บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 คนสำคัญ

8 ปีต่อมา

“อาฌานขา~” เสียงเล็กใสของเด็กสาวในชุดมัธยมต้นที่ถักเปียเดี่ยวไขว้มาไว้ที่ไหล่ด้านหน้าพร้อมกับผูกโบสีแดง ในมือของเธอถือกระเป๋านักเรียนวิ่งเข้าไปหาเป้าหมายที่ยืนพิงประตูรถเฟอร์รารีสีดำรออยู่

“วิ่งทำไมคะข้าวหอม เดี๋ยวก็หกล้มหรอก” คนตัวโตส่งเสียงดุพลางรับเอากระเป๋านักเรียนของเธอมาถือ อีกมือก็ลูบไปยังศีรษะเล็กเบา ๆ

“คิดถึงอาฌานไงคะ คิดถึงที่สุดเลย” ข้าวหอมกอดเอวสอบของฌานไว้แน่น แล้วซบหน้าลงกับอกแกร่งเพื่อสูดกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา ซึ่งเมื่อตอนอายุได้ประมาณสิบขวบข้าวหอมได้เลือกกลิ่นนี้กับมือ จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังใช้กลิ่นที่เธอเลือกให้

“ขี้อ้อนจังเลยนะคะ แล้วนี่ปัจฉิมวันไหน อาฌานจะได้มาหาข้าวหอมได้” ถ้าเธอไม่แจ้งเอาไว้ล่วงหน้า วันนั้นเขาอาจจะไม่สามารถมาร่วมยินดีได้ แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่ฌานก็อยากมีส่วนร่วมในความสำเร็จของเธอ

“วันศุกร์อาทิตย์หน้าค่ะอาฌาน”

“ได้เลยค่ะ เตรียมแบกของขวัญที่อาฌานซื้อมาให้กลับบ้านได้เลย”

“ข้าวหอมพร้อมสู้ค่ะ” ข้าวหอมยิ้มและยิ่งกอดร่างหนาแน่นขึ้นอีก เมื่อเห็นสายตาของรุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อนมองมา

เธอหวงเขา ไม่อยากให้ใครมอง และไม่อยากให้เขามองใครนอกจากเธอเพียงคนเดียว

“เย็นนี้ไปทานข้าวข้างนอกกับอาฌานนะคะ อาฌานบอกแด๊ดดี้ข้าวหอมไว้แล้ว”

“จริงเหรอคะ” ข้าวหอมตาโตเมื่อได้ยินว่าจะได้ไปทานข้าวข้างนอก แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือได้ไปทานกับเขาแค่สองคน

“ค่ะ แล้วจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหมคะ เพราะตอนกลางคืนอาฌานคิดว่าอาจจะพาเราไปเดินเที่ยวเล่นที่ไหนสักที่ต่อด้วย”

“ถ้าอาฌานไม่ว่าข้าวหอมก็อยากไปแต่งชุดสวย ๆ ค่ะ”

เวลาเดินด้านข้างพวกผู้หญิงที่ชอบมองเขาจะได้เข้าใจว่าเขามีเจ้าของแล้ว

“อาฌานจะไปว่าอะไรข้าวหอมได้ล่ะคะ” ฌานพูดพร้อมกับหันไปเปิดประตูรถให้เด็กสาวได้เข้าไปนั่ง ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับแล้วมุ่งตรงไปยังบ้านของกฤตตินเพื่อให้ข้าวหอมได้เปลี่ยนชุด

“ข้าวหอมถามอะไรอาฌานอย่างหนึ่งได้ไหมคะ” ข้าวหอมก็หันไปถามในระหว่างที่ฌานกำลังขับรถตามเส้นทาง

“ได้สิคะ ข้าวหอมถามอาฌานมาได้เลยค่ะ” ฌานหันมามองและพยักหน้าอนุญาตด้วยความเอ็นดูเด็กสาว

“อาฌานมีแฟนหรือยังคะ” เมื่อได้รับอนุญาตข้าวหอมก็เอ่ยถามเรื่องที่สงสัยทันที

“หืม สงสัยเหรอคะ” ฌานเลิกคิ้วเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้จากปากกระจับสีชมพูอ่อนนั้น

“ค่ะ” ข้าวหอมรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

“ไม่มีหรอกค่ะ อาฌานยังไม่เจอคนที่ถูกใจ”

“แล้วคนที่ถูกใจของอาฌานเป็นยังไงเหรอคะ บอกข้าวหอมได้ไหม” ข้าวหอมเอื้อมมือเข้าไปกอดแขนล่ำสันของเขา

“แล้วข้าวหอมจะอยากรู้ไปทำไมคะ บอกเหตุผลที่น่าพอใจมาให้อาฌานฟังสักข้อ แล้วอาฌานจะบอก”

“เพราะข้าวหอมหวงอาฌานไงคะ ไม่อยากให้อาฌานมีคนรัก ข้าวหอมไม่อยากเป็นคนอื่นหรือเป็นคนที่ไม่สำคัญของอาฌาน” ข้าวหอมตอบอย่างไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกเพราะกลัวว่าจะเสียเขาไป ต่อให้เขาจะมองว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ตาม

“อาฌานดีใจนะคะที่อาฌานได้เป็นคนสำคัญในชีวิตของข้าวหอม” เขาตอบยิ้ม ๆ

สิบกว่าปีที่เฝ้าดูแลเธอมาเขามีความสุขมากจนไม่อยากห่างเธอเช่นกัน

“ในชีวิตข้าวหอมคนที่สำคัญและข้าวหอมพร้อมจะทำทุกอย่างให้ก็มีแด๊ดดี้กับอาฌานเท่านั้นค่ะ” เธอพูออย่างมุ่งมั่น ไม่ว่าขออะไรเธอก็พร้อมจะตอบแทนบุญคุณทุกอย่าง

“ไม่เอาสิคะ มาทำทุกอย่างให้อะไรกัน แด๊ดดี้ข้าวหอมกับอาฌานรักข้าวหอมมากนะคะ คนที่ต้องทำทุกอย่างให้คืออาฌานกับแด๊ดดี้ต่างหาก ไม่ใช่ข้าวหอม”

“ข้าวหอมดีใจมากเลยค่ะ ที่ในชีวิตนี้ข้าวหอมได้รู้จักและได้เป็นคนที่สำคัญในระดับหนึ่งของแด๊ดดี้กับอาฌาน” ข้าวหอมยิ้มอย่างมีความสุข

“ไม่ใช่แค่สำคัญในระดับหนึ่งนะคะ แต่ข้าวหอมเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของอาฌานกับแด๊ดดี้มาก”

“ข้าวหอมรู้ค่ะ แต่บางครั้งก็อยากให้แด๊ดดี้มีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง ไม่ต้องมาห่วงข้าวหอม ถ้าแด๊ดดี้ไม่มีข้าวหอมป่านนี้ก็คงจะมีครอบครัวไปแล้ว” เขาควรมีเวลาไปเที่ยวหรือไปเดต ไม่ต้องมาทนเลี้ยงดูหลานสาวอย่างเธอ

“อย่าพูดแบบนั้นสิคะ อาฌานไม่ชอบเลย ถ้าแด๊ดดี้ได้ยินแด๊ดดี้คงโกรธข้าวหอมมาก ๆ”

“ค่ะ ข้าวหอมไม่พูดแล้วเพราะคิดว่าที่ผ่านมาและปัจจุบันแด๊ดดี้ดีกับข้าวหอมมาก แล้วอาฌานจะบอกได้หรือยังคะว่าคนที่อาฌานถูกใจเป็นแบบไหน” ข้าวหอมเอียงหน้าถาม

“ก็น่าจะเป็นคนที่น่ารัก พูดเพราะ ดูแลดี เอาใจเก่ง แล้วก็ขี้อ้อนมาก ๆ อะไรแบบนี้มั้ง” ฌานหันไปตอบเด็กสาว

“งั้น...ข้าวหอมก็มีโอกาสเป็นคนที่อาฌานถูกใจสิคะ” ข้าวหอมพูดเบา ๆ แต่ก็ไม่รอดพ้นหูของคนข้างตัวไปได้

“หืม อะไรนะ”

“ไม่มีอะไรค่ะ ข้าวหอมอยากขออะไรอาฌานสักอย่างจังเลยค่ะ” เธอพูดพลางเอาศีรษะไปถูไปมาที่แขนของเขาอย่างออดอ้อน ก่อนจะเงยหน้าพร้อมกับดวงตาที่กะพริบปริบ ๆ ขึ้นมอง

“อะไรคะ” ฌานหันไปมองเพียงแวบเดียวแล้วกลับไปโฟกัสถนนเบื้องหน้าต่อ

“ไหน ๆ อาฌานก็จะพาข้าวหอมไปทานข้าวแล้วพาออกไปเที่ยวต่อ งั้นคืนนี้ข้าวหอมไปนอนค้างกับอาฌานได้ไหมคะ” ข้าวหอมวางคางไว้ที่ต้นแขนกำยำ

“ห้องนอนอาฌานมีแค่ห้องเดียวค่ะ”

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ ข้าวหอมนอนห้องเดียวกับอาฌานก็ได้”

“ไม่ได้ค่ะ ข้าวหอมโตแล้วนะคะ” ฌานส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน เรื่องอื่นเขายังพอตามใจเธอได้ทุกอย่าง แต่เรื่องนี้เขามองว่ายังไงก็ไม่เหมาะสม

“ข้าวหอมยังเด็กอยู่ ยังไม่โตสักหน่อย” เธอตื๊อต่อ

“ไม่ดื้อกับอาฌานสิคะ ตอนนี้ข้าวหอมโตเป็นสาวแล้วนะ อีกไม่นานก็มีแฟนแล้ว” ฌานหักพวงมาลัยเข้าไปยังบ้านของกฤตติน และพยายามพูดให้เด็กสาวเข้าใจ

“ไม่มี ข้าวหอมไม่มีแฟนค่ะ” ข้าวหอมรีบปฏิเสธเสียงแข็ง

“ตอนนี้ไม่มี เดี๋ยวต่อไปก็มีแล้วลืมอาฌานอยู่ดี” ฌานหันไปบอกหลังจากดับเครื่องยนต์เมื่อมาถึงที่หมายแล้ว

“ไม่ลืม แล้วก็ไม่มีวันลืมด้วยค่ะ เพราะอาฌานสำคัญรองลงมาจากแด๊ดดี้ และข้าวหอมก็รักอาฌานมาก ๆ ด้วย”

“ค่ะ เรื่องนี้ค่อยคุยกันใหม่นะคะ ตอนนี้ข้าวหอมไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดสวย ๆ ก่อน เดี๋ยวอาฌานไปคุยกับแด๊ดดี้ข้าวหอมรอ” พูดจบฌานก็โน้มตัวลงไปหอมยังพวงแก้มสีชมพูอ่อน ๆ ของเธอ

“ค่ะ” ข้าวหอมยิ้มกริ่มแล้วหอมแก้มสากกลับ

เธอเปิดประตูรถลงไปอย่างเชื่อฟัง เพราะกลัวว่าหากทำตัวดื้อ แม้แต่ไปทานข้าวด้วยกันก็อาจจะไม่ได้ไปแล้ว เธอเชื่อว่าวันนี้ไม่ได้ไปนอน แต่วันอื่นก็ต้องได้ไป

ฌานมองตามแผ่นหลังเล็กของเด็กสาวที่วิ่งเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเดินตามเข้าไปแล้วเลี้ยวเข้าไปยังห้องทำงานชั้นล่างของกฤตติน

“จะพาข้าวหอมไปไหน” ทันทีที่ฌานเปิดประตูเข้าไป เสียงของคนที่อยู่ในห้องก็ถามขึ้น

“กินข้าว เที่ยว แล้วก็ว่าจะเอาไปนอนด้วย”

คำตอบแสนนิ่งของฌาน ทำเอากฤตตินที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ต้องเงยขึ้นมอง

“ขออนุญาตแด๊ดดี้ข้าวหอมยังถึงจะพาลูกสาวเขาไปไหนต่อไหน” กฤตตินวางกระดาษในมือแล้วกอดอกทันที

