14 อริ
“คุณคะ คุณ” เสียงหวานร้องเรียกเจ้าของห้องเสียงดัง เมื่อเธออาบน้ำเสร็จแล้วกลับทำเสื้อผ้าตัวเองเปียกซะอย่างนั้น เลยจะขอความช่วยเหลือจากเขา
“คุณ!” ทว่าเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาสักที หรือว่าห้องมันเก็บเสียงกัน คิดได้แบบนั้นก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากห้องน้ำโดยสวมชุดคลุมอาบน้ำของเขาไว้
“ระเบียง ระเบียง ระเบียงไปทางไหนนะ” เขาบอกว่าจะไประเบียง แต่เมื่อกี้เธอก็ไม่ได้ทันมองว่าเขาเดินไปทางไหน เพราะในห้องนอนก็มีระเบียง ต้องยอมรับว่าห้องของเขานั้นกว้างมากจริง ๆ ถ้าเขาไม่บอกเธอว่าอยู่คนเดียว เธอก็คิดว่าเขาอยู่กับครอบครัว
“อยู่นี่เอง” หลังจากเดินมาไม่นาน ก็เห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่บริเวณระเบียงอีกฝั่ง เพราะความมืดบวกกับความสีชาของกระจก
เสียงเลื่อนประตูที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่สูบบุหรี่อยู่หันไปมอง ก่อนจะพบหญิงสาวในชุดคลุมอาบน้ำกำลังมองมาที่เขา คิ้วเข้มค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน ว่าทำไมเธออยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ทำไมเธอถึงมาหาตัวเอง
“อ เอ่อพอดีว่า...พอดีว่าเสื้อผ้าฉันเปียก คุณพอจะมีชุดให้ฉันยืมไหมคะ” เธอถามเขา ก่อนจะย่นจมูกน้อย ๆ เมื่อกลิ่นบุหรี่มันตีขึ้นหน้า ถึงมันจะไม่ได้เหม็นอะไรมากก็ตาม
“ลองดูครับ อันนี้ยังไม่มีคนใส่” เขาบอกก่อนจะยื่นชุดเดรสรัดรูปสีดำให้เธอ
“มันอาจจะดูโป๊ ๆ หน่อย ยังไงคุณใส่เสื้อเชิ้ตผมทับทำก็ได้” เขาว่าพร้อมกับยื่นเสื้อเชิ้ตสีดำให้เธออีกตัว
“ขอบคุณนะคะ” แม้จะแปลกใจว่าทำไมเขาถึงมีสุดผู้หญิงอยู่ แต่คนที่หน้าตาดีและมีอันจะกินอย่างเขา หากมีคนรักแล้วก็น่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ณนันเดินออกมาก็เห็นเขานั่งดูทีวีอยู่ เธอจึงเดินไปยังเพื่อทำไข่เจียวให้เขาตามคำขอ ก่อนที่เขาจะพาเธอไปส่งที่หอพักตามสัญญา ในความรู้สึกของเธอเหมือนเขาจะรู้ที่อยู่หอพักของเธอเป็นอย่างดี เพราะในตอนที่เธอบอกทางเขาอย่างซับซน เขาก็ดูเข้าใจทุกครั้งที่เธอพูด เลี้ยวถูกทุกโค้ง มันทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตงิดในใจ แต่ก็นะเขาอาจจะฉลาดเรื่องการเดินทางก็ได้ หรือไม่ก็เขาเคยอาจจะมาเส้นทางที่เธอบอก
“ถ้าจะให้ดีผมว่าคุณไปหาหมอตรวจให้แน่ใจจะดีกว่า” เสียงทุ้มเอ่ยบอกหญิงสาวเมื่อตอนนี้เขาขับมาส่งเธอถึงหน้าที่พักเธอแล้ว
“ถ้าไม่สะดวก ให้ผมพาไปก็ได้”
“ฉันไม่รบกวนดีกว่า ถ้ายังไงก็ขอบคุณนะคะ” ณนันพูดขอบคุณพร้อมส่งยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป โดยที่เธอลืมแม้แต่จะถามชื่อเขาไว้ ทั้งที่เขาช่วยเธอตั้งมาก
กลับมาที่ณิชกานต์ หลังจากซื้อชุดกับพี่สาวเสร็จ ชุดส่วนหนึ่งนั้นถูกส่งไปที่หอพักที่เธออยู่กับพี่สาว อีกส่วนพี่นันให้เธอเอามาใส่ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่อยู่กับมาร์วินที่นี่ เดินเข้ามาในห้องก็เห็นเขานั่งดื่มเหล้าอยู่ พอเธอเดินเข้าไปหาจะบอกเขาว่าเธอกลับมาแล้ว เขาก็ดึงเธอเข้าไปจูบทันที เหมือนเป็นการลงโทษที่เธอแอบหนีไปอย่างไงอย่างนั้น
จูบของเขามันเร่าร้อนรุนแรงจนเธอแทบขาดใจ เพียงไม่ถึงห้านาทีเสื้อผ้าก็หลุดออกจากตัวเธอจนหมด เขาถอดเสื้อผ้าเธอเก่งกว่าเธอถอดเองอีก จูบเธอไปเขาก็ถอดไป รวมถึงเสื้อผ้าของเขาด้วย
มาถึงเตียงกว้างเธอก็ไม่เหลืออะไรห่อหุ้มตัวแล้ว ส่วนเขานั้นเหลือกางเกงสแล็คขายาวของเขาอยู่ ก่อนเหตุการณ์เร่าร้อนบนเตียงจะเริ่มต้นขึ้น แน่นอนว่าเขาเป็นผู้ควบคุมเกมรักในครั้งนี้
ในทุก ๆ วันมันก็จะเป็นแบบนี้ ที่เธอกลับมาจากทำงานเขาก็จะพาเธอขึ้นเตียงในทันที ไม่รอให้เธอได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อใด ๆ แต่หากวันไหนที่เธอกลับมาแล้วยังไม่เห็น แต่พออาบน้ำไปได้สักพักหนึ่งเขาก็เปิดประตูเข้ามา แล้วอาบน้ำไปพร้อมกับเธอ คงไม่ต้องบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำ
เรียกได้ว่าเขาใช้เธอคุ้มค่าตัวเลยทีเดียว เพราะตอนเช้าก่อนออกไปทำงานเขาก็พาเธอพลิกผ้าห่มด้วย
“ระหว่างที่เธอขายตัวให้ฉัน ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปเอากับคนอื่น” อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้น ในระหว่างที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ อีกเพียงสองวันเท่านั้นที่เธอจะเป็นอิสระจากเขา
“ค่ะ” เธอขานรับ ก่อนจะแต่งตัวเพื่อไปทำงานอย่างเขาบ้าง
เธอไม่รู้หรอกนะว่าเขาทำงานอะไร มีอาชีพอะไรทำไมถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้ เพราะเขาไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวให้เธอฟังเลย ทุกครั้งที่ได้เจอหน้าเขามันมักจะกลายเป็นเรื่องบนเตียงภายในไม่กี่นาที แต่หากสังเกตจากร่างกายของเขาที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ และรอยแผลแล้ว ก็คงเป็นงานที่เสียงอันตรายอยู่พอสมควร
และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออก
“วันนี้ฉันอาจไม่กลับ”
“ค่ะ” แม้จะแปลกใจที่อยู่ ๆ เขาก็บอกว่าจะไม่กลับ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาจะไปมายังไง
“อย่าดีใจไป ฉันจะกลับมาเอาเธอให้คุ้มกับเงินที่จ่ายไปแน่นอน หึ” เขาพูดทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะออกจากห้องไป
หลังจากเขาจากไปแล้วณิชกานต์เธอก็มาทำงานที่ร้านอาหารใกล้มหาลัยตามปกติ
“ณิชาวันนี้ต้องรีบกลับหรือมีธุระที่ไหนรึเปล่า” ระหว่างนั่งพักภูมิผู้จัดการร้านก็เดินเข้ามาหา
“อืม วันนี้ณิไม่ต้องรีบกลับค่ะ” ณิชกานต์คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับไป เขาบอกว่าเขาอาจไม่กลับ เพราะงั้นถ้าเขาไม่อยู่เธอก็ไม่ต้องรีบกลับไปเจอเขา
“งั้นวันนี้อยู่ช่วยเสิร์ฟร้านตอนกลางคืนได้รึเปล่า พอดีมีคนลากะทันหันน่ะ พี่หาคนไม่ทัน”
“ก็ได้ค่ะ” แม้จะรู้สึกกังวลหน่อยที่ตัวเองไม่ได้กลับห้อง แต่เขาบอกว่าคืนเขาไม่กลับเพราะงั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“เจอกันอีกแล้วนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักหญิงสาวที่กำลังเสิร์ฟเครื่องดื่มให้โต๊ะตัวเองอยู่
“คะ?” ณิชกานต์เพียงพยักหน้ารับและส่งยิ้มให้ตามมารยาทเท่านั้น เพราะเธอเพียงรู้สึกคุ้นหน้าของเขา แต่ก็จำไม่ได้ว่าไปเคยเจอเขาที่ไหน
“ผมคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้วซะอีก”
“ค่ะ” เมื่อลูกค้าว่ามาอย่างนั้น เธอก็ได้แต่ตามนั้น เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจออะไรแบบนี้ ตอนอยู่ร้านที่พี่นันทำงานอยู่ เธอเจอประจำ ว่าเคยเจอกันอย่างงู้นอย่างงี้
“คุณอาจจะจำไม่ได้ ที่คุณเคยเสิร์ฟอาหารให้ผมหลายวันก่อนไงครับ คุณเป็นคนบอกผมเองว่าถ้าอย่างดื่มให้รอช่วงเย็น”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เลือกใช้บริการร้านเรา ถ้าคุณลูกค้าต้องการสั่งเครื่องดื่มอะไรก็เรียกพนักงานได้เลยนะคะ” เธอพูดพร้อมกับโค้งตัวให้ลูกค้าน้อย ๆ แล้วถอยตัวออกมา สิ่งที่พี่นันคอยบอกเธอเสมอคืออย่าทำตัวสนิทสนมกับลูกค้ามากเกินไป เพราะอาจจะเกิดปัญหาทีหลังได้ และเธอก็เว้นระยะห่างและทำตามที่พี่สาวบอกเสมอ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน
แต่เหมือนว่าลูกค้าคนถัดไป ที่เธอต้องเสิร์ฟนั้นเธอจะไม่สามารถทำตามคำสอนของพี่สาวได้
“ขออนุญาตเสิร์ฟ...ค คุณ...” เสียงหวานสะดุดขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นว่าลูกค้าที่ตัวเองต้องเสิร์ฟนั้นเป็นใคร
“ไง” เสียงเรียบเอ่ยทักทาย พร้อมกับสายตาที่กวาดมองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างสำรวจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาก็แอบมองเธอมาพักหนึ่งแล้ว
“คะ คือฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่น่ะค่ะ คุณบอกว่าวันนี้คุณจะไม่กลับ แล้วที่ร้านขาดคนฉันก็เลยอยู่ช่วย”
“แล้ว?”เขาเงยหน้ามองเธอ พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
“ถ้าคุณไม่ว่าอะไรฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ว่าจบก็เสิร์ฟเครื่องดื่มให้เขา ก่อนจะเดินออกมา ทำเอามาร์วินพูดไม่ออกในทันที
กับท่าทีของเธอ ตอนแรกก็ดูเหมือนจะตกใจกลัวที่เห็นเขา แต่พอเห็นว่าเขาไม่ว่าอะไร ก็ทำงานต่อหน้าตาเฉย เขาละเชื่อเธอเลยจริง ๆ แทนที่เห็นเขาจะอยู่คอยเอาใจเขา เหมือนคนอื่น เธอกลับหาเรื่องแต่จะหนีจากเขา
แล้วมีหรอที่คนอย่างเขาจะยอม
“ขออนุญาตเสิร์ฟค่ะ” วิธีที่เคยใช้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง นั่นก็คือสั่งเครื่องดื่มและเจาะจงให้เธอเสิร์ฟ ทว่าวิธีนี้กลับไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่ใช้มัน
“เสิร์ฟเสร็จแล้วก็นั่งอยู่กับฉัน” เสียงทุ้มเอ่ยบอก หลังจากเห็นคนของตัวเอง เทียวเสิร์ฟไปมาระหว่างโต๊ะของเขากับโต๊ะของคู่อริสารัฐ
ใช่แล้วล่ะ ที่เขามานั่งอยู่ร้านนี่ได้เพราะตอนแรกมีนัดคุยงานแถวนี้ ก่อนจะถูกยกเลิกไป ลูกน้องเขาแจ้งมาว่าคู่อริอย่างสารัฐชอบมานั่งกินดื่มที่นี่
ด้วยความระแวงว่าอีกฝ่ายอาจจะนัดติดต่อกับใครโดยใช้ร้านอาหารธรรมดามาบังหน้าอย่างที่ชอบทำ ที่แท้มันก็มาตอแยกับคนของเขานี่เอง
แล้วมีหรือที่คนอย่างเขาจะมาอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เขาไม่เคยกลัวอะไรมันอยู่แล้ว มันคือร้านอาหาร มันนั่งได้เขาก็นั่งได้ และเขาเองก็รู้ว่ามันเห็นถึงการปรากฏตัวของเขาแล้ว อีกอย่างที่เขาไม่ชอบเลยคือการที่มันมายุ่งกับคนของเขา แม่คุณเองก็ใช่ย่อย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้มัน เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด
“แต่ว่าฉันต้องทำงานนะคะ” เธอพูดบอกเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังเลย
“ฉันบอกให้นั่ง”
“แต่...”
“นั่งลง” เสียงเข้มกดต่ำลงเรื่อย ๆ แต่เมื่อยังเห็นท่าทีลังเลของเธอ มือหนาคว้าเอาข้อมือบางก่อนจะออกแรงกระตุกให้เธอเซถลามานั่งลงบนตัก
“อ้ะ”
“ถ้าคิดจะลุกหนีฉันกับเธอกดตรงนี้แน่”
