาวฉันก็ทำงานอยู่ในนี้”

“บัตรประชาชนด้วยครับ”

“อะ เอ้อ นี่ค่ะ” ณิชกานต์ยิ้มแห้งในทันที เมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด ก่อนจะรีบหยิบบัตรประชาชนในกระเป๋ายื่นให้การ์ด ซึ่งพอเขารับไปแล้ว เขาก็ไล่มองเธอใหม่อย่างไม่เชื่อสายตาว่าเธออายุตามบัตรประชาชนแล้วจริง ๆ ก่อนจะอนุญาตให้เธอเข้าไปได้

กลับมาที่ชายหนุ่ม ที่วันนี้เขายอมสละเวลาทำงานมานั่งรอหญิงสาวที่บอกจะเอาเสื้อไปซักให้เขาตั้งแต่หัวค่ำ ด้วยอยากเจอใบหน้าหวานที่ตามไปกับเขาถึงในฝัน

ทว่าพอให้ลูกน้องไปตามหาเธอแล้ว กลับไปมีใครรู้จักเธอเลย แม้แต่หญิงสาวที่นั่งอยู่กับเขาเมื่อคืนก่อนจะเกิดเรื่อง ก็บอกว่าไม่รู้จักเธอ ไม่เคยเห็นเธอมาก่อน

“หรือว่าจะเป็นสายครับนาย”

“เป็นไม่เป็น เดี๋ยวก็รู้ หึ” ว่าแล้วก็เผยิดหน้าไปทางหญิงสาวที่กำลังตามหา เพราะเธอกำลังเดินมาทางนี้

“จะไปไหน” เป็นอีกครั้งที่ณิชกานต์ถูกคนเข้ามาขวางไว้ อีกนิดเดียวเธอก็จะถึงตัวเขาแล้วเชียว กว่าจะหาเขาเจอเธอต้องเดินแทบจะทั่วทั้งบาร์ ดีที่เมื่อวานได้เป็นพนักงานเสิร์ฟ ทำให้พอรู้ที่ทางอยู่บ้าง

“ฉันจะไปหาเขาค่ะ” ว่าแล้วมือน้อย ๆ ก็ชี้ไปยังชายหนุ่มที่กำลังนั่งไขว่ห่างพิงพนัก ยกแก้วขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์อยู่

“ชื่อ” เสียงเรียบของชายชุดดำทำให้ณิชกานต์รู้สึกหวั่น ๆ แต่ก็ยอมบอกชื่อของตัวเองไป

“ณิชาค่ะ”

“ได้นัดไว้ไหม”

“ไม่ค่ะ ฉันแค่จะเสื้อมาคืนเค้า”

“ถ้าไม่ได้นัด เข้าพบนายน้อยไม่ได้ครับ”

“เอ่อ งั้นฉันฝากเอาเสื้อให้เขาทีนะคะ” ว่าแล้วก็ตั้งใจจะยื่นถุงกระดาษที่มีเสื้อของเขาส่งให้คนตรงหน้า แต่ก็มีเสียงขัดขึ้นซะก่อน

“ให้เธอเข้ามา”

“เชิญครับ” เมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นนาย ชายชุดดำก็ผายมือให้เธอเข้าไปในทันที

“นี่ค่ะ ฉันซักให้คุณแล้ว ขาวสะอาดเหมือนใหม่เลย” ณิชกานต์ยื่นถุงกระดาษที่มีเสื้อที่เธอตั้งใจซักและรีด ให้เขาอย่างตั้งใจด้วยรอยยิ้ม แม้ในใจจะขมขื่นกับเรื่องที่เจอมามากก็ตาม

มาร์วินเราเอาถุงจากมือเธอ ก่อนจะเปิดออกดู ซึ่งพอดูก็พบว่ามันขาวสะอาดจริงอย่างที่เธอว่า แถมเธอยังรีดและพับมาให้อย่างเรียบร้อยอีกด้วย

“ก็สะอาดดี แต่”

“แต่ว่าอะไรหรอคะ”

“ฉันไม่อยากได้เสื้อแล้ว” เสื้อตัวนั้นถูกวางไว้บนโซฟาหนัง ก่อนจะเขาจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาคนตัวเล็ก ที่ยืนกุมมืออยู่

“อ่าว ถ้าคุณไม่อยากได้เสื้อแล้ว คุณอยากได้อะไรหรอคะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยมองเขาด้วยความสงสัย

“ฉันอยากได้เธอ” ว่าแล้วเขาก็รวบเอาเธอมากอดด้วยแขนข้างเดียว ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ

“ว่าไง”

“ทะ ทำอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ” เมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกดึงเข้าไปกอด ณิชกานต์รีบยกฝ่ามือดันหน้าอกเขาทันที ไม่ให้เขายื่นหน้ามาใกล้มากกว่านี้ เธอพยายามออกแรงเป็นอย่างมากเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมกอดของเขา แต่ดูเหมือนว่าแรงอันน้อยนิดของเธอมันจะทำอะไรเขาไม่ได้

“อย่าดิ้นสาวน้อย” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะรวบเอามือเธอที่พยายามประทุษร้ายตนไว้มือข้างเดียว และเมื่อแน่ใจในบางอย่างแล้ว ก็หันไปสั่งให้ลูกน้องออกไป

“ออกไปก่อน”

“แต่ว่า...” สุดท้ายก็ต้องยอมออกไปแต่โดยดี เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านาย

“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ พาฉันไปด้วย”

“คนพวกนี้เป็นลูกน้องฉัน คงจะฟังเธออยู่หรอกเหอะ” เขาว่าพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบา ๆ

“ถ้าคุณไม่ปล่อย ฉันจะร้องกรี๊ดให้คนช่วยจริง ๆ”

“คิดว่าจะมีคนช่วยเธอหรือไง ลูกน้องฉันยืนอยู่แบบนั้น” ว่าแล้วก็พเยิดหน้าไปยังเหล่าลูกน้องที่ยืนเรียงรายอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“มาต่อเรื่องของเราดีกว่า” มือหนาเฉยข้างเธอขึ้น เพื่อที่เขาจะได้เห็นหน้าเธอชัด ๆ

“ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะต่อกับคุณทั้งนั้น ปล่อยฉันนะ” ใบหน้าเล็ก ๆ ส่ายไปมา เมื่อให้หลุดจากมือหนาของเขา

“ไม่เอาน่า มาถึงขนาดนี้แล้ว อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า ฉันรู้ว่าเธอเองก็ต้องการ”

“ต้องการอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ”

“ช่วยด้วยค่ะ ไอโรคจิตนี่มันจะลวนลามฉัน ช่วยด้วย อื้ออออ” ยังไม่ทันที่ณิชกานต์จะพูดขอความช่วยเหลือจบ ทุกคำที่เธอกำลังจะพูดต่อจากนั้นต้องกลืนหายเข้าไปในลำคอ จากการกระทำของคนตัวสูงที่อยู่ ๆ ก็มาขโมยจูบแรกของเธอไป

ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ และเพราะความตกใจทำให้เผลอเปิดปากให้เขาเข้ามารุกล้ำควานหาความหวานภายใน ลิ้นหนาไล่พันเรียวลิ้นของเธอ จนเธอรู้สึกอ่อนแรง อยู่ภายในอ้อมแขนของเขา

“ไม่เลวหนิ” หลังจากพอใจแล้ว เขาก็ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ โดยที่มือนั้นยังประคองเธออยู่ไม่ห่าง เพราะเหมือนเธอกำลังถูกพิษจูบของเขาเล่นงาน

มุมปากหนากระตุกยิ้มเบา ๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานนั้นแดงก่ำลามไปถึงใบหู รวมถึงจูบเมื่อกี้ที่พอใจเขาเป็นอย่างมาก จูบที่ไม่ประสา ทว่าหวานหอม จนเขาไม่อยากจะผละออก

“แฮ่ก ๆ” เสียงหอบหายใจที่ดังขึ้นบ่งบอกให้รู้จูบเมื่อกี้สูบเอาพลังงานเธอไปมากแค่ไหน หรือเพราะจูบไม่เป็นก็ไม่รู้ทำให้เธอหายใจไม่ทัน

ริมฝีปากบางอมชมพูที่ขยับไปมาตามการผ่อนลมหายใจของหญิงสาว มันดึงดูดชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ทำให้เขาอดใจไม่ไหว ต้องโน้มตัวไปจูบเธออีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอเป็นอิสระง่าย ๆ เหมือนครั้งแรก

“อื้ออออ” ด้านคนที่พึ่งจะหายใจทันก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่ออยู่ ๆ เขาก็ขโมยจูบของเธอไป มือที่เคยวางอยู่บนอกของเขาเลื่อนมาจิกบ่าของเขาไว้ ก่อนจะคล้องคอเขาเพื่อเป็นที่ยึด ไม่ให้ตัวเองหลอมละลายเพราะรสจูบของเขาแล้วล้มลงไปกองอยู่บนพื้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel