อสูรร้ายทวงสวาท

40.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
25
บท
36.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แก้วตาแอบรักพิพัฒน์มาเนิ่นนาน แต่เขากลับมองเห็นแต่เพื่อนของหล่อน จนกระทั่งเกิดความผิดพลาดขึ้นในค่ำคืนนั้น ทำให้เขากับหล่อนกลายเป็นของกันและกัน แต่กระนั้นในสายตาของเขาก็ยังคงมองหล่อนไร้ตัวตนเช่นเดิม

ประธานพันล้านนิยายรักนิยายปัจจุบันดราม่าประธานพันล้านรักแรกพบโตมาด้วยอุ้มบุญเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

พิพัฒน์จ้องมองสตรีวัยกลางคนหน้าตาสะสวยที่ก้าวเข้ามาภายในบ้านของตัวเองด้วยความแปลกใจ เขาหันไปมองบิดา ก่อนจะเอ่ยถาม

“ใครครับพ่อ”

นิพลยิ้มให้กับลูกชาย ก่อนจะพูดขึ้น “คุณนัยนา ภรรยาของพ่อเอง”

พิพัฒน์ช็อก อ้าปากค้าง “เมียใหม่ของพ่ออย่างนั้นเหรอครับ”

“อืม ใช่แล้วล่ะ” นิพลลุกขึ้นยืน “วันนี้พ่อเลยเชิญคุณนามาเพื่อแนะนำให้แกรู้จัก”

พ่อของเขาพูดจบก็เดินตรงเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

พิพัฒน์นั่งนิ่ง กำมือแน่น จ้องมองภาพของบิดากับผู้หญิงคนใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาแทนมารดาที่ตายไปเมื่อห้าปีก่อนด้วยความไม่พอใจ

“ไม่มีใครมาแทนคุณแม่ได้ พ่อจำเอาไว้นะครับ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของนิพลจางลงไปเมื่อได้ยินคำพูดของบุตรชาย นัยนาเองก็เช่นกันที่หน้าซีดเผือด หล่อนมองสามีด้วยความไม่สบายใจ

“นากลับก่อนก็ได้นะคะ คุณพล”

“ไม่ต้องกลับไปไหนหรอกครับคุณนา” นิพลบอกภรรยาคนใหม่ ก่อนจะหันไปมองลูกชาย “อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน พิพัฒน์”

พิพัฒน์มองบิดาอย่างผิดหวัง “ผมไม่เคยคิดเลยนะครับว่าพ่อจะไปคว้าผู้หญิงต่ำๆ แบบนี้เข้ามาในบ้าน และให้มาอยู่ในฐานะแม่เลี้ยงของผม”

“คุณนาไม่ใช่ผู้หญิงต่ำๆ และที่สำคัญคุณนาเป็นคนดี”

พิพัฒน์มองหน้าบิดาสลับกับหน้าของนัยนา “คนดีหรือครับ คนดีที่พร้อมจะแปลงร่างเป็นนังแม่มดยามที่พ่อไม่เห็นน่ะสิ”

“คุณพัฒน์คะ น้า...” นัยนาพยายามจะอธิบาย แต่พิพัฒน์ไม่ยอมฟัง

“หุบปากไปเลยนังแม่มด”

“เจ้าพัฒน์!”

เสียงดุดันของบิดาไม่ได้ทำให้พิพัฒน์เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าพ่อไม่ไล่นังผู้หญิงคนนี้กลับไป ผมจะอาละวาดให้บ้านพังเลย คอยดูสิครับ!”

“ถ้าแกทำแบบนั้น ฉันจะตัดค่าขนมแก จำเอาไว้พิพัฒน์”

“นี่พ่อเห็นนังเมียใหม่มันดีกว่าลูกแท้ๆ อย่างนั้นเหรอครับ” พิพัฒน์ตามบิดาและพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

นิพลกัดฟันแน่น “ก็ถ้าแกทำตัวเป็นคนดี ฉันก็จะไม่มีทางเห็นใครดีกว่าแก ไปเรียนได้แล้ว”

พิพัฒน์มองหน้านัยนาอย่างเกลียดชัง เขากัดฟันแน่นด้วยแรงโทสะ ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านทันที

นัยนามองตามลูกเลี้ยงไปจนลับตา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนิพล

“นาคิดว่านาควรจะกลับไปอยู่ที่บ้าน...”

นิพลส่ายหน้าน้อยๆ คว้ามือภรรยาขึ้นมากุมเอาไว้ “ไม่เอานะคุณนา คุณเป็นภรรยาของผมแล้ว ยังไงคุณก็ต้องอยู่ที่นี่กับผม”

“แต่ลูกชายของคุณ...” นัยนายังเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

“ช่างมันเถอะ อีกสักพักก็น่าจะดีขึ้น”

“แต่นาคิดว่าควรจะรอให้ลูกชายของคุณยินยอมเสียก่อนนะคะ แล้วค่อยให้นากับลูกย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่”

นิพลส่ายหน้าดิก และยืนยันคำเดิม “ผมทนเห็นนากับลูกลำบากไม่ได้อีกแล้วล่ะ มาอยู่ด้วยกันที่นี่ มีอะไรผมจะได้ช่วยเหลือไงล่ะ”

“แต่นาเกรงใจคุณ และก็... รู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่ทำให้คุณกับลูกชายต้องทะเลาะกัน”

เป็นอีกครั้งที่นิพลส่ายหน้า “ผมกับเจ้าพัฒน์ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแบบนี้ตลอดนั่นแหละครับ คุยกันดีๆ ได้ไม่เกินห้านาที” นิพลถอนใจออกมาเบาๆ “เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะจัดการกับเจ้าพัฒน์เอง”

“ขอบคุณค่ะ คุณพลที่เมตตานากับลูก”

นัยนายกมือขึ้นไหว้ผู้ชายตรงหน้า มองเขาผ่านม่านน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจ ถ้าไม่มีนิพล หล่อนก็คงไม่มีแม้แต่เงินที่จะส่งให้ลูกสาวเรียกมหาวิทยาลัย

“เพราะคุณเป็นคนดี ผมถึงได้รักไงครับ”

นิพลดึงร่างของนัยนาเข้ามากอดแนบอก ก่อนจะพาเดินขึ้นชั้นบนเพื่อพาไปดูห้องพัก

พิพัฒน์ที่แอบมองอยู่ขบกรามแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น

“คิดว่าจะอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ นังแม่มด ฝันไปเถอะ”

ชายหนุ่มกัดฟันแน่น ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังรถคันงามของตัวเอง และขับออกไปด้วยความเร็วสูง

แก้วตาที่เดินอยู่ริมถนนภายในมหาวิทยาลัยต้องรีบก้าวหลบด้วยความตกใจ เมื่อรถคันงามพุ่งตรงเข้ามาคล้ายกับจะเฉี่ยวชน

“ทำไมขับรถแบบนี้นะ”

หล่อนพึมพำต่อว่าเจ้าของหล่อนเบาๆ และยืนมองรอคนขับก้าวลงมา

“เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะแม่คุณ”

พิพัฒน์นั่นเอง...

แก้วตาเห็นว่าเป็นคนที่ตัวเองกำลังพยายามหลบหน้าอยู่จึงรีบหมุนตัวเดินหนี แต่พิพัฒน์ก้าวยาวๆ มาคว้าแขนเรียวเอาไว้เสียก่อน

“จะรีบไปไหน แก้วตา”

หล่อนหยุดเดิน และพยายามบิดแขนให้หลุดจากอุ้งมือใหญ่

“ปล่อยแขนแก้วเถอะ พัฒน์”

ชายหนุ่มไม่ปล่อย แถมยังเพิ่มน้ำหนักที่ปลายนิ้วมากยิ่งขึ้น ทำให้หล่อนเจ็บระบมที่เรียวแขนเป็นที่สุด

“เธอแปลกไปนะแก้วตา”

“เอ่อ...” หล่อนเสหลบสายตาคมกริบของพิพัฒน์ “แก้ว... ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”

“ไม่เหมือน เธอคอยแต่หลบหน้าฉันตลอดเวลา”

“แก้ว... แก้วไม่ได้หลบหน้าพัฒน์นะ เอ่อ... ปล่อยแขนแก้วเถอะ แก้วจะรีบไปเรียน”

พิพัฒน์ไม่ปล่อย และแค่นยิ้มหยัน “เธอมีเรียนเก้าโมงไม่ใช่หรือ”

“คือ... แก้วต้องรีบไปอ่านหนังสือ”

“อย่าหาข้ออ้างนักเลย”