07 เปิดเผย
เช้าวันต่อมา
ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวหนีแสงแดดที่ส่องลอดชายผ้าม่านเข้ามา เธอได้รับอนุญาตจากวัฒนาให้พักงานยาวๆเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตหลังแต่งงานกับสามี แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น
ตุบ ๆ ๆ ตับ ๆ ๆ ปัก ๆ
“....”เธอลืมตาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆในห้องนอนของชายหนุ่ม เสียงนั้นมันทำให้เธอตาสว่างทันที “ใคร?” เธอพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงอย่างใจเย็นแล้วเดินไปตามเสียงที่กำลังดังอยู่
มือเล็กค่อยๆแหวกผ้าม่านสีดำเล็กน้อยพอที่ดวงตาของเธอพอจะมองเห็น สิ่งตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มกำลังเตะต่อยกระสอบทรายอย่างชำนาญ รอยสักมัดกล้ามบนร่างกายของเขาทำเอาหญิงสาวหวั่นใจไม่น้อย ถึงเธอจะไม่ชอบผู้ชายแต่มาเจอแบบนี้เธอก็ได้รับรู้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตุบ ๆ ๆ ๆ ปัก ๆ ๆ
หมัดหนักๆของชายหนุ่มซัดเข้าตัวของกระสอบทรายอย่างแรง ทำให้ตัวของกระสอบทรายที่ถูกมัดติดไว้กับโซ่สะบัดไปมาอย่างแรง เดาได้ว่าถ้าใครเจอชายหนุ่มต่อยเข้าไปจังๆไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต เธอยืนมองชายหนุ่มอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบเดินกลับมาเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง
ตื๊ดด ตื๊ดด
“ฮัลโหลแซน”เธอกดรับสายอย่างอารมณ์ดี
( ฮึกกดาว ดาวอยู่ที่ไหน ) เสียงของแซนพูดผ่านโทรศัพท์มาด้วยความหวาดกลัว
“แซน!! แซนเป็นอะไรใครทำอะไรแซน”หญิงสาวตกใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงสั่นคลอนพูดผ่านสายมา
( ตอนนี้ดาวอยู่ที่ไหน )
“อยู่ที่บ้านของคุณโคลน่ะ แซนมายังแล้วนี่เป็นอะไรใครทำอะไรแซน!”
( ดาวรีบหนีออกมาเลยผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนดีเค้าหลอกเรา )
“ห๊ะ!! วะ ว่าไงนะแซน”
( เค้า.. )
หมับ!! เพล้ง!!
โทรศัพท์ของหญิงสาวถูกคว้าออกไปแล้วขว้างลงพื้นอย่างแรงจนมันแตกกระจาย
“คุณโคล!! นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณ”
“ฉันชื่ออัคคี ไม่ได้ชื่อโคล..”น้ำเสียงอันเย็นชาถูกเปล่งออกมาพร้อมกับแววตาที่คมกริบจ้องมองเธอราวกับเสือโคร่งที่เห็นกระต่ายตัวน้อยอยู่ตรงหน้า
“นี่มันอะไรกัน!?”หญิงสาวเริ่มสับสนพลางมองหน้าของชายหนุ่มอย่างตกใจและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
ร่างสูงเดินเข้าหาตัวเธออย่างช้าๆทำให้หญิงสาวต้องถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ จนหลังชนเข้ากับกำแพงห้องเธอจึงหนีไปไหนไม่ได้อีก
“มันได้เวลาแล้วสินะ”
“เวลา? เวลาอะไร!?”
“เวลาที่เธอและครอบครัวจะต้องได้รับผลกรรมที่เคยทำเอาไว้ยังไงล่ะ”ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ แต่ภายใต้น้ำเสียงเรียบนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นของชายหนุ่มที่มันอัดอั้นมาตลอดระยะเวลาเกือบ10ปี และวันนี้เค้ากำลังจะได้จัดการทุกอย่างแก้แค้นให้แม่ของเขา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“.....”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้ายพลางใช้มือลูบไปตามแก้มขาวของเธอ ร่างเล็กยืนเกร็งไปทั้งตัวเมื่อถูกมือหยาบสัมผัสบนใบหน้าของเธอ
“อ๊ะ! อึกก”ไม่ทันไรก็มีวัตถุปริศนาปักลงที่คอของเธออย่างรวดเร็วก่อนที่ร่างเล็กจะทรุดตัวหมดสติลงไป
มันคือเข็มฉีดยาที่ขนาดเล็กที่ปลายเข็มน่าจะมีสารบางอย่างอยู่ ฤทธิ์สารนั้นสามารถทำให้คนหมดสติได้ทันทีหลังจากที่ซึมซับลงสู่ผิวหนัง ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นแล้วลงไปที่ด้านล่างทันที
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับนาย”ชาร์ลลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามา
“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ”
“อยู่บนรถครับนาย”
“จัดการทุกอย่างที่นี่ให้เรียบร้อยอย่าให้ใครสงสัยเด็ดขาด แล้วก็รีบตามฉันไปที่เกาะ”
“ครับนาย”
ร่างสูงเดินไปที่รถตู้คันสีดำที่จอดรออยู่ก่อนที่รถตู้คันนั้นจะพาทั้งสองออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานรถตู้คันสีดำก็มาจอดที่ชายทะเล และด้านล่างมีเรือยอร์ชจอดรออยู่
“อุ้มผู้หญิงคนนั้นตามมา”ชายหนุ่มหันไปบอกกับคนขับรถก่อนจะอุ้มหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมอกลงไปที่เรือทันที
ไม่นานเรือยอร์ชคันใหญ่ก็แล่นออกจากชายฝั่งอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังเกาะส่วนตัวของชายหนุ่ม เรื่องนี้แทบจะไม่มีใครรู้แม้กระทั่งพ่อของเขา เกาะนี้เป็นเกาะที่มีความหมายกับเขามาก กระดูกของผู้เป็นแม่ถูกเขาเอามาฝังไว้ที่นี่เพราะชายหนุ่มอยากให้แม่ได้รับความเงียบสงบ
“สวัสดีครับนาย”
“เอาผู้หญิงสองคนนี้ไปขังแยกไว้คนละห้องอย่าให้หนีออกมาได้เด็ดขาด ถ้าพวกเธอหนีออกมาได้กูจะเป่าหัวพวกมึงทีละคน”
“ครับนาย”
ลูกน้องของชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวทั้งสองแยกกันออกไป จากนั้นชายหนุ่มก็เดินเลี่ยงไปยังบ้านพักที่ได้สร้างเอาไว้ เกาะแห่งนี้ไม่มีใครเคยผ่านมาแทบจะไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามีเกาะอยู่กลางทะเล ที่นี่มีเพียงลูกน้องของเขาไม่กี่คนที่คอยเฝ้าอยู่รอบๆเกาะ ไม่มีแม่บ้านไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆเลยซักอย่าง อาหารและของใช้ต่างๆถูกส่งมาจากลูกน้องอีกฝั่งนึง
“นายครับ ผู้หญิงอีกคนตื่นแล้วครับเธอโวยวายเต็มห้องเลย”ลูกน้องของชายหนุ่มเดินมาพูดอย่างร้อนรน
“ปล่อยเธอ ล็อคห้องเอาไว้ให้ดีเดี๋ยวฉันจะไปจัดการเองส่วนผู้หญิงอีกคนจับตาดูไว้ให้ดี”ชายหนุ่มพูดพลางถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก
“ครับนาย”
“บอกให้ลูกน้องอีกฝั่งนึงเตรียมเสบียงอาหารมาให้พร้อมฉันจะอยู่ที่นี่อีกนาน”
“ครับนาย”
หลังจากที่ลูกน้องของชายหนุ่มเดินออกไปเขาก็หยิบเสื้อสีขาวมาใส่แล้วเดินออกไปยังเนินสูงที่อยู่บนเกาะแห่งนี้
ร่างสูงหยุดยืนตรงหน้าเนินดินขนาดไม่ใหญ่มาก มีก้อนหินวางเรียงรายอยู่รอบๆพร้อมกับดอกไม้ที่ปลูกอยู่รอบๆเป็นวงกว้าง
“แม่ครับ...แม่เป็นยังไงบ้างครับสบายดีไหม”ลายลมอ่อนๆพัดโชยมากระทบที่ใบหน้าของเขาราวกับว่าแม่ของเขารับรู้ทุกคำพูดที่ชายหนุ่มได้พูดออกมา
“ผมจะไม่ให้แม่ตายฟรีแน่นอนคนที่มันทำมันจะต้องได้รับผลกรรมทั้งครอบครัว ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาผมทุกข์ทรมานมามากขนาดไหนพวกมันจะต้องทุกข์ทรมานมากกว่าผมเป็นร้อยเท่าพันเท่า”ต่อให้เวลาจะผ่านไปอีกร้อยปีก็ไม่ทำให้ความแค้นที่ฝังอยู่ในใจของชายหนุ่มลดลงได้เลย
แววตาของชายหนุ่มดูเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีตและในวันนี้มันกำลังจะได้ปลดปล่อยความแค้นจะถูกสะสาง
