15 จำยอม
“นั่งลง” เสียงเข้มกดต่ำลงเรื่อย ๆ แต่เมื่อยังเห็นท่าทีลังเลของเธอ มือหนาคว้าเอาข้อมือบางก่อนจะออกแรงกระตุกให้เธอเซถลามานั่งลงบนตัก
“อ้ะ”
“ถ้าคิดจะลุกหนีฉันกับเธอกดตรงนี้แน่” เขาขู่ เมื่อเธอยังไม่เชื่อฟัง
“คนหื่น” เธอว่าเสียงเบา แต่ด้วยความใกล้ชิด แน่นอนว่าเขาได้ยิน
“หึ หื่นจริง ๆ มันต้องแบบนี้สาวน้อย” เขาว่าก่อนจะเริ่มซุกไซร้ซอกคอของเธอจากด้านหลัง ริมฝีปากหนาขบเบา ๆ ที่ใบหู ไม่สนคำร้องทัดทานใด ๆ
“ยะ หยุดนะ ทำอะไรของคุณน่ะ” มือบางพยายามปัดป่ายให้เขาออกห่าง แต่เพราะท่อนแขนของเขาที่โอบเอวเธอไว้แน่น ไหนจะอยู่ข้างหลังอีก ทำให้เป็นการยากที่จะทำอะไรได้
“ถ้านั่งนิ่ง ๆ ฉันจะยังไม่ทำอะไรตอนนี้”
พอได้ยินแบบนั้นคนที่ขยับก็ตัวแข็งทื่อทันที ก่อนจะค่อย ๆ หายเกร็งเมื่อเขาเพียงโอบเอวเธอไว้ และดื่มเหล้าเท่านั้น ไม่ไซร้ซอกคอ หอมแก้มบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่านี้
ส่วนภูมิที่เห็นว่าพนักงานตัวเองอยู่ ๆ ก็หายไป จึงถามหาจากพนักงานคนอื่นทันที
“เห็นณิชาบ้างรึเปล่า”
“ณิชาหรอคะ ตอนนี้นั่งเสิร์ฟเหล้าแขกอยู่ค่ะ”
“นั่งเสิร์ฟเหล้า?” ภูมิทวนอีกครั้ง ที่ร้านเขาเป็นแค่ร้านเหล้าเฉย ๆ ไม่มีบริการแบบนี้ให้ลูกค้า อาจจะชงเหล้าให้บ้าง แต่ก็ไม่ได้นั่งจนหายไปนานแบบนี้
“โต๊ะไหน” เพราะกลัวว่าลูกน้องจะถูกบังคับ เจ้านายอย่างเขาจึงรีบไปดูทันที
“โต๊ะเจ็ดค่ะ ที่ชอบรีเควสให้ณิชาไปเสิร์ฟบ่อย ๆ”
“ขอบใจมาก”
กลับมาที่ณิชกานต์
“คุณจะปล่อยฉันได้หรือยังคะ ฉันยังมีงานต้องไปทำต่อนะคะ”
“งานของเธอคืออยู่กับฉันเป็นคนของฉัน มองแค่ฉัน” เขาว่าก่อนจะเชยคางเธอให้หันมามอง ก่อนที่เขาจะกดริมฝีปากหนาทาบทับลงบนริมฝีปากบางของเธอ อย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง อย่างไม่ให้เธอได้ตั้งตัว แน่นอนว่าเธอพยายามผลักไสเขา แต่ก็นั่นแหละมันไม่เคยเป็นผลเลย
“อื้ออออ”
ผละ ก่อนที่สองร่างจะผละออกจากกัน ด้วยแรงผลักของภูมิ
ผลั๊วะ พร้อมกับหมัดหนัก ๆ ของภูมิเช่นกันที่ต่อยเข้าที่หน้าของมาร์วินเต็มแรง ในขณะที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว และมีหรือที่คนอย่างมาร์วินจะยอมง่าย ๆ พอตั้งตัวได้แล้วเขาก็ลุกไปสวนภูมิทันที
“ทำเชี่ยอะไรของมึงวะ” เสียงเข้มเอ่ยว่า ก่อนจะเข้าไปซ้ำภูมิอีกหมัด แต่ก็มีร่างบางของณิชกานต์มากางแขนปกป้องมันไว้ หากเขายั้งหมัดไม่ทัน มันก็คงจะกระทบใบหน้าของเธอแล้ว
“ทำบ้าอะไรของเธอ” ว่าแล้วก็ดึงหญิงสาวให้มาอยู่ข้างหลังตัวเอง
“อ้ะ ฉ ฉันเจ็บ”
“ช่วยปล่อยพนักงานของผมด้วยครับ”
“แล้วทำไมฉันต้องปล่อยด้วย ไม่เอาเรื่องที่อยู่ ๆ นายก็มาต่อยลูกค้าแบบนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“คุณลวนลามพนักงานของผมก่อน”
“เหอะลวนลามงั้นหรอ”
“บอกเขาไปสิว่าฉันลวนลามเธอรึเปล่า” ว่าแล้วก็ดึงตัวให้เธอมายืนอยู่ข้างกาย
“บอกมันไป” เสียงเข้มกดต่ำลง เมื่อคนตัวเล็กข้าง ๆ ไม่ยอมพูดอะไรเลย
“ปะ เปล่าค่ะ ลูกค้าไม่ได้ลวนลามอะไรณิ ณิเต็มใจเอง ขอบคุณนะคะพี่ภูมิที่เป็นห่วง” มือบางกำเข้าที่ชายกระโปรงแน่น ก่อนจะกลั้นใจพูดออกไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา จากการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขาร่วมสัปดาห์ทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ถ้าเขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ เขาก็จะไม่มีทางหยุด
“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม” มาร์วินพูดกับภูมิ แล้วหันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้องตัวเอง ว่าให้จัดการเรื่องต่อ ก่อนที่เขาจะโอบเอวบางพาเธอเดินอ่อนจากร้านไป แน่นอนว่าเขาจงใจพาเธอเดินผ่านโต๊ะของสารัฐ
“คุณจะพาฉันไปไหนคะ” เดินมาได้สักพักเธอก็ถามเขา ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าคงไม่พ้นเพ้นท์เฮาส์สุดหรูของเขา แต่เธอก็อยากได้ยินน้ำเสียงของเขา ว่าในตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ไหน เธอจะได้ทำตัวถูก
“...” แต่เขาก็ไม่ยอมตอบอะไรเธอเลย เขาเพียงเปิดประตูรถเหวี่ยงเธอให้เข้าไปนั่ง ก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ
เมื่อสัมผัสได้แล้วว่าเขาน่าจะอารมณ์ไม่ดี เธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรอีก
มันเป็นแบบนั้นจนกระทั่งถึงห้องของเขา มาถึงห้องเขาก็เริ่มบรรเลงบทเพลงรักกับเธอแทบจะทันทีที่เปิดประตูเข้าห้อง ไม่ให้เธอได้คัดค้านหรือร้องท้วงใด ๆ
“อาห์ คุณเบา ๆ ฉันเจ็บ”
“จะได้จำ ว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉัน อย่าคิดจะไปให้ท่าใคร” ปากหนาดูดเม้มหนัก ๆ จนเกิดเป็นรอยช้ำสีกุหลาบ
“ฉันไม่ได้ อ้ะ”
“หมดเวลาแก้ตัวแล้วสาวน้อย”
“ยัยนันแกมานั่งทำอะไรตรงนี้ ไม่ไปรับลูกค้าหรือไง”
“รับลูกค้า?” ณนันหันไปมองหน้าคนพูดทันที รับลูกอะไรกัน
เธอเลิกทำอะไรแบบนี้ไปแล้ว ตั้งแต่คนรักของเธออย่างเอกให้น้องสาวเธอขายตัวแลกกับที่เขาเอาเงินไปใช้หนี้พนันในตอนนั้น ก่อนที่เขาจะทุบตีทำร้ายเธอแล้วหายตัวไป
เธอก็เริ่มตระหนักได้ในทันที ว่าความรักแบบนี้มันไม่ใช่ ก่อนจะย้ายตัวเองออกมาจากที่อยู่เดิม ใช้เงินก้อนสุดท้ายหาห้องพักใหม่ที่ใกล้กับมหาลัยของน้องสาว เพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน เพราะตอนนั้นพันธะของน้องสาวเธอและมาร์วินก็จบลงแล้ว เช่นเดียวกับความรักของเธอกับเอก ที่เธอคิดว่ามันควรจะจบลงด้วยเช่นกัน
“ฉันไม่รับงานแล้ว แกพูดบ้าอะไรของแก”
“พูดเป็นเล่น ไอเอกมันพึ่งเอาชื่อแกไปขายมา จะมาไม่รับได้ยังไง” เรื่องที่ณนันเป็นแฟนกับเอกนั้น คนในที่คลับต่างก็รู้กัน และหากเอกเอาณนันไปขาย ก็เหมือนณนันรับงานกลาย ๆ
“ฉันกับเอกเลิกกันแล้ว”
“อ่าวงั้นก็เสียหายสิ ลูกค้าจ่ายเงินแล้ว ไอเอกก็ชิ่งเอาเงินไปแล้ว”
“แกไปคุยกับเจ๊เอาแล้วกัน ฉันขอไม่ยุ่ง” ว่าแล้วก็เดินหนีออกมาทันที
หลังจากอีกฝ่ายเดินหนีไปแล้วณนันก็ได้แต่บีบมือเข้าหากันแน่น ให้ความสมเพชของชีวิตตัวเอง ชีวิตเธอไม่เคยราบรื่นหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างใครเขาเลย มันมักจะมีอุปสรรคขวากหนามเข้ามาเสมอ
จนบางทีเธอเองก็ท้อ และแอบน้อยใจกับโชคชะตา ว่าเมื่อไหร่ชีวิตเธอจะผ่านไปอย่างราบรื่นไปได้สวย มีชีวิตรักที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น มีการงานที่มั่นคงอย่างคนอื่นเขาบ้าง
หลังจากนั่งน้อยใจกับโชคชะตาและชีวิตของตัวเองได้สมัคร ณนันก็เดินไปยังห้องรับแขกประจำของตัวเอง ทว่าครั้งนี้เธอไม่ได้เติมแต่งใบหน้าเหมือนครั้งก่อน ๆ ออกจากบ้านมาทำงานด้วยเครื่องสำอางที่เบาบางเหมือนไม่ได้แต่งอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น ทั้งชุดก็ยังอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟอีกด้วย เธอไม่สนใจว่าลูกค้าจะพอใจหรือไม่ เพราะเธอไม่ได้เต็มใจจะรับงานนี้ตั้งแต่แรก มันเป็นเพราะไอสารเลวนั่นที่เอาเธอไปขาย
เดินเข้ามาในห้องเห็นขวดเครื่องดื่มวางอยู่เธอก็เข้าไปจัดแจงรินใส่แก้วเตรียมไว้ให้แขกที่คาดว่าตอนนี้น่าจะอาบน้ำอยู่ หากฟังจากเสียงน้ำที่ดังมาจากห้องน้ำ และเมื่อไม่เห็นแขกจะออกมาจากห้องน้ำสักที เธอจึงตัดสินใจยกแก้วขึ้นดื่มเพราะปัญหาชีวิตที่ถาโถมและความน้อยใจในโชคชะตา ทำให้กระดกแก้วแล้วแก้วเล่าอย่างลืมตัว
ก่อนจะเริ่มได้สติเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหู
“รอผมนานรึเปล่า”
“ค คุณ...”
“คุณ” นอกจากณนันที่ดูตกใจกับการเจอครั้งนี้แล้วเอริกเองก็ดูตกใจเช่นกัน แต่การตกใจของเขานั้นเหมือนเป็นแค่การแสดง หากณนันไม่ดื่มไปเยอะ เธอคงจะดูออก
“ทะ ทำไมถึงเป็นคุณไปได้” ทำไมคนดี ๆ อย่างเขา ต้องมาเห็นด้านนี้ของเธอด้วย
"ถ้าคุณไม่โอเค เราหยุดแค่นี้ก็ได้นะ" เอริกว่าก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันกับณนัน ซึ่งเขาทิ้งระยะห่างระหว่างเธอพอสมควร ก่อนที่เขาจะพูดต่อ
"ผมไม่ว่าอะไร คุณแค่นั่งดื่มกับผมก็พอ"
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณซื้อฉันแล้ว ฉันจะเอาเปรียบคุณได้ยังไงคะ" ไหน ๆ โชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอขนาดนี้แล้ว อีกอย่างเขาก็เคยช่วยเหลือเธอและดีกับเธอมาก ๆ คนหนึ่ง เธอจะถือว่าทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นการตอบแทนเขาไปในตัวก็แล้วกัน และหวังว่าต่อจากนี้เธอจะไม่เจอกับเขาอีก
