20 เพื่อน
เอี๊ยด
“จอดรถทำไมหรอคะ...อื้อ” ยังไม่ทันที่จะถามเขารู้เรื่อง ริมฝีปากบางก็ถูกเขาฉกฉวยไปเสียแล้ว ด้วยลึก ๆ เธอเองก็รู้สึกโหยหาเขาเช่นกัน ทำให้ยอมเปิดปากรับสัมผัสจากเราโดยง่าย เมื่อทางสะดวกลิ้นร้อนก็ไล่ควานหาความหวานจากริมฝีปากบางอย่างเอาแต่ใจ จนเธอต้องทุบอกเขาเบา ๆ เป็นการทักท้วง กับความเร่าร้อนรุนแรงของเขา
“อ่าห์” เสียงหวานครางต่ำหลังจากเขาปล่อยให้เป็นอิสระ ก่อนจะนั่งหอบหายใจอย่างหมดแรงซบหน้ากับอกแกร่งของเขา
“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่เธอไม่ได้แอบไปเอากับใครใช่ไหม” ใจเต้นแรงได้ไม่นานก็ต้องหล่นวูบกับคำถามเสียดแทงหัวใจของเขา เขาเห็นเธอเป็นคนยังไงกันนะ เธอดูเป็นผู้หญิงที่จะนอนกับใครก็ได้อย่างนั้นหรอ
“ถามทำไมไม่ตอบวะ หรือเธอแอบไปเอากับใครมา”
“ปะ เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้มีใคร” เสียงตวาดของเขาทำให้ตอบเขากลับไปด้วยเสียงสั่น ๆ ด้วยความตกใจ
“แล้วจะได้รู้กันว่าเธอแอบไปมีใครรึเปล่า”
“มะหมายความว่ายังไงคะ”
“ก็ตามที่พูด” ว่าจบเขาก็อุ้มเธอมานั่งบนตัก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ในตอนนี้เธอมานั่งคร่อมอยู่บนตักเขา ส่วนมือของเขาก็กำลังลูบไล้ต้นขาของเธออยู่ผ่านกระโปรงนักศึกษา เบาะรถก็ไม่รู้ว่าเขาปรับเลื่อนให้มันถอยหลังตอนไหน เธอรู้แค่ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเหมาะให้เขาทำเรื่องอย่างว่าเหลือเกิน
แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะทำมันจริง ๆ นี่มันบนรถนะ ไหนจะรถที่กำลังผ่านไปผ่านมาอีก
“นะ นี่มันบนรถนะคะ แถมยังมีรถผ่านไปผ่านมาด้วย”
“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ กอดจะพยายามถอดชุดนักศึกษาของเธอออก
“ไม่ได้นะคะ” เธอพยายามผลักเขาออก แต่ประโยคต่อมาของเขามันทำให้เธอตัวแข็งทื่อ
“อย่าลืมสิว่าเธอขายตัวให้ฉันแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น”
“หน้าที่ของเธอคืออยู่นิ่ง ๆ ให้ฉันเอา” ปัก เหมือนมีมีดแหลมนับพันเสียดแทงเข้ามาที่กลางใจดวงน้อย มันเจ็บไปหมด เจ็บจนเธอรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา
“ฉันจะเชื่อที่เธอบอก แต่ถ้าฉันพิสูจน์แล้วรู้ว่าเธอไปมีคนอื่นเธอเจอดีแน่” กางเกงชั้นในถูกนิ้วแกร่งของเขารั้งไว้ข้าง ๆ กายสาว ก่อนที่เขาจะส่งตัวตนของเขา เข้าไปพิสูจน์ ที่เขาพูดไปแบบนั้นเพราะเขาไม่มีอุปกรณ์ป้องกันบนรถเลยแม้แต่ชิ้นเดียว จากทีแรกว่าจะแค่จูบกับเธอ
เฉย ๆ แต่พอได้จูบแล้วความต้องการมันกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถห้ามอารมณ์ตัวเองได้
ก็หวังว่าสิ่งที่เธอพูดมันจะเป็นความจริงแล้วกัน การที่เขาสดกับเธอเขาไม่ได้กลัวว่าเธอจะท้องไม่ท้องเพราะเขาทำหมันแล้ว แต่เขาแค่กลัวโรคก็เท่านั้น ที่ผ่านมาเขาสดกับเธอเกือบตลอด เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่อยู่กับเธอหลายวัน ไหนจะมาเป็นไอหนุ่มนักศึกษาหน้าอ่อนนั่นมาตามเธออีก มันก็ทำให้เขาเกิดความระแวงเป็นธรรมดา
“อ่าห์ ยังแน่นเหมือนเดิม”
“ที่ยังแน่นอยู่แบบนี้เป็นเพราะผู้ชายของเธอมันเล็ก หรือของฉันมันใหญ่ไปกันแน่ณิชา” เขาก็ยังเป็นเขาที่ยังพ่นคำพูดทำร้ายจิตใจของเธอไม่หยุด ทำให้เธอได้แต่กัดฟันแน่น ไม่ตอบอะไรเขากลับไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ
“โกรธหรอที่ฉันพูดแบบนี้” เขาถาม เมื่อเห็นเธอเอาแต่กัดฟันแน่น ไม่พูดไม่จา ซ้ำนัยน์ตาก็ยังแดงก่ำ เหมือนคนจะร้องไห้ หรือเขาพูดแรงไป แต่ทำไมเขาต้องสนใจความรู้สึกของเธอด้วย เธอมันก็เป็นผู้หญิงที่เอาตัวเข้าแลกกับเขาเพื่อเงินเหมือนคนอื่น ๆ
“ฉันมีสิทธิ์ทำอะไรแบบนั้นด้วยหรอคะ”
“รู้ตัวก็ดี งั้นก็ช่วยทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย เห็นแล้วมันหมดอารมณ์ชะมัด” พูดจบก็กระแทกแก่นกายใส่คนตัวเล็กเต็มแรง ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของเธอ
“บะ อ้ะ เบา เบาค่ะ ฉันเจ็บ”
“หึ”
“หิวรึเปล่า” หลังจากเสร็จกิจกรรมรักแล้ว อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้น
ทำเอาคนที่กำลังติดกระดุมเสื้ออยู่แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบเขาไปตามตรง เพราะถ้าเธอนิ่งเดี๋ยวเขาจะพาลอารมณ์เสียใส่หาว่าเธอพูดด้วยแล้วไม่ตอบอีก
“ก็นิดหน่อยค่ะ...” พูดยังไม่ทันจะจบอยู่ ๆ เสียงท้องเธอก็ร้องขึ้นมาซะอย่างนั้น จนเธอต้องส่งยิ้มแก้เก้อให้เขา
“ฉันว่าไม่หน่อยแล้วนะ” เขาว่าอย่างอารมณ์ดี แตกต่างจากคนที่คอยพ่นว่าคนร้าย ๆ ใส่เธอเมื่อครู่นี้อย่างชัดเจน
“มีอะไรอยากกินเป็นพิเศษไหม”
“พูดเหมือนจะพาเราไปกิน” คนตัวเล็กบ่นอุบอิบเบา ๆ คนเดียวทว่ามันกลับเข้าหูคนตัวสูงที่กำลังตั้งใจขับรถ
“ใช่ ฉันจะพาเธอไปกิน อยากกินอะไรก็บอกมา เพราะตอนนี้ฉันเองก็หิวเหมือนกัน ก่อนที่ฉันจะจับเธอกินอีกรอบแทนข้าวเย็น”
“ฉันอยากกินข้าวมันไก่ค่ะ!” ได้ยินเขาพูดแบบนั้น เธอก็รีบโพล่งเมนูที่อยู่ในหัวออกมาทันที จะอยากกินหรือไม่อยากกินมันตอนนี้เธอไม่รู้ ขอแค่พูดมันออกมาก่อน ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจแล้วทำอย่างที่พูด
“ข้าวมันไก่?”
“ค่ะ ข้าวมันไก่ ทำไมหรอคะ”
“ฉันอุตส่าห์เลี้ยงทั้งที เธอไม่อยากกินอะไรแพง ๆ หน่อยหรอ” แน่นอนว่าเมนูที่เธอพูดมา ทำเอาเขาแปลกใจไม่น้อย เมื่อเธออยากกินข้าวมันไก่ธรรมดา ๆ เพราะถ้าเป็นคนอื่นถ้าเขาพูดแบบนี้ ไม่ให้เขาพาไปกินดินเนอร์ บนตึกสูง ๆ วิวสวย ๆ ก็เป็นห้องอาหารหรู ๆ มีเชฟบริการแบบส่วนตัว
“ตอนนี้คุณเองก็หิวไม่ใช่หรอคะ ฉันว่าข้าวมันไก่มันเป็นอาหารที่กินง่าย ได้ไว ไม่ต้องรอคิวนาน อ้อแล้วแถวนี้ฉันก็รู้จักร้านอร่อยด้วย”
“โอเคข้าวมันไก่ก็ข้าวมันไก่” เขาตอบรับก่อนจะขับรถพาเธอไปยังร้านข้าวมันไก่ที่เธอว่า และพอมาถึงสาวเจ้าก็เดินเข้าไปสั่งทันทีด้วยความคุ้นเคย
“ลุงคะ เอาแบบเดิมค่ะ” ก่อนจะสะดุดด้วยคำพูดของลุงเจ้าของร้าน
“อ้าว วันนี้มากับใครด้วยล่ะ”
“เอ่อ เจ้านายน่ะคะ” เธอมองหน้าอยู่แวบหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นก็กระตุกยิ้มน้อย ๆ ‘หึ เจ้านายงั้นหรอ’
“แล้วเจ้านายเราเอาอะไรล่ะ”
“ที่นี่มีไก่ต้มกับไก่ทอด คุณจะเอาแบบไหนหรอคะ” เป็นณิชกานต์ที่หันมาถามเขาอีกคน ส่วนมาร์วินเขามองไปรอบ ๆ ร้านก่อนหันกลับมาตอบ
“เอาแบบเธอแล้วกัน” เขาตอบอย่างไม่รู้จะสั่งอะไร และยังไง ทั้งชีวิตนี้เขาแทบไม่เคยกินข้าวข้างทางเลยก็ว่าได้ ตอนอยู่อิตาลี ถ้าไม่ใช่ร้านอาหารที่แยกเป็นห้องอาหาร หรือร้านที่ไว้ใจได้ เขาก็จะทานที่บ้านเพื่อความปลอดภัย
“ค่ะ” ณิชกานต์พยักหน้ารับก่อนจะหันไปสั่งแบบของตัวเองอีกหนึ่งชุด แล้วเดินนำเขาไปยังโต๊ะ ซึ่งท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของเขาก็ทำให้เธอพอจะเดาได้ว่าเขาไม่เคยมาทานร้านอะไรแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ถามเขาออกไป
“ทำไมไม่กินล่ะคะ คุณไม่ชอบหรอคะ” เธอถามเขาด้วยแววตาใสซื่อ เพราะเธอตักทานไปแล้วหลายคำรสชาติก็อร่อยดี หน้าตามันก็น่าทาน แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะตักทานเลยสักคำ
“ฉันไม่กินหนัง”
“ทำไมไม่บอกล่ะคะ ฉันจะได้บอกคุณลุงเค้าว่าไม่เอาหนัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันตักออกให้” เธอว่าก่อนจะยกจานเขามาไว้ตรงหน้า แล้วจัดการคีบหนังไก่ให้เหลือแต่เนื้อให้เขาให้เขา ก่อนจะยื่นส่งให้เขาคืน ส่วนมาร์วินเขาก็มองการกระทำของเธอเงียบ ๆ พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อเกิดขึ้น
“ตรงนี้ด้วย มันยังมีหนังติดอยู่เลย” เขาว่าเมื่อเห็นว่ามันยังมีส่วนที่เธอยังคีบออกไม่หมด
“แค่นี้ก็ไม่มีแล้ว” เพราะชิ้นที่ว่าเธอตักจากจานเขามาใส่ปากหน้าตาเฉย ก่อนจะส่งยิ้มตาหยีให้เขา
“นี่เธอ!” ซึ่งแน่นอนว่าคนเห็นไม่มีทางโกรธลง แถมเสียงที่ดุก็ดุแบบไม่จริงจังปนเอ็นดู
“อร่อยไหมคะ” ระหว่างเดินกลับรถเสียงหวานเอ่ยถามคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ
“ก็พอได้...ระวัง!” ก่อนที่เขาจะดึงเธอมากอด เมื่อทางข้างหน้าเป็นหลุม แต่แม่คุณเอาแต่หันมาพูดกับเขาไม่ยอมมองทาง
“ข ขอบคุณค่ะ” คนถูกก่อนใจเต้นแรงขึ้นมาทันที เมื่อได้รับความรู้สึกเหมือนใครสักคนปกป้องห่วงใย
“เวลาเดิน หัดมองทางหน่อย อย่าเอาแต่มองหน้าฉัน ฉันรู้ว่าฉันหน้าตาดี” เขาว่า ก่อนจะค่อย ๆ คลายอ้อมกอดปล่อยให้เธอเดิน
“ชิห์ หลงตัวเองชะมัด”
“เธอว่าไงนะ”
“เปล่าค่ะ”
“หรอ หึ” เสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอดังขึ้น ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันกลับ
“ฉันไม่ได้มีใครนะคะ ฉันไม่ด้ายมี...” ระหว่างขับรถอยู่ ๆ ก็มีเสียงจากเบาะข้าง ๆ ดังขึ้น พอหันมองก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้ว
“ละเมองั้นหรอ?”
“ฉันจะเชื่อเธอแล้วกันว่าเธอไม่ได้มีใครจริง ๆ”
“นี่เธอตื่นได้แล้วถึงห้องแล้ว”
“อืออออ”
“ฉันต้องอุ้มเธอขึ้นห้องสินะ” เมื่อพยายามปลุกอยู่หลายรอบก็ไม่มีทีท่าว่าคนตัวเล็กจะตื่น สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นห้อง แต่ก็ดีหน่อยที่มาถึงลิฟต์แล้วเธอก็รู้สึกตัวพอดี
“ค คุณ!”
“ตื่นแล้วหรอ”
“ข ขอโทษนะคะ” เธอพูดบอกเขาเมื่อเขาปล่อยเธอลงยืนแล้ว
“ได้สิ แต่เธอต้องขึ้นให้ฉันเป็นการไถ่โทษ”
ได้ยินแบบนั้นณิชกานต์ก็หน้าเหวอผงะถอยหลัง แผ่นหลังติดลิฟต์ทันที ก่อนที่จะเห็นเขาอมยิ้มน้อย ๆ กับท่าทีของเธอ
ซึ่งแน่นอนว่ากิจกรรมที่ทั้งคู่จะทำร่วมกันต่อจากนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องบนเตียงและเรื่องที่เธอต้องไถ่โทษให้เขา
