ตอนที่ 4.
หากไม่เพราะริวอิจิลูกชายของทาเคชิหลงรักอิงอรน้องสาวของหย่งเผิง อดีตหัวหน้าแก๊งมังกรคงไม่มีอะไรมาเป็นเครื่องต่อรองกับทาเคชิได้ ริวอิจิมีมารดาเป็นคนไทยหลังจากมารดาตายเขาก็กลับไปอยู่กับตายายที่เมืองไทย หันหลังให้บิดาที่เป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่า โดยไม่ยอมกลับมาให้เห็นหน้าอีก เพราะโกรธบิดาที่เป็นสาเหตุให้มารดาถูกคู่อริฆ่าตาย ริวอิจิเกลียดความเป็นยากูซ่าของบิดา เขาไม่ยอมเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ทาเคชิทั้งบังคับทั้งอ้อนวอนลูกชายก็ไม่สนใจ ครั้นจะยกตำแหน่งให้ผู้อื่นก็ทำไม่ได้เพราะสืบทอดกันตามสายเลือดรุ่นต่อรุ่น ผู้เป็นทายาทโดยตรงต้องรับตำแหน่งนี้โดยไม่มีข้อแม้
“ลี่อิงน้องสาวผมเป็นเด็กน่ารัก”
หย่งเผิงเอ่ยชมน้องสาว เขามองหน้าเพื่อนผู้มีพระคุณด้วยแววตาหยั่งเชิง
“ลูกชายคุณคงยอมทำตามใจคุณ หากรู้ว่าคุณสามารถทำให้ลี่อิงยอมแต่งงานกับเขาได้”
หย่งเผิงรู้ดีว่า คำแนะนำของเขาไม่เกินจริงเลย ริวอิจิรักน้องสาวของเขามากไม่อย่างนั้นจะยอมตามมาดูแลอิงอรถึงญี่ปุ่นได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เคยลั่นวาจาว่าจะไม่กลับมาหาบิดาอีก อิงอรเป็นเครื่องต่อรองชั้นดีทำให้เขาได้รับความช่วยเหลือจากทาเคชิ หากเขายกน้องสาวให้เป็นสะใภ้ของอีกฝ่าย อาจจะทำให้ตัวเขาได้รับตำแหน่งในแก๊งของทาเคชิซึ่งเป็นแก๊งใหญ่หนึ่งในสามแก๊งยากูซ่าที่มีอิทธิพลสูงสุดของญี่ปุ่น อิทธิพลของทาเคชิจะทำให้เขามีศักดิ์ศรีไม่น้อยหน้าซื่อเหวินหลัวหัวหน้าแก๊งมังกรคนปัจจุบัน และมีกำลังมากพอจะต่อกรกับหลี่ไท่หยางได้ ความแค้นเมื่อห้าปีก่อนจะได้รับการชำระเสียที หลังจากที่เขาได้ทวงคืนความแค้นกับจางหลงด้วยการจัดการกับดวงใจของมันมาแล้ว
“ถ้าคุณทำให้น้องสาวของคุณตกลงแต่งงานกับลูกชายผมได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
ทาเคชิหันมาสบตากับหย่งเผิง เขายิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องของอีกฝ่าย รู้ดีว่าหย่งเผิงต้องการยืมมือเขาช่วยแก้แค้น และหวนคืนสู่อำนาจเก่า ทาเคชิก็แสร้งเล่นไปตามเกม หากริวอิจิยอมกลับมารับตำแหน่งอย่างเต็มใจ บางทีเขาอาจไม่จำเป็นต้องกางปีกปกป้องหย่งเผิงอีก หัวหน้าแก๊งยากูซ่าซ่อนแววตาเหยียดหยันไว้ภายใต้ใบหน้าเป็นมิตร สำหรับเขากับหย่งเผิงมีแค่ผลประโยชน์มากกว่ามิตรภาพอันแท้จริง เมื่อหย่งเผิงยังมีประโยชน์สำหรับเขาอยู่ก็จำเป็นต้องเลี้ยงไว้
“หลังงานรับปริญญา ลี่อิงจะเป็นเจ้าสาวของริวอิจิครับ” หย่งเผิงให้คำมั่น
เขารู้ว่าน้องสาวไม่มีทางขัดใจพี่ชายอย่างเขาได้ นึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ฆ่าอิงอรทิ้งหลังจากส่งคนไปจัดการกับมารดาของน้องสาวให้ตายไปโดยไม่มีใครสงสัยว่าไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ แต่เป็นการสั่งฆ่า
“ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ผมจะให้คุณดูแลการค้าของเราที่ฮ่องกง มีศักดิ์และตำแหน่งเท่ากับหัวหน้าสาขาคนหนึ่ง”
ทาเคชิให้ในสิ่งที่หย่งเผิงต้องการแลกกับความปรารถนาของลูกชาย หลังจากนั้นเขาจะให้ริวอิจิตัดสินใจเอง ว่าจะช่วยหย่งเผิงต่อ หรือจะปล่อยมือจากอีกฝ่าย โดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก เท่าที่ทำมาเขาก็เสี่ยงต่อการผิดใจกับแก๊งยากูซ่าอีกสองแก๊ง ที่เป็นพันธมิตรของหลี่ไท่หยางอยู่ไม่น้อย หย่งเผิงไม่ต่างจากเห็บเหาไม่สร้างประโยชน์อะไรนอกจากความรำคาญใจ...
อาปิงขับรถพาอิงอรกับริวอิจิเดินทางมาถึงบ้านของเขากับภรรยา ที่ปลูกไว้ในบริเวณเดียวกันกับคฤหาสน์ของตระกูลเฉิน ซึ่งจางหลงได้ย้ายมาพำนักที่นี่หลังจากเฉินอวี้เหมยผู้เป็นภรรยาเสียชีวิตเมื่อสามปีก่อน ยกภาระการดูแลจาง หมิงลูกชายคนเดียวให้หลินหลินพี่สาว โดยแวะไปเยี่ยมลูกชายอาทิตย์ละครั้ง
“บ้านน้าเขยน่าอยู่จังเลยนะคะ มีต้นไม้เยอะจัง”
อิงอรชะโงกมองผ่านกระจกรถอย่างตื่นเต้น อพาร์ทที่ญี่ปุ่นไม่มีต้นไม้ร่มรื่นเหมือนที่นี่ ในเมืองมีแต่ตึกสูงสร้างด้วยอิฐปูนเสียส่วนใหญ่ แม้จะเจริญด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ดูแห้งแล้งเสียเหลือเกิน พอได้เห็นต้นไม้บ้างหญิงสาวจึงรู้สึกชอบใจ
“คุณจางชอบต้นไม้ครับ เลยสั่งให้หามาปลูกไว้รอบๆ บ้าน” อาปิงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
เขายิ้มเมื่อปรายตามองผ่านกระจกส่องหลัง เห็นอิงอรมีปฏิกิริยากับชื่อของจางหลง พอรู้มาจากภรรยามาบ้างว่า เมื่อห้าปีก่อนจางหลงกับอิงอรเคยพบกัน ได้ร่วมช่วยกันจัดเตรียมงานแต่งงานให้ม่านไหมกับหลี่ไท่หยางผู้เป็นนายของเขามาก่อน หลานสาวของอารีย์คงจะรู้สึกพิเศษกับจางหลงไม่น้อย ถึงได้แสดงอาการแปลกๆ ยามได้ยินชื่อของอีกฝ่าย
“คุณจาง เอ่อ... คุณจางอยู่ที่นี่ด้วยหรือคะ” อิงอรเอ่ยถามเสียงพร่า ใจเต้นแรงตั้งแต่ได้ยินชื่อของเขา
“ครับ ที่นี่คือบ้านตระกูลเฉิน บ้านของคุณอวี้เหมยภรรยาคุณจางครับ”
คำตอบของน้าเขยทำเอาคนฟังใจเหี่ยวแฟบลง นึกสมเพชตัวเองที่แอบหลงรักคนมีเจ้าของ ผ่านมาตั้งห้าปีแล้วหัวใจเจ้ากรรมไม่เคยลบภาพเขาออกจากใจได้เลย อิงอรหันไปมองหน้าริวอิจิเห็นสายตาของเขาทอดมองเธออย่างห่วงใย ก็เอื้อมมือมาจับมือหนาของอีกฝ่ายไว้ ริวอิจิบีบกระชับมือตอบเขายิ้มให้เธอ
“ถ้าน้ำอิงชอบบ้านแบบนี้ ริวจะสร้างให้นะ จะปลูกต้นไม้เยอะๆ ดอกไม้สวยๆ เต็มสวน ดีมั้ย” ริวอิจิมองหน้าเพื่อนสาว ด้วยแววตาจริงจัง
“บ้านน้ำอิงที่เชียงใหม่ก็ต้นไม้เยอะ น้ำอิงกลับไปอยู่ที่นั่นก็ได้ ริวจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง” อิงอรหัวเราะเบาๆ ยิ้มให้เพื่อนชายอย่างสดใส
รู้ดีว่าเขาพูดจริง แต่เธอไม่ต้องการให้เขาตั้งความหวังกับเธอมากไป มันไม่ยุติธรรมหากเธอจะรับไมตรีของริวอิจิ ทั้งๆ ที่หัวใจยังมีใครคนนั้นซ่อนอยู่ เธอไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงสองใจ หากจะรักใครก็ขอรักทั้งหมดหัวใจ ไม่ใช่แค่ความเห็นใจโดยไม่รักแบบนี้
“คุณอารีย์มารอรับอยู่หน้าบ้านแล้ว ท้องโตใกล้คลอดยังชอบดื้อทำนู่นทำนี่อีก”
อาปิงบอกอิงอรพร้อมกับบ่นภรรยาที่ยืนโชว์พุงกลมๆ อยู่หน้าประตูบ้าน ด้วยน้ำเสียงห่วงใยมากกว่าจะโมโห พลอยทำให้คนได้ยินหัวเราะคิกคักไปด้วย
“คุณอารีย์ ทำไมไม่รออยู่ข้างในแดดมันร้อนนะ เดี๋ยวเป็นลมไปใครจะอุ้มคุณไหว”
อาปิงจอดรถได้ ก็ตรงรี่ไปประคองภรรยาให้เดินเข้าบ้านทันที ปล่อยให้แขกผู้มาเยือนเดินตามมาเอง
“ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า คุณนี่ยิ่งแก่ยิ่งขี้บ่นนะอาปิง” อารีย์ เถียงกลับไม่ยอมให้สามีบ่นฝ่ายเดียว
“คุณก็ยิ่งแก่ ก็ยิ่งดื้อ ถ้าลูกเกิดออกมาสงสัยดื้อเหมือนแม่แน่ๆ”
“รู้ว่าฉันแก่ ฉันดื้อ มาแต่งงานกับฉันทำไมล่ะ” ร่างอุ้ยอ้ายสะบัดตัวอย่างแสนงอนเมื่อได้ยินสามีพูดไม่เข้าหู เดือดร้อนคนปากเปราะต้องตามมาง้องอน
“ที่รักจ๋า คุณยังสาวยังสวย น่ารักกว่าผู้หญิงคนไหนในโลกเลยนะจ้ะ อย่าเครียดสิจ้ะเดี๋ยวลูกเกิดมาจะไม่สวยนะครับ”
อาปิงเข้ามาโอบกอดร่างอวบอิ่ม พร้อมหอมแก้มภรรยาอีกหลายฟอด รู้ว่าหากเธอโกรธวิธีเดียวที่จะง้อคือต้องแสดงความรักมากๆ เธอจะหายงอนเร็ว และกลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม
“น่าอิจฉาน้าอ้อยจังเลยนะคะ น้าเขยเขาง้อน้าอ้อยแบบนี้นี่เอง น้ำอิงถึงได้มีน้องเร็ว” อิงอรแซวผู้เป็นน้า เมื่อเห็นอารีย์กับอาปิงแสดงความรักกันจนน่าอิจฉา
“คุณยายเคยบอกริวว่า ผัวเมียยิ่งทะเลาะกันบ่อยลูกยิ่งดก” ริวอิจิร่วมด้วยช่วยกันแซว เขาสนิทกับอารีย์เหมือนน้าแท้ๆ จึงกล้าแซวอีกฝ่ายแรงๆ
“มาถึงก็ปากดีกันทั้งคู่เลยนะ” อารีย์ขยับออกห่างจากสามีอย่างนึกอาย แสร้งดุเด็กๆ แก้เก้อ “ไม่เจอริวสามปี หล่อขึ้นเยอะเลยนะ สาวๆ ที่ญี่ปุ่นไม่แย่งกันเป็นแฟนเหรอเนี่ย”
อารีย์หยิกแก้มของหนุ่มหน้าใสอย่างมันเขี้ยว ไม่สนใจสามีที่มองมาตาขวาง อาปิงเป็นคนขี้หึงเขาจะแสดงอาการทันที ที่เห็นภรรยาไปอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น แรกๆ ก็ทะเลาะกันบ้านแทบแตก พอหลังๆ ชักเคยชินจึงได้แต่ทำใจ ถึงจะขี้หึงแต่อาปิงไม่เคยกล้าทำอะไรรุนแรง ได้แต่ทำหน้ายักษ์ กัดฟันกรอดๆ ไปตามประสา ถูกอ้อนเข้าหน่อยก็หายโกรธ อารีย์เลยแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ไปเสีย ปล่อยให้สามีเต้นไปฝ่ายเดียว
