บท
ตั้งค่า

ฝันร้าย (1/2)

“หนีได้ก็หนีไป แต่จำใส่สมองสกปรกๆ ของเธอเอาไว้ด้วยล่ะ ว่าถ้าฉันเจอเธออีกเมื่อไหร่…เธอจะต้องเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่า!”

.

.

.

.

.

เฮือก!!!

ดวงตาสีดำสนิทเบิกโพลง ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเอามือกุมอก หัวใจที่เต้นเร็วและแรงบ่งบอกว่าเจ้าของของมันกำลังตกอยู่ในภาวะหวาดผวา เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมขึ้นบนใบหน้าหวานรวมถึงแผ่นหลังและฝ่ามือ ฉันหอบหายใจหนักๆ เพื่อเอาอากาศเข้าปอด กวาดสายตามองไปรอบตัวเพื่อให้มั่นใจว่านี่คือโลกแห่งความจริง

“แฮ่ก แฮ่ก”

ใช้เวลานานหลายนาทีกว่าฉันจะสงบลง มือบางยกขึ้นลูบหน้าตัวเอง ปาดน้ำตาและเหงื่อออกไปแบบลวกๆ ชันเข่าขึ้นก่อนจะโน้มตัวลงไป

…ฝันร้ายอีกแล้ว

ครั้งนี้เหมือนจริงมากซะด้วยสิ

ฟุ่บ

‘16 สิงหาคม’

‘04.30 น.’

วันนี้เป็นวันเปิดเทอมขึ้นปีสาม ฝันร้ายคงจะรุนแรงขึ้นตามระดับความเครียดล่ะมั้ง?

“เฮ้อออออ”

นอนต่ออีกหน่อยไม่น่าจะทันแล้ว ฉันมีงานส่งนมตอนตีห้าครึ่งด้วย ลุกไปอาบน้ำเลยก็แล้วกัน

ตึก ตึก ตึก

แต่ถึงจะอยากนอนต่อมากแค่ไหน ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะหลับลงหรอก

เหตุการณ์วันนั้นยังชัดเจนในความทรงจำเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานอยู่เลย

ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ฉันบอกเลิกปืนในวันสุดท้ายของการสอบไฟนอลพอดี ฉันก็เลยไม่ได้เจอเขาตลอดสามเดือน แต่ถึงกระนั้นความกลัวก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย ฉันใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความหวาดระแวง พะวงหน้าพะวงหลังอยู่ตลอดเวลา ฉันกังวลไปหมด กลัวว่าปืนจะโผล่มาแก้แค้นในสักวัน ก็เขาเล่นประกาศกร้าวไว้ซะขนาดนั้น…ความตายจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ฉันมั่นใจการที่ฉันยังมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ไม่ใช่เพราะปืนล้มเลิกความตั้งใจแล้ว เขากำลังวางแผนร้ายอยู่แน่นอน เพราะงั้นฉันต้องระวังไว้ให้ดี ห้ามประมาทเด็ดขาด

นอกจากปืนก็ยังมีอีกหลายเรื่องให้ต้องกังวล ที่สำคัญๆ คือคลิปที่ถูกถ่ายในวันเกิดเหตุ เป็นอย่างที่ฉันคาดไว้ว่ามันจะเป็นข่าวดังไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย เพียงคืนเดียวยอดวิวก็พุ่งสูงถึงห้าหมื่นครั้ง เรื่องน่าจะไม่ได้ดังเฉพาะที่มอฉันอย่างเดียวแล้วแหละ คนนอกก็น่าจะรู้ด้วยเหมือนกัน ปกติฉันก็ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยลำบากอยู่แล้ว พอมีข่าวนอกใจออกมาแบบนี้ประกอบกับสีหน้าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาของฉัน คนพวกนั้นต้องเกลียดฉันมากกว่าเดิมแน่

ฉันไม่ได้กังวลว่าใครจะมองฉันเป็นแบบไหนหรอก ฉันถูกตัดสินว่า ‘ผิด’ มาทั้งชีวิตแล้ว แต่ที่ฉันกังวลน่ะคือเรื่องเกรด ทุกวิชาต้องมีงานกลุ่มอย่างน้อยหนึ่งงาน ถ้าทุกคนรังเกียจฉันจนไม่ยอมให้ฉันร่วมกลุ่มหรือยอมแต่อาจจะกลั่นแกล้งในภายหลัง เกรดของฉันต้องร่วงจนไม่ได้ทุนแน่ๆ

การที่ฉันยังสามารถเรียนในมหาวิทยาลัยที่ค่าเทอมแพงหูฉีกแห่งนี้ได้เป็นเพราะฉันได้ทุนเรียนดีมาตลอด ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงเลือกเรียนที่นี่ทั้งๆ ที่ฐานะไม่ดี นั่นเป็นเพราะปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัย JS คือใบเบิกทางสู่อาชีพมั่นคงในอนาคต อาชีพที่จะทำให้ฉันและแม่ไม่ลำบาก

ดังนั้นคำขู่ของปืนที่ว่าถ้าเขาเจอฉันอีก เขาจะทำให้ฉันเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เขาเคยเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่าจึงใช้ไม่ได้ผลกับฉัน เพราะฉันลาออกไม่ได้ ฉันมาไกลขนาดนี้แล้ว เหลืออีกแค่สองปีฉันก็จะจบจากที่นี่แล้วเข้าทำงานในบริษัทดีๆ มีเงินเดือนสูงๆ ให้แม่ใช้ไม่ขาดมือ ฉันแค่ต้องอดทนจนกว่าจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ ไม่ว่าปืนคิดจะแก้แค้นฉันด้วยวิธีไหน ฉันก็จะยอมรับผลจากการกระทำของตัวเอง

ไม่มีใครสมควรถูกนอกใจ ฉันไม่เคยอยากให้ปืนเจ็บปวด แต่ฉันจำเป็นต้องทำ ณ วินาทีนั้นมีตัวเลือกอยู่แค่ตัวเลือกเดียวคือฉันต้องนอกใจปืน ไม่เช่นนั้น…ฉันอาจสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไป

กึก

ชั้นล่างที่ว่างเปล่าทำให้ฉันชะงักฝีเท้า ดวงตาสีดำสนิทกวาดมองไปทั่วบริเวณเพื่อมองหาแม่ ถือวิสาสะเดินไปเปิดประตูห้องนอนของท่านก็ไม่พบใครอยู่ในนั้น แม่ไม่กลับบ้านมาห้าวันแล้ว ท่านกับสามีใหม่ออกไปข้างนอกตั้งแต่หัวค่ำ ไม่มีการติดต่อมาหาฉัน มีเพียงเงินในบัญชีที่หายไปทุกวันๆ…

ติ๊ง!

‘รายการถอนเงินจากบัญชี 3,000.00 บาท

ยอดเงินคงเหลือ 0.00 บาท’

…นั่นคือเงินก้อนสุดท้ายของฉัน

แม่บังคับให้ฉันเปิดบัญชีร่วมกับท่าน ซึ่งแน่นอนว่าเงินจากการทำงานพิเศษทั้งหมดก็อยู่ในนั้นด้วย ฉันไม่เคยว่าอะไรเวลาท่านใช้เงิน เพราะมันหมายความว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง ต่อให้ไม่ได้อยู่กับฉันก็ตาม

เงินเพิ่งถูกถอนออกจากบัญชีเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว ถ้าฉันลองโทรหาแม่ ท่านจะด่าฉันมั้ยนะ?

ตรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด

(…มีอะไร)

เสียงขุ่นจากปลายสายทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก รีบเอ่ยปากถามท่านด้วยความเป็นห่วงทันที

“แม่อยู่ไหนคะ?”

(กูจะอยู่ที่ไหนก็เรื่องของกู มึงไม่ต้องมายุ่ง)

“คะ คือ…หนูแค่อยากรู้น่ะค่ะ ว่าวันนี้แม่จะกลับมาที่บ้านรึเปล่า”

(ไม่กลับ กูไม่อยากเห็นหน้ามึง โอเคมั้ย)

ไม่รู้ว่าแม่พูดจริงหรือพูดเล่น แต่ได้ยินแบบนั้นฉันก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน…

…หัวใจของฉันยังสามารถแตกสลายได้มากกว่านี้สินะ

(แล้วทำไมเงินในบัญชีถึงมีอยู่แค่สามพัน มึงเอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีกแล้วใช่มั้ย!?)

“แม่คะ หนูยังไม่ได้ถอนออกมาใช้เลยตั้งแต่ต้นเดือน…”

(อ๋อ มึงจะบอกว่ากูฟุ่มเฟือยงั้นสิ? นี่มึงกล้าย้อนกูเหรออีลูกชั่ว!?!?)

“เปล่านะคะ หนูไม่ได้…”

(กูต้องการอีกห้าพัน ไปหามา)

“ห้าพันเลยเหรอคะ? หนูจะไปหาจากที่ไหน…”

(ถามกูแล้วกูจะรู้เหรอ? มึงจะไปหาจากที่ไหนก็เรื่องของมึง แต่ยังไงวันนี้กูก็ต้องได้ห้าพัน ถ้ามึงไม่โอนเงินเข้าบัญชี กูจะไม่กลับไปให้มึงเห็นหน้าอีก)

“แม่คะ…”

(ไม่ต้องมาเรียกกูว่าแม่ถ้าแค่นี้มึงยังทำให้กูไม่ได้ กูไม่อยากมีลูกไร้ประโยชน์แบบมึง!!!)

“แม่…”

….

แม่วางสายไปแล้ว

“…อึก ฮึก”

น้ำตากับเสียงสะอื้นที่กลั้นเอาไว้ถูกปลดปล่อยออกมาทันที ปกติแม่ก็ชอบพูดแซะฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่นี่ท่านคงหงุดหงิดจากการเสียพนันเลยเอามาลงที่ฉัน และสามีใหม่ของท่านก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกขาดสะบั้นเข้าไปอีก แม่เกลียดฉันมากขึ้นทุกวันเพราะกลัวฉันจะแย่งผู้ชายของท่าน ทั้งๆ ที่เขาต่างหากที่มายุ่งวุ่นวายกับฉัน

ใช่ ฉันถูกพ่อเลี้ยงคุกคาม ตอนเด็กๆ ไม่เท่าไหร่ แต่พอฉันโตขึ้นเขาก็ยิ่งส่งสายตาแทะโลมและบางครั้งก็ลวนลามฉัน ฉันเคยบอกแม่ไปครั้งหนึ่งแต่ท่านตบหน้าฉันและหาว่าฉันโกหก หลังจากนั้นฉันจึงไม่กล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย

ช่วงที่ฉันคบกับปืน พ่อเลี้ยงไม่กล้ายุ่งกับฉัน แต่พอฉันเลิกรากับปืน เขาก็เริ่มออกลายอีกครั้ง ฉันต้องล็อกประตูห้องอย่างแน่นหนาทุกคืนก่อนเข้านอน ต้องตรวจดูห้องทุกซอกทุกมุมเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง บอกตามตรงว่าฉันอึดอัดที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับขยะชิ้นนี้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ แม่ฉันรักมันยิ่งกว่าลูกในไส้อย่างฉันอีก

พ่อเลี้ยงทำให้แม่ฉันติดพนันจนไม่กลับบ้านกลับช่อง เขาคือแมงดาที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อพวกเราจนแทบจะเหลือแต่กระดูก ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้แม่เห็นธาตุแท้ของมันและเลิกยุ่งกับมันซะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ขอให้มันตายๆ ไปสักที…ตายแบบทรมานเลยยิ่งดี

บางครั้งฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าถ้าพ่อยังอยู่ ทุกอย่างจะดีกว่านี้มั้ย?

ฉันไม่เคยเจอหน้าพ่อเลยสักครั้ง แต่แม่บอกว่าฉันหน้าเหมือนเขา และนั่นก็เป็นอีกสาเหตุที่ท่านเกลียดฉัน เพราะฉันทำให้ท่านนึกถึงคนที่ทิ้งพวกเราไป

‘อย่างน้อยๆ เดชก็ไม่ทิ้งกูไปเหมือนพ่อมึง’

ใช่ มันไม่ทิ้งแม่ไปหรอกตราบใดที่แม่ยังหาเงินให้มันได้อยู่น่ะ

ฉันยังไม่รู้เลยว่าวันนี้ฉันจะหาเงินมาให้แม่ได้ยังไง แต่ท้ายที่สุดเงินจำนวนห้าพันบาทจะต้องอยู่ในบัญชีก่อนเที่ยงคืน ไม่อย่างนั้น…ฉันจะไม่ได้เจอแม่อีก

ค่าจ้างส่งนมในตอนเช้าสามร้อยบาท

พาร์ทไทม์ที่ร้านเบอร์เกอร์ตอนเย็นกะละสามร้อยบาท ถ้าฉันควบสามกะ…

ปี๊นๆๆๆ

“ขับรถมองทางหน่อยสิวะ!!!”

…ฉันก็ยังได้ไม่ถึงสองพันอยู่ดี

“ขะ ขอโทษค่ะ”

ฉันก้มศีรษะให้รถที่ขับตามหลังแล้วหันหัวจักรยานขี่ขึ้นฟุตบาท ใจลอยจนเกือบตายแล้วมั้ยล่ะอาลัวเอ๊ย

ก็อกๆ

หลังสุดท้ายของเช้านี้แล้ว

“นมมาส่งค่า”

แอ๊ด

“อ้าว ทำไมวันนี้ใส่ชุดนักศึกษามาล่ะ?”

คุณยายที่เปิดประตูออกมารับถามด้วยความประหลาดใจ

“วันนี้ไปเรียนวันแรกน่ะค่ะ บ้านหนูอยู่ไกลจากมหาลัยเลยต้องใส่ชุดออกมาเลย”

“ตายละ ยายก็นึกว่าหนูอยู่ม.ปลาย หน้าเด็กจริงจริ๊ง” คุณยายว่าพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ “ว่าแต่หนูอยู่ปีไหนแล้วล่ะ?”

“ปีสามแล้วค่ะ”

“อ๋อออ ตั้งใจเรียนนะหนู ขอบคุณสำหรับนมนะจ๊ะ ส่วนอันนี้…ยายติ๊บให้”

คุณยายยัดขนมปังใส่มือฉันก่อนจะยิ้มอ่อนโยน

“อย่าลืมทานข้าวเช้าด้วยนะหนู”

“ขอบคุณค่ะ คุณยายก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”

จะหาว่าฉันเว่อร์ก็ได้นะคะ

แต่เรื่องแย่ๆ ตลอดเช้าวันนี้ถูกพัดให้หายไปด้วยรอยยิ้มของคุณยายเลยล่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel