บท
ตั้งค่า

12 ถ้าไหวก็ไป

“คุณ” นิ้วเล็ก ๆ สะกิดคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เธอหลังจากตื่นนอนมาได้สักพัก ทุกอย่างรอบตัวมันดูแปลกตาไปหมด ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้แค่ว่าเวลาตอนนี้มันเกือบเที่ยงคืนแล้ว และเธอก็หิวมาก ๆ ด้วย วันทั้งวันเธอไม่ได้กินอะไรเลย นะ นอกจากน้ำรักของเขา ที่เขาบังคับให้เธอกลืนมันลงไป คิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นใบหน้าหวานก็ซับสีทันที

“คุณ” เมื่อเรียกเขาแล้วเป็นครั้งที่สาม ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกตัวเลย เธอเลยตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบาก ก่อนจะพาตัวเองไปยังห้องที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ โดยมีผ้าห่มสีเทาเข้มเข้ากับสีห้องคลุมตัวอยู่

ถึงจะหิวแต่ความเหนอะหน่ะตัวกลับมีมากกว่า เธอจึงตัดสินใจที่จะอาบน้ำชำระร่างกายก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

แน่นอนว่าหลังจากอาบน้ำแล้ว เธอก็ขโมยเอาผ้าขนหนูในห้องน้ำมาคลุมตัวเอาไว้ ก่อนจะให้ผ้านวมห่อตัวอีกฉันแล้วเดินออกมา และเพราะผ้านวมที่มันผืนใหญ่ เธอต้องคอยก้มดูบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้สะดุดผ้านวมล้มไปกองกับพื้น ทั้งแต่ละก้าวเดิน ก็ย่างได้อย่างยากลำบากด้วยอาการเจ็บแสบบริเวณนั้น และการที่เธอโฟกัสกับเท้ามากเกินไป ทำให้ไม่ได้มองทางจนชนเข้ากับบางอย่างในที่สุด

ก่อนจะเซถลาหงายหลัง เพราะอ่อนเรี่ยวแรง

“อ้ะ”

“เวลาเดินก็หัดมองทางหน่อย” เสียงเข้ม ๆ ว่าขึ้น โดยที่มือเขาโอบเอวบางไว้อยู่ไม่ให้เธอล้มหัวฟาดพื้นไป

“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดขอบคุณเขา เมื่อเขาเป็นคนช่วยเธอไว้

แม้จะรู้สึกย้อนแย้งอยู่ในใจหน่อย ๆ ก็ตาม ว่าทำไมเขาเห็นเธอเดินไม่มองทางแล้วเขาถึงไม่หลบให้เธอ แต่เพราะไม่ชอบมีปากมีเสียงเธอจึงยอม

“อาบน้ำมาหรอ” เขาถามโดยที่ยังไม่ยอมคลายมือออกจากเอวเธอ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ อีก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่มาจากตัวเธอ

ทำให้เขาลืมตัว ครีมอาบน้ำที่เขาใช้มันอยู่ทุกวัน ไม่เห็นมันจะรู้สึกหอมแบบนี้บ้างเลย

“ค ค่ะ ” เธอพยักหน้าตอบเขาไม่เต็มเสียงมากนัก เพราะใบหน้าเขาที่อยู่ใกล้กับคอของเธอ ทำให้เธอรู้สึกประหม่า

“ฉันเองก็รู้สึกเหนียวตัว อยากอาบน้ำเหมือนกัน” น้ำเสียงแหบพร่าของเขา ว่าขึ้นอยู่ข้าง ๆ หูของเธอ จนเธอต้องร่นคอหนี

“งั้นเดี๋ยวฉันไปหาอะไรกินนะคะ” เธอว่าก่อนจะพยายามขยับตัวออกจากอ้อมแขนของเขา

“แต่ฉันอยากให้เธออาบน้ำให้” ว่าจบเขาก็ช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มเลย อย่างไม่รอบคำตอบ

“วร้าย!! ปะปล่อยฉันลงนะ”

“ได้” เขาตอบรับ แต่ก็ไม่ได้วางเธอลงในทันที เขาพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะว่างเธอลงในอ่างอาบน้ำ เขาบอกว่าจะปล่อย แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าปล่อยที่ไหนหนิ หึ

แน่นอนว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้คงไม่พ้นเรื่องใต้สะดือที่มาร์วินพาณิชกานต์ทำ หญิงสาวที่ไร้ประสบปัญหาอย่างเธอ ถูกเขาชักจูงโดยง่าย ถึงจะอ่อนแรงมาก ๆ ก็ตาม

ดีที่เขารู้จักพออยู่บ้าง เขาพาเธอบรรเลงเพลงรักเพียงสองบทเพลงเท่านั้น ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นจากน้ำ แล้วพูดประโยคต่อมา ที่ทำให้เธอต้องปล่อยโฮ อย่างไม่อาจห้าม

“ไปต่อบนเตียง”

“ฮึก ฮือออ”

“จะร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้จะพาเธอไปฆ่าสักหน่อย” เขาขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก

“ฉันหิว ฮือ ตั้งแต่เมื่อคืนฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ” อยู่ ๆ เธอก็ร้องไห้พรั่งพรูออกมา จนคนที่ช้อนตัวเธออุ้มอยู่อย่างมาร์วินทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว เมื่ออยู่ ๆ ยัยเด็กนี่ก็ร้องไห้

ร้องไห้เพราะเขาทำเธอเจ็บไม่ว่า แต่มาร้องไห้เพราะหิวนี่นะ เขาอยากจะบ้าตาย

“ขอฉันเอาเธออีกรอบแล้วฉันจะสั่งอะไรให้กิน” เขาว่าอย่างหน้าตายก่อนจะวางเธอลงบนเตียง ทั้งที่เมื่อกี้เขาก็พึ่งพาเธอทำกิจกรรมเข้าจังหวะในห้องน้ำ

“ไม่เอา ฉันหิว ฮือ ๆ “ เธอส่ายหน้าไปมาอย่างต้องการปฏิเสธสุดฤทธิ์ นอกจากจะหิวแล้วเธอยังปวดเมื่อยไปทั้งตัว เธอไม่คิดเลยว่าการที่คนเราจะมีอะไรกันมันยาวนานขนาดนี่ จากที่คิดว่าเพียงคืนเดียว เธอก็จะหลุดพ้นจากทุกอย่าง

มันกลับถูกเลื่อนมาเป็นหนึ่งอาทิตย์ ไหนจะที่เขาจะขยันพาเธอทำกิจกรรมรักนี่อีก เขาไม่เหนื่อย ไม่หมดแรงบ้างเลยหรือ แต่ถึงเขาจะไม่ แต่บอกเลยว่าเธอเหนื่อยมากจริง ๆ เหนื่อยกว่าทำงานพาร์ทไทม์หาเงินมาเรียนทั้งสัปดาห์อีก

“บอกว่าหิวไม่เข้า ฮึก ใจหรือไง ไอคนใจร้าย”

“ก็บอกว่าแค่น้ำเดียว แล้วจะให้กิน” เขาเถียงเธอกลับ

“ฮือ แต่ฉันหิว หิวมาก ๆ คุณได้ยินไหม ฮือ ๆ” นอกจากจะหิวแล้วฉันก็แทบจะไม่มีแรงทำอะไรอยู่แล้ว

“เออ กินก็กิน” สุดท้ายเขาก็ยอมให้เธอในที่สุด เมื่อเหนื่อยจะพูดกับเธอแล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่ฟังอะไรแล้วด้วย นอกจากจะกินอย่างเดียว

“ค่อย ๆ กินก็ได้ฉันไม่แย่งเธอหรอก” หลังจากอาหารมาส่งจนเต็มโต๊ะ เขาก็ไม่ได้ยินเสียงเธอพูดอีกเลย เอาแต่กินอย่างเดียว ไม่แม้แต่จะหันมองเขาด้วยซ้ำ ส่วนเขาก็เผลอมองเธอกินอย่างไม่ตั้งใจ

“อืม” เธอพึมพำเบา ๆ พร้อมกับยิ้มออกมา พอใจกับรสชาติอาหารตรงหน้า แม้จะไม่ได้กินข้าวเกือบหนึ่งวันเต็ม แต่ได้กินมื้อแรกที่อร่อยแบบนี้ ก็ถือว่าไม่เลวร้าย

“คุณไม่หิวหรอคะ” เมื่อกินไปได้สักแล้ว พอเริ่มหายเห็น เธอก็ค่อย ๆ รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเขา หลังจากที่เห็นแต่อาหารมานาน

“เธอกินเถอะ” เขาว่า ก่อนจะนั่งเลื่อนโทรศัพท์ต่อ ทว่าประโยคถัดมากลับทำคนที่กำลังจะตักซุปเข้าปากอีกคำต้องสำลัก

“เสร็จแล้วฉันจะได้กินเธอต่อ”

“แค่ก ๆ”

“หึ”

“คุณมาร์วินคะ ฉันจะต้องอยู่ที่นี่กับคุณทั้งวันทั้งคืน ตลอดหนึ่งอาทิตย์เลยหรอคะ” หลังจากเริ่มอิ่มแล้ว เธอก็ถามเขา

“ทำไม?” เขาตอบโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอมือถือมามองเธอแม้แต่น้อย

“ฉันมีงานตอนกลางวันน่ะค่ะ จะเป็นไรไหมคะ ถ้าฉันจะขอไปทำงาน” ลางานเธอก็ยังไม่ลา ไม่รู้ว่ากลับไปจะถูกไล่ออกรึเปล่า อย่างที่รู้ทุกอย่างมันผิดแผนไปหมด ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากหางานใหม่ เธอชอบงานที่นั่น มันใกล้มหาลัยของเธอ และมันก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้วด้วย ถ้าหางานใหม่ตอนนี้ก็คงไม่ทันแน่

และเธอก็ตั้งใจว่าจะเสิร์ฟต่อในตอนกลางคืนอย่างที่พี่สาวบอก เพราะจบจากนี้เธอไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว

“ขอแค่ไปลางานก็ได้ค่ะ ฉันไม่อยากเสียงานนี้ไป”

“งาน งานอะไร” น้ำเสียงเหมือนไม่ใส่ใจ แต่เขากับแอบชำเลืองมองหน้าเธอเวลาเธอพูด

“งานเสิร์ฟที่ร้านอาหารค่ะ ฉันพึ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วัน ร้านอยู่ใกล้มอฉัน มันยากมากกว่าที่ฉันจะหางานที่ใกล้มหาลัยได้”

“ฉันก็เลยไม่อยากเสียงานนี้ไป”

“เธอยังเรียนอยู่สินะ” จากหน้าตาเธอคงอายุน้อยกว่าเขามาก

แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะยังเรียนอยู่ คิดว่าเธอออกมาทำงานแล้ว ไม่ได้เรียนหนังสือ เหมือนอย่างพนักงานส่วนใหญ่ในคลับของเขา มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย

“ค่ะ”

“ปีไหนแล้วล่ะ คงจะไม่ใช่ปีหนึ่งหรอกใช่ไหม” เขาไม่ชอบเด็กอายุสิบแปดด้วยสิ มันดูเด็กไป หวังว่ายัยนี่คงไม่ใช่หรอกนะ แม้ว่าเธอจะดูหน้าเด็กก็ตาม

“ปีหนึ่งค่ะ ฉันอยู่ปีหนึ่ง”

“Sh*t เธอสิบแปดแล้วใช่ไหม” พอได้ยินแบบนั้นมาร์วินก็รีบถามอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจทันที ว่าตัวเองไม่ได้พรากผู้เยาว์

“ฉันยี่สิบแล้วค่ะ”

“แล้วไป”

“ทำไมหรอคะ” เห็นเขาทำโล่งใจ เธอก็เอ่ยถาม

“ไม่มีอะไรหรอก รีบกินเถอะ เดี๋ยวฉันไปรอในห้อง”

“แล้วเรื่องงานฉันล่ะคะ” เธอถามพร้อมกับเดินตามเขาไป

“ถ้าพรุ่งนี้เธอลุกไหว”

“หมายความว่ายังไงคะ”

“หมายความว่า...” เขาหยุดเดินก่อนจะหันมาหาคนเธอที่เดินตามมา

“ถ้าพรุ่งนี้เธอมีแรงไปทำงาน หลังจากถูกฉันเอาทั้งคืน ฉันก็ไม่ห้าม”

“คุณ!” ได้ยินแบบนั้น ก็หน้าแดงทันที ก่อนจะก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับความคิดที่เกิดขึ้นในใจ ที่เขาทำกับเธอไปเกือบทั้งวันทั้งคืน มันยังไม่พอใจเขาหรือไง ทำไมเขาถึงได้ ห หื่นแบบนี้นะ

หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสน...เอ่อ แสนยาวนานมา ณิชกานต์

ค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แม้ว่าเธอจะแทบไร้เรี่ยวแรง

แต่เพราะต้นทุนชีวิตที่ไม่ได้มีเหมือนใครเขา ทำให้เธอต้องกัดฟันสู้ ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเธอไม่มีทั้งเสื้อผ้า ไม่มีทั้งชั้นใน นั่นเท่ากับว่าเธอไม่สามารถออกไปไหนได้ หากไม่ขอความช่วยเหลือจากเขา

ซึ่งเธอไม่อยากปลุกเขาหรือขอความช่วยเหลือจากเขาเลย ไม่รู้ว่าถ้าเขาตื่นมาเขาจะมาหาเศษหาเลยจากเธอไหม

เธอมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างคิดไม่ตก ว่าจะหาทางออกเรื่องนี้ยังไงดี ก่อนจะเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนหัวเตียง คนตัวเล็กย่องเบาไปหยิบมันทันที ก่อนจะพูดขอใช้โทรศัพท์จากเขาเบา ๆ พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ไปใกล้หน้าของเขาเพื่อให้มันปลดล็อก และหลังจากปลดล็อกได้แล้ว เธอก็รีบต่อสายหาพี่สาวทันที ก่อนจะเดินดูรอบ ๆ ห้องเพื่อหาว่าตอนนี้เธออยู่ไหน และเมื่อรู้พิกัดแล้วก็รีบพูดบอกพี่สาวทันที ก่อนจะเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่เดิม แล้วขโมยเอาเสื้อยืดและกางเกงของเขามาใส่

เสื้อยืดที่แทบจะเป็นเดรส ไม่ต้องพูดถึงกางเกง มันยาวกว่าเธอมาก ๆ ไหนจะเอวที่ใหญ่กว่านี่อีก แต่เธอก็มิกซ์แอนด์แมตซ์จนพอดูได้

“ยัยณิ” ทันทีที่เห็นน้องสาว ณนันก็รีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับดึงน้องเข้ามากอด

“พี่นัน” ณิชกานต์เองก็กอดตอบพี่สาวแน่น พอได้อยู่ในอ้อมกอดที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยของพี่สาว ก็ทำให้กำแพงที่มีเริ่มทลายลง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบ ๆ

ได้รับอ้อมกอดแสนอบอุ่นและคำปลอบใจจากพี่สาวอยู่ครู่ใหญ่ ๆ ณิชกานต์ก็ต้องรีบไปปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปร้านอาหารที่เธออยากทำงานต่อ เพราะมัวแต่ห่วงเรื่องงานของตัวเอง ทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่าพี่สาวแต่งตัวด้วยชุดที่มิดชิดผิดปกติ ไม่ทันสังเกตว่าพี่สาวนั้นตาบวมช้ำ ราวกับผ่านการร้องไห้มากอย่างหนัก

“เดี๋ยวณิมา พี่นันรอณิก่อนนะ”

“อื้ม ถ้าไม่ได้ก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่ช่วยหางานให้ใหม่เอง เพราะนี่ก็เป็นความผิดของพี่เหมือนกัน”

“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงไม่ได้งานนี้ณิก็ไม่เสีย ส่วนเรื่องนั้นพี่นันเองก็อย่าเสียใจไปเลยนะคะ ณิเต็มใจช่วยพี่นัน” และมันก็ไม่ใช่ความผิดของพี่นันด้วย แม้อยากจะพูดมัน แต่ก็ต้องเก็บมันไว้ในใจก่อน เพราะดูเหมือนตอนนี้พี่นันของเธอจะรักพี่เอกมาก อีกอย่างหลังจากเหตุการณ์วันนั้นพี่เอกอาจจะเลิกเล่นพนันแล้วกลับมาทำงานแล้วก็ได้ เธอเองก็ไม่ทราบในข้อนี้ เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอใครอีกเลยนอกจากเขา

“ขอบคุณนะ พี่ว่าตอนนี้รีบเข้าไปก่อนเถอะ ถ้าสายกว่านี้ลูกค้าเยอะแล้วจะไม่มีเวลาคุย”

“ค่ะ”

“อ้าวณิชา” เดินเข้ามาในร้านได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงเรียกตัวเองทันที

“สวัสดีค่ะพี่ภูมิ” เธอหันไปตามเสียงก่อนจะยกมือขึ้นไหว้พร้อมรอยยิ้ม

“หายไปไหนมาตั้งหลายวัน ติดต่อก็ไม่ได้ รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง”

“พอดีณิไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ โทรศัพท์ก็ไม่รู้ว่าลืมไว้ที่ไหน” เธอว่าก่อนจะพูดขอโทษคนตรงหน้าในใจ ที่ต้องโกหก แต่เธอก็ไม่สามารถพูดความจริงได้จริง ๆ

“สงสัยจะไม่สบายหนักเลยสิ ถึงได้มึนหัวจนไม่รู้ว่าไปลืมโทรศัพท์ไว้ไหน”

“ค่ะ”

“แล้วนี่ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”

“ดีขึ้นแล้วค่ะ ณิขาดไปหลายวันคงยังไม่ถูกไล่ออกใช่ไหมคะ”

“อืมม ถูกไล่ออกไปแล้วยังน้า”

“พี่ภูมิ...” ได้ยินเขาทำเสียงแบบนั้นก็มองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน

“ที่เราหายไปก็เพราะป่วย พี่จะใจร้ายไล่เราออกได้ยังไง อีกอย่างตอนนี้ก็คนขาดด้วย”

“ขอบคุณนะคะ”

“แต่ว่าทีหลังมีอะไรต้องบอกพี่นะ อย่าหายไปแบบนี้อีก”

“ค่ะ”

“พี่ภูมิคะ” ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรกันต่อ เสียงบุคคลที่สามก็ดังขึ้น

“ลูกค้าโวยวายใหญ่แล้วค่ะ”

“ขอโทษนะ พี่เองก็ลืม พี่จะไปเดี๋ยวนี้”

“งั้นพี่ฝากเราไปเสิร์ฟโต๊ะนี้ให้พี่ที พี่ขอไปดูลูกค้าโต๊ะนู่นก่อนดูเหมือนจะมีปัญหา"

"ค่ะพี่ภูมิ" ถาดอาหารถูกยกขึ้นมาถือ ก่อนจะนำไปเสิร์ฟยังตกที่ผู้จัดการร้านบอก

“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel