ตอนที่ 2 หักห้ามใจ
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
อันนานั่งหน้าเศร้าจขอบตาบวมช้ำก้มมองข้อเท้าที่ถูกผ้าพันล้อมข้อเท้าไว้ไม่เคลื่อน ทิวากรยืนรับยาคอยหันไปมองแล้วเครียดต้องหาคำพูดปลอบใจไม่ให้หลานคิดมากเพราะเธอต้องพักการลงแรงที่ข้อเท้านานถึงสามอาทิตย์ในขณะที่การแข่งขันจะมีในอาทิตย์หน้าและไม่ใช่อันนาคนเดียวที่บาดเจ็บเพื่อนอีกห้าคนก็ต้องพักรักษาร่างกายด้วยเหมือนกันร่างหนาเดินถือถุงยามาหาอันนาแล้วย่อตัวลงตรงหน้าหลานสาว
“กลับบ้านกันนะคะ” เขาส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้หลานสาวที่ทำหน้าหงอยไม่ยิ้มให้เขาเหมือนที่เคย หน้าหล่อสลดลุกขึ้นยืนช้า ๆ เข็นรถเข็นพาอันนาไปขึ้นรถคอมมูเตอร์ที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาล ระหว่างทางกลับบ้านอันนานั่งเงียบมองออกไปนอกกระจกรถ ทิวากรหนักใจรู้ว่าเธอเศร้าแต่ไม่รู้จะพูดปลอบใจยังไง มือหนาเคลื่อนไปกุมมือนุ่มที่วางอยู่บนตักชำเลืองมองใบหน้าสวยหวานสายตาล่องลอยด้วยความทุกข์ ทั้งสองเดินทางกลับบ้านกันอย่างเงียบ ๆ ที่แสนจะอึดอัด
บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น
ทิวากรอุ้มหลานสาวไว้ในอ้อมกอดพาเดินเข้าไปในบ้านและส่งที่ห้องนอนสีขาวเฟอนิเจอร์สีขาวสลับสีชมพู
“อากรพาไปส่งที่ห้องน้ำหน่อยค่ะ เหนียวตัวอยากอาบน้ำ” อันนาเสียงอ่อนสีหน้ายังหม่นเศร้า เขาเลยอุ้มร่างบางไปส่งในห้องน้ำก่อนจะออกมาหยิบชุดนอนเสื้อเชิ้ตแขนยาวขายาวลายการ์ตูนเข้าชุดเอามาวางไว้บนหินอ่อนข้างอ่างล้างมือ
“ระวังข้อเท้าด้วยนะ ทำอะไรช้า ๆ” สายตาเขาเหลือบมองที่ข้อเท้าอยากให้ระมัดระวังเพราะอันนาค่อนข้างซนกระโดกกระเดกไม่ค่อยระวังเดินชนโน่นชนนี่อยู่บ่อย ๆ อันนาพยักหน้าเนือย ๆ หยิบเสื้อผ้ากะเผลกเข้าไปในพื้นที่อาบน้ำ เขาเลยเดินออกมานั่งรอบนโซฟาที่วางไว้ปลายเตียง
เสียงน้ำตกกระทบพื้นดังลอดออกมาจากภายในห้องน้ำ ชายไร้เมียจินตนาการไปถึงสายน้ำที่ไหลรินบนเรือนร่างขาวเนียนละเอียดแล้วใจสั่นไหวต้องรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนเช็คข่าวสารอัปเดตต่าง ๆ สักพักเสียงข้อความก็ดังขึ้นนัยน์ตาคมเหล่มองไปทางห้องน้ำก่อนจะเปิดอ่านข้อความที่ขึ้นรูปเนินอกอวบอิ่มขาวเนียน
ข้อความจากปลายทาง “มาหาไหมคะ?”
ข้อความจากทิวากร “ไม่ไป ต้องดูแลอันนา”
ข้อความจากปลายทาง “หลานคุณไม่ใช่เด็กแล้ว ต้องดูตลอดเวลาเลยเหรอคะ”
ข้อความจากทิวากร “อย่าเซ้าซี้ ไม่ไปก็คือไม่ไป”
ข้อความจากปลายทาง “ขอโทษค่ะ”
ทิวากรวางโทรศัพท์มลงอย่างหงุดหงิดไม่ชอบให้ใครพูดพาดพิงเรื่องที่เขาเป็นห่วงหลานสาวมาก เขานั่งรออันนาอาบน้ำอยู่สักพักเสียงกลอนประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นอันนากำลังเขย่งปลายเท้าเดินออกมาในชุดนอนแขนขายาว ร่างหนาลุกพรวดปรี่เข้าไปหาช้อนแขนแกร่งเข้ารวบร่างบางยกขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
“ทำไมไม่เรียกอา”
“อันนาคิดว่ากลับห้องไปแล้ว” แขนเรียวคล้องลำคอหนาเงยมองหน้าหล่อคมคายที่กำลังอุ้มเธอไปส่งบนที่นอน
“อารออุ้มมาส่งที่เตียง” เขาค่อย ๆ วางเธอลงอย่างระมัดระวัง อันนาเขยิบตัวเอนนอนเขาหยิบผ้านวมห่มให้แล้วลูบผมเธอแผ่วเบา
“หลับพักผ่อนซะ อย่าคิดมาก ถ้าจะเข้าห้องน้ำหรือมีอะไรก็โทรไปหาอาได้ เดี๋ยวอามาอุ้ม”
“ค่ะ” เสียงหวานอ่อนแรงหน้าสวยเหนื่อยล้าไม่สดใสทุกข์ใจที่ไม่สามารถลงแข่งตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ ทิวากรลูบผมนุ่มลื่นอย่างอ่อนโยน เปลือกตาสวยค่อย ๆ ปิดลงหลับอย่างง่ายดาย หลังจากอันนาหลับใหลทิวากรก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอนของเธอ เสียงประตูห้องนอนปิดลงอันนาลืมตาตื่นท่ามกลางความมืดภายในห้องความเงียบสงัดเข้าครอบคลุมรู้สึกอ้างว้างและเสียใจต้องดับฝันการเป็นเชียร์ลีดเดอร์เพื่อให้ได้รางวัลเป็นการยืนยันความสำเร็จที่จะทำให้ทางครอบครัวรู้ว่าเธอจริงจังและทำได้ดี ไม่ใช่แค่เต้นแร้งเต้นกาไปวัน ๆ อย่างที่ใครดูถูก
ช่วงกลางดึก
ทิวากรค่อย ๆ เปิดประตูเดินย่องเข้ามาภายในห้องนอนของหลานสาวเพื่อดูอาการแต่ไม่อยากให้เธอตกใจตื่น เมื่อร่างหนาเดินเข้ามาใกล้เตียงนอนสีชมพูอ่อนได้ยินเสียงสูดน้ำมูกสะอึกสะอื้นอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา คิ้วเข้มขมวดปมพอจะเดาได้ว่าหลานสาวกำลังนอนร้องไห้ เขานั่งลงบนขอบเตียงนอนวางมือแตะผ้านวมที่คิดว่าจะบริเวณแผ่นหลังของหลานสาว
“ยังไม่นอนอีก” เสียงทุ้มอ่อนโยนเต็มไปด้วยความห่วงใย ร่างบางใต้ผ้านวมสะอื้นหนักเมื่อได้ยินเสียงอาที่เป็นเซฟโซนเดียวของเธอ
“ยังทำใจไม่ได้ อุตส่าห์ซ้อมมาหลายเดือนเพื่อลงแข่งรายการนี้”
“ไม่ร้องนะคนเก่ง มันเป็นเหตุสุดวิสัย หลานอาปลอดภัยไม่เป็นอะไรมากถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว”
“แต่นี่เป็นปีสุดท้ายที่จะได้แข่งทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย หรือว่าอันนาจะดรอปเรียนคงสภาพนักศึกษาเพื่อลงแข่งดีคะ” อันนาเปิดผ้านวมออกแม้ในห้องจะสลัวแต่ก็มองเห็นน้ำตาที่นองหน้าตาแดงขอบตาบวมตุ่ย ทิวากรถอนหายใจกับทางออกที่หลานเลือก
“ทำอย่างนั้นไม่ได้ ชีวิตต้องเดินต่อไปจะดรอปเรียนเพื่อการแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ไม่ได้ อันนาอยากโดนคุณพ่อดุเหรอ” เขาพยายามพูดอย่างใจเย็นเข้าใจดีว่าวัยรุ่นมักจะพุ่งเป้าไปที่สิ่งที่ต้องการเพียงด้านเดียวยังขาดการคิดวิเคราะห์ในด้านอื่นที่จะมีผลกระทบ
“การแข่งขันไม่ใช่ที่สุดของชีวิต เรายังต้องดำเนินชีวิตต่อเพื่อเป้าหมายอื่นที่สำคัญกว่าที่ยังมีอีกเยอะ”
“ฮือ ๆๆๆ” อันนาร้องไห้น้ำตาไหลพรากโผเข้ากอดกายหนาหาที่ยึดเหนี่ยวให้สบายใจ เขากอดกระชับสีหน้าเคร่งเครียดเธอไม่มีความสุขตัวเขาเองก็ไม่มีความสุขไปด้วย
ค่ำคืนมืดมิด
อันนานอนตะแคงข้างวางคอทับแขนแกร่งโอบกายหนาแล้วหลับสนิทหลังจากร้องไห้อย่างนัก ยังดีที่มีอาสุดที่รักคอยปลอบใจเธออยู่นานก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างอ่อนเพลีย ทิวากรกอดเธอไว้ในอ้อมแขนพลางลูบมือบนแผ่นหลังเล็กอย่างอ่อนโยน ผ่านไปเกือบชั่วโมงเขาเห็นอันนาหลับสนิทเลยค่อย ๆ ผละตัวจะกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง แต่คนตัวเล็กกลับกอดเขาแน่นไม่ยอมให้ห่าง เขาเขยิบตัวเข้าชิดใกล้เธออีกครั้ง นัยน์ตาคมจ้องมองดวงหน้าสวยแม้ในขณะหลับไม่ว่าจะคิ้วตาจมูกปากดูดีจนหาที่ติไม่ได้ ใบหน้าหล่อโน้มลงเข้าใกล้คล้ายมีแรงดึงดูดกดปลายจมูกลงแก้มเนียนเนื้อตัวแนบชิดรู้สึกวาบหวามเลือดลมสูบฉีด
มือหนาลูบไล้แผ่นหลังเนียนเคลื่อนไปยังก้นงอนอยากบีบขยำให้หนักมือพลางเหลือบมองอันนานอนหลับสนิทหายใจสม่ำเสมอ กายแกร่งร้อนรุ่มหายใจหอบค่อย ๆ กดจมูกลงแก้มเนียนใสจูบแทะเล็มแผ่วเบาลากไล้ลงไปที่ลำคอเรียวประทับริมฝีปากกดจูบคอเนียนแผ่วเบาสูดกลิ่นกายหอมน่าหลงใหลเกินต้านมือหนาสอดเข้าไปใต้กางเกงขายาวลายการ์ตูนลูบไล้ก้นงอนกับเรียวขาอย่างย่ามใจ
“อื้อ.......” เสียงหวานครางในลำคอ เขาชะงักค่อย ๆ ดึงมือออกจากกางเกงขายาวอันนาพลิกตัวออกจากอ้อมกอดมานอนหงายหายใจสม่ำเสมอ ทิวากรทำตัวนิ่งจ้องมองใบหน้าสวยไล่ลงเรือนร่างเพรียวระหงในชุดนอนเชิ้ตแขนยาว บรรยากาศพาไปทำให้ตัณหาเข้าครอบงำความคิดและจิตสำนึก เขาไม่พะวงถึงความเหมาะสมแต่กลับมองหลานสาวที่เลี้ยงมาด้วยสายตาแพรวพราวก่อนจะโน้มลงประกบจูบริมฝีปากบางอย่างนุ่มนวลมือหนาแกะกระดุมชุดนอนออกหนึ่งเม็ด สองเม็ดแล้วแทรกมือเข้าเคล้นคลึงความอวบอิ่มภายใน ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่มกวัดเลียกวาดความหอมอย่างหื่นกระหาย
“อื้อ! อื้อ!” คิ้วเรียวขมวดหายใจแรงส่งเสียงประท้วงในลำคอ เขารีบถอนจูบดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมตัวหลานสาวแล้วหันหลังหนีเขยิบตัวไปนั่งขอบที่นอน มือหนากำขอบที่นอนแน่นห้ามใจไม่ให้ล่วงเกิน
“อากร.....”
“ตื่นมาทำไม” เขาค่อย ๆ หันมองเชื่องช้า
“อันนาหายใจไม่ออก.........” เสียงหวานแผ่วเบาเปลือกตาจะปิด
“เมื่อกี้คงนอนหน้าฟุบหมอน” เขาเขยิบไปลูบผมเธอเบา ๆ ก่อนจะผละถอยห่างลงจากเตียงนอน
“อากลับห้องนะ มีอะไรโทรหาได้ตลอด” เขามองหญิงสาวที่นอนมองตาแทบปิด ก่อนจะหันหลังเดินไปยังประตูห้องหักห้ามใจตัดความรู้สึกหมกมุ่นจนเกินเลยทำไม่ดีกับหลานสาวตัวเอง