“ไม่จำเป็น” ฌานยักไหล่

“ไอ้เวรนี่!” กฤตตินมองหน้าเพื่อนรักที่เดินเข้ามานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม และเหล่สายตามองเอกสารบนโต๊ะ

“เห็นข้าวหอมโทษตัวเองว่าแด๊ดดี้ไม่ยอมมีครอบครัวเพราะต้องดูแลหลาน แต่เอาจริงบ้างานมากกว่าถึงหาเมียไม่ได้” ฌานยิ้มเยาะ

“บอกตัวมึงด้วย มึงก็ยังไม่มีเมีย ได้ข่าวว่าจะไปขยายโครงการที่อิตาลีอีกแล้วเหรอ”

“ทุกอย่างต้องมีการเติบโต อนาคตยังต้องใช้จ่ายอีกเยอะ”

“เรื่องของมึง แต่เอาเรื่องข้าวหอมลูกสาวกูก่อนดีกว่า” กฤตตินไม่อยากนอกเรื่องไปไกล

เขาจ้องคนตรงหน้าตาขวางที่เพื่อนรักจะริอ่านเอาข้าวหอมตะลอนไหนต่อไหนโดยไม่ขอเขาก่อน

“อะไรอีกล่ะ”

“จะเอาไปไหนมั่ง”

“กินข้าวที่รีสอร์ตมึง แล้วก็ว่าจะพาไปเดินเล่นชมบรรยากาศรอบ ๆ จากนั้นจะนอนกอดกันไหมก็อีกเรื่อง” ฌานพูดแล้วยกยิ้มกวน ๆ ให้

“เดี๋ยวกูถีบตกเก้าอี้ สองอันแรกกูอนุญาต แต่มานอนกอดเหี้ยไรกัน กูไม่ยอม รอเอาสินสอดมาจ่ายก่อนกูถึงจะอนุญาต” กฤตตินพูดเสียงเข้ม

“งั้นก็ไปบอกลูกสาวมึงก่อนสิ เพราะอันหลังลูกมึงขอเอง แต่ในเมื่อเด็กขอกูก็ไม่อยากจะขัดใจเท่าไหร่” รอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ของฌานยกยิ้มกว้างขึ้น

“อย่าเอาลูกสาวกูมาเป็นของเล่นหรือของแก้เหงาระบายอารมณ์เงี่ยนนะไอ้ฌาน มึงเป็นเพื่อนกูและกูก็คงไว้ใจมึงได้ ถูกไหม”

“แน่นอน เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูจะทักมาบอกละกัน และกูไม่ได้ขออนุญาต แค่บอกให้รับรู้เฉย ๆ” ฌานพูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

เขานั่งรอในห้องนั่งเล่นไม่นานเด็กสาวก็ลงมาในชุดเดรสลูกไม้สีขาวปาดไหล่ที่ดูน่ารักและเรียบร้อยอ่อนหวาน เธอส่งรอยยิ้มหวานมาตั้งแต่ชั้นบน ทำเอาฌานถึงกับต้องลุกขึ้นไปรับ

“ข้าวหอมสวยไหมคะ พอจะเป็นคู่ควงของอาฌานวันนี้ได้ไหม”

“ได้สิคะ” ฌานยื่นมือไปให้เธอจับ ก่อนจะพาไปขึ้นรถ

เขาหันไปมองเด็กสาวข้างกาย เมื่อมองดี ๆ จึงเห็นว่าเธอแอบแต่งหน้าจนดูเป็นสาวมากขึ้น ฌานจึงส่ายหน้าน้อย ๆ

อายุสิบห้ายังสวยขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าตอนโตจะสวยขนาดไหน บางครั้งเขาเองก็แอบมีคำถามในใจว่าในอนาคตเธอจะยังติดเขาเหมือนตอนนี้ไหม พอเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัวเธออาจจะมีกลุ่มเพื่อนแล้วกลายเป็นข้าวหอมคนใหม่ที่เขาไม่รู้จัก และไม่ต้องการเขาอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel