ตอนที่ 4
เขาถอนหายใจอีกครั้งขณะพูดกับตัวเองเมื่อวางร่างเล็กบอบบางลงบนเบาะข้างคนขับและหญิงสาวก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีก ในชั่วขณะนั้นเองที่ชายหนุ่มได้มีโอกาสเพ่งมองสาวน้อยแปลกหน้าชัด ๆ จากอแสงไฟริมถนนที่สาดส่องเข้ามา
ผู้หญิงชาวเอเชียผิวขาวราวกับหิมะ ใบหน้าใต้กรอบเรือนผมดำยาวเงางามนั้นสวยหวานสะกดสายตา จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหยักเป็นรูปกระจับ แก้มนวลเนียนเป็นสีแดงปลั่งคงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
ในสายตาของเขาเธอเป็นผู้หญิงสวยและมีเสน่ห์ดึงดูดไม่ใช่เล่น ไม่อย่างนั้นไอ้ผู้ชายคนที่เขาเข้าไปขัดจังหวะเมื่อครู่คงไม่พยายามหาทางลวนลามเธอเป็นแน่
แต่...เธอเป็นใครกัน เขาเกิดความใคร่รู้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก่อนที่ความสงสัยนั้นจะแล่นลิ่วไปไกลเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างสูงปิดประตูและรีบวิ่งกลับไปนั่งฝั่งคนขับ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายขณะสตาร์ทเครื่องยนต์
“ครับ...ผมแม็กเซ็น...ใช่ครับ ผมกำลังจะกลับ เรื่องขยายอู่รื้อซากเรือที่ตุรกีค่อยคุยกันพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน”
แม็กเซ็นกล่าวจบก็วางโทรศัพท์ลงข้างตัวและอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหญิงสาวชาวเอเชีย เจ้าของใบหน้าแสนสวยที่นอนอยู่บนเบาะข้าง ๆ ซึ่งเธอมีอาการงัวเงียขึ้นมาเป็นบางครั้ง
ปกติเขาไม่ชอบออกมาท่องราตรีจนดึกดื่น แต่คืนนี้มีเหตุจำเป็นต้องออกมารับรองแขกซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่เขารั้งตำแหน่งประธานกรรมการเพื่อตกลงเรื่องการทำโปรเจ็คใหญ่ของบริษัทอย่างไม่อาจเลี่ยง
หลังจากทานอาหารในภัตตาคารหรูและพูดคุยกันจนเห็นว่าเวลาล่วงไปจนใกล้เที่ยงคืนแล้วเขาก็เตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อนแต่ก็ดันมาเห็นภาพที่ทำให้เขาไม่อาจนิ่งเฉยได้ นั่นคือผู้ชายตัวโตที่กำลังยื้อยึดผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งซึ่งกลับกลายเป็นว่าเขาต้องพาเธอคนนั้นกลับมาที่รถด้วยเพราะเธอเมามายจนหมดรูป
“คุณ...นี่คุณ”
แม็กเซ็นเรียกหญิงสาวอีกครั้ง เขาก้มหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็ได้ยินเสียงครางลึกดังอยู่ในลำคอระหง เธอเหมือนกำลังละเมอแต่ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร
“คุณ...บอกผมสักหน่อยเถอะว่าบ้านของคุณอยู่ที่ไหน”
เขาตั้งคำถามและเห็นว่าอีกฝ่ายปรือตาขึ้นมามองทว่าก็ดูเลื่อนลอยและเหมือนเธอยังไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังอยู่ที่ไหน
“กลับบ้านเหรอ...กลับบ้าน...ใช่...ฉันอยากกลับบ้าน”
เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาจนชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ไหน ตัวเธอก็ไม่มีอะไรสักอย่างที่เขาจะพอรู้ได้ทั้งกระเป๋า โทรศัพท์มือถือ หรือบัตรประชาชน ดวงหน้างามส่ายสะบัดไปมาบนเบาะที่ปรับเอนลงจนสุด มือไม้ของเธอป่ายแปะกระทั่งจับแขนเขาไว้ได้ ชายหนุ่มมีอาการตกใจเล็ก ๆ เมื่อแขนแกร่งถูกจับยึดเอาไว้พร้อม ๆ กับที่ร่างแน่งน้อยเบียดเข้าหา
“อืม...อือ”
เสียงครางขอเธอยังดังอยู่เช่นนั้น แม็กเซ็นมองแล้วก็คิดหนักก่อนจะได้คำตอบว่าควรจะพาผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ไปที่ไหน
“โอเค...ผมจะพาคุณไปส่ง...แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าบ้านของคุณอยู่ที่ไหน”
“กลับบ้าน...กลับบ้าน...ฉันอยากกลับบ้าน”
เสียงครางคล้ายละเมอจากคนที่ยังไม่รู้สึกตัวดังไปตลอดทางที่แม็กเซ็นพารถเก๋งคันหรูของเขาแล่นเลาะฝ่าการจราจรคับคั่งใจกลางกรุงลอสแองเจลิสเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ถนนสายซันเซ็ต บูเลอวาร์ด
ชายหนุ่มตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายพาผู้หญิงแปลกหน้าแถมมีอาการเมามายกลับไปที่บ้านพักอันหรูหราของเขาในย่านเบลแอร์ตอนที่นาฬิกาดิจิทัลบนคอนโซลหน้ารถบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี
เมื่อดับเครื่องยนต์แล้วแม็กเซ็นก็ตั้งสติก่อนหันกลับไปมองร่างหญิงสาวซึ่งเขาคาดเดาว่าเธอน่าจะเป็นชาวไทยด้วยลักษณะหน้าตารูปร่าง แต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาหนักใจมากไปกว่าอาการของเธอที่เป็นอยู่ตอนนี้
“คุณ...นี่ผมยังไม่รู้เลยนะว่าคุณชื่ออะไร มาจากไหน”
