บทที่9 อวี๋ฟางอัดคน
สองพี่น้องช่วยกันซักผ้าอวี๋เฟิงก็นั่งให้กำลังใจน้องสาวอยู่ใกล้ๆ
วันนี้น้องสาวนำเสื้อผ้าผ้าห่มที่นอนมาซัก อวี๋เฟิงคิดว่าผ้าเยอะมากเขาเป็นพี่ชายควรให้กำลังใจน้องสาวใกล้ๆพวกนางจะได้มีแรงซักผ้า
สองพี่น้องไม่รู้ความคิดของอวี๋เฟิงถ้าพวกนางรู้คงไล่เขาไปไกลๆ
อวี๋เจียวกดซื้อน้ำยาซักผ้ามาจากระบบหนึ่งแกลลอนราคา25คะแนน ระบบรู้ว่าอวี๋เจียวยากจนมันจึงเข้าหมวดสินค้าราคาถูกซื้อของเกรดต่ำสุดให้อวี๋เจียว
น้ำยาซักผ้าหนึ่งแกลลอนใช้ซักผ้าได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือนถึงแม้จะเป็นสินค้าเกรดต่ำแต่อวี๋เจียวคิดว่ายังดีกว่าใช้ขี้เถ้ารึน้ำเปล่าซักผ้า
อวี๋เจียวเทน้ำยาซักผ้าใส่ถังมาแค่พอซักผ้า ส่วนที่เหลือในแกลลอนนางเก็บซ่อนไว้ในบ้านอย่างดี
น้ำยาซักผ้าถึงแม้จะเป็นเกรดต่ำแต่เมื่ออวี๋เจียวผสมน้ำใช้ซักผ้าแล้วกับมีกลิ่นหอมของดอกไม้แล้วยังซักผ้าได้สะอาดอีกด้วย
อวี๋เจียวจึงถามระบบว่า “ระบบนี่คือน้ำยาซักผ้าเกรดต่ำสุดใช่ไหม”
ระบบ “ใช่ค่ะเป็นสินค้าที่ไม่มียี่ห้อคนรวยๆไม่นิยมใช้กัน”
อวี๋เจียว“ระบบเธออย่าตอกย้ำคำว่ารวยได้ไหม”
ระบบ “ได้ค่ะถ้าอย่างนั้นระบบอธิบายใหม่นะคะสินค้าเกรดต่ำคือสินค้าที่คนยากจนใช้กัน”
อวี๋เจียว “…”
กลิ่นหอมของน้ำยาซักผ้าดึงดูดให้เหล่าฟูเหรินและแม่นางน้อยที่ซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำสนใจ
มีฟูเหรินใจกล้าถามขึ้นว่า “คนแซ่อวี๋พวกเจ้าใช้อะไรซักผ้าทำไมถึงมีกี่หอม”
อวี๋เจียว “ใช้น้ำยาซักผ้าน่ะ”
แม่นางน้อยที่มีพี่สาวเป็นสาวใช้ของจวนคหบดีเอ่ยขึ้นว่า
“เหมือนสบู่ที่เศรษฐีใช้ซักผ้ากันใช่รึไหม”
ทันทีที่แม่นางน้อยพูดจบก็มีสายตาอิจฉามองมาที่สองพี่น้อง
แม่นางน้อยยังพูดต่อว่า“สบู่ราคาแพงมากเลยนะมีแต่คนมีเงินใช้กัน”
อวี๋เจียวได้ยินเช่นนั้นจึงเชิดหน้าขึ้นอวี๋เฟิงกับอวี๋ฟางก็เชิดหน้ายืดหลังตรงตามน้องสาวคนเล็ก
ระบบพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง “โฮสต์เชิดหน้ามากไประวังปวดคอนะคะ”
อวี๋เจียวจึงก้มหน้าลงแล้วตั้งหน้าตั้งตาซักผ้า เหล่าฟูเหรินพากันส่งเสียงพูดคุยกันว่า
“ข้ารู้มาว่าวันนี้ยามเซินเศรษฐีที่ดินจะมาทวงเงินรึว่าจางเหลียนมีเงินใช้หนี้แล้ว”
“น่าจะมีแล้วล่ะถ้าไม่มีจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อของฟุ่มเฟื่อยซักผ้า”
“นั่นสิจางเหลียนไปเอาเงินที่ไหนมาสามีก็หายไปสองเดือนกว่าแล้ว”
“จิ๊ จิ๊ ตกกลางคืนนางต้องรับงานอย่างว่าแน่ๆ”
แม่นางน้อยที่ยังไม่ได้แต่งงานจึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า
“งานอย่างว่าคืองานอะไรรึเจ้าคะ”
เหล่าฟูเหรินพากันส่งเสียงหัวเราะแล้วตอบว่า
”งานที่แม่ม่ายชอบทำกันน่ะสิเผลอๆลูกสาวสองคนของนางก็ช่วยทำด้วย”
โครม โอ๊ย! อวี๋ฟางใช้เท้าถีบหน้าฟูเหรินที่พึ่งพูดจบฟันหน้าของฟูเหรินคนนั้นหลุดมาหนึ่งซี่
อวี๋เจียวกำลังจะเดินไปจัดการเหล่าฟูเหรินที่เหลืออีกสามคน
อวี๋ฟางเห็นอวี๋เจียวกำลังจะลงมือนางจึงพูดว่า“น้องเล็กไม่ต้องข้าจัดการเอง”
อวี๋เจียวจึงยืนดูอยู่เฉยๆอวี๋เฟิงร้อนใจจะแย่แล้วเขากลัวอวี๋ฟางโดนรุมทำร้ายอวี๋เจียวจึงปลอบใจเขาว่า
“พี่รองหาใช่ลูกพลับนิ่มที่ใครมารังแกง่ายๆพี่ใหญ่คอยชมเรื่องสนุกกับข้าเถอะ”
ฟูเหรินทั้งสี่คนอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีห่างจากอวี๋ฟางเพียงสองสามปีจึงไม่ได้มีความสุขุมเยือกเย็น
เมื่อถูกถีบจนฟันร่วงฟูเหรินคนที่ถูกถีบจึงพูดกับฟูเหรินอีกสามคนที่เป็นสหายกันว่า
”ช่วยข้าจัดการนางโสเภณีชั้นต่ำก่อนที่สามีของพวกเจ้าจะติดใจมัน“
ฟูเหรินสี่คนเดินเข้าหาอวี๋ฟางพร้อมกันพวกนางพุ่งเข้าใส่อวี๋ฟาง สองคนจำแขนคนละข้างของอวี๋ฟางอีกคนจิกผมอวี๋ฟาง ฟูเหรินคนที่ถูกถีบฟันร่วงเงื้อมือขึ้นจะตบอวี๋ฟาง
อวี๋เฟิงร้อนใจกล่าวว่า “น้องเล็กน้องรองแย่แล้วข้าต้องเข้าไปช่วย”
อวี๋เจียวดึงแขนอวี๋เฟิงไว้แล้วพูดว่า”พี่ใหญ่คอยดูพี่รองก่อนเถอะ”
อวี๋ฟางยกเท้าขึ้นถีบหน้าท้องจนฟูเหรินฟันหลอนนางจุกจนตัวงอเป็นกุ้ง อวี๋ฟางสะบัดมือสองครั้งฟูเหรินสองนางที่จับแขนอวี๋ฟางไว้ก็ล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น
อวี๋ฟางบิดแขนฟูเหรินที่จิกผมนางฟูเหรินนางนั้นเจ็บจนต้องปล่อยมือ อวี๋ฟางจิกผมฟูเหรินนางนั้นแล้วชกเข้าที่เบ้าตาทั้งสองข้างจนเบ้าตาฟูเหรินนางนั้นเขียวช้ำ
อวี๋ฟางปล่อยฟูเหรินนางนั้นที่กำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
นางหันมาสนใจฟูเหรินสองคนที่จับแขนนางอวี๋ฟางถีบไปที่ใบหน้าของฟูเหรินทั้งสองคนอย่างแรง
“โอ๊ย ฮือฮือข้าขอโทษข้าไม่กล้าอีกแล้วปล่อยข้าไปเถอะ” ฟูเหรินคนที่ฟันหลุดหนึ่งซี่เห็นอวี๋ฟางเดินมาทางตนเองก็ยกมือไหว้ร้องไห้อ้อนวอน อวี๋ฟางตบนางไปสองทีจนแก้มบวมแดง
ฟูเหรินสองคนที่ถูกถีบหน้าอย่างแรงพากันบ้วนเลือดออกมา โชคดีที่ฟันพวกนางแข็งแรงจึงไม่หลุดร่วงออกมาแต่หน้าพวกนางก็บวมเป็นหัวหมู พวกนางสองคนทั้งเจ็บทั้งกลัวไม่กล้าเข้าไปช่วยฟูเหรินฟันหลอ
อวี๋ฟางหันไปถีบหน้าฟูเหรินที่ถูกต่อยตาเขียวแล้วพูดว่า“เมื่อกี้เจ้าจิกผมข้าที่ถูกต่อยมันน้อยไป”
ฟูเหรินตาเขียวบ้วนฟันที่หลุดหนึ่งซี่ออกมา นางทั้งเจ็บทั้งโมโหแต่ไม่กล้าสู้เพราะรู้ดีว่าสู้ไม่ได้ขืนสู้ต่อไปอาจฟันร่วงหมดปาก
อวี๋ฟาง “พวกเจ้าสี่คนมานั่งรวมกันตรงนี้“
ฟูเหรินทั้งสี่คนไปนั่งรวมกันตรงริมแม่น้ำที่อวี๋ฟางบอก แม่นางน้อยที่ยังไม่ได้แต่งงานหลายคนพากันลอบถอนหายใจคิดในใจว่าโชคดีที่ไม่ร่วมนินทามารดาของอวี๋ฟาง
อวี๋ฟาง “พวกเจ้ายังจะกล้าใส่ร้ายมารดาข้าอีกไหม”
ฟูเหรินสี่คนพากันส่ายหน้า อวี๋ฟางกวาดตามองไปรอบๆแม่นางน้อยพากันตัวสั่นแกล้งก้มหน้าซักผ้าทำเป็นไม่รู้เรื่อง
อวี๋ฟาง ”ครั้งนี้ข้าจะให้อภัยถ้าข้าได้ยินพวกเจ้าใส่ร้ายมารดาของข้าอีก ข้าจะอัดให้น่วมแล้วจับพวกเจ้าไปทิ้งไว้ในป่าให้หมาป่ากิน“
ฟูเหรินสี่คน ”พวกเราไม่กล้าแล้ว“
อวี๋ฟาง ”เอาล่ะข้าก็ไม่ใช่คนใจร้ายเจ้าคิดเจ้าแค้นหลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ละกัน“
ฟูเหรินสี่คนคิดในใจเจ้าไม่ใช่คนใจร้ายแต่อัดพวกข้าซะน่วมเลย
พูดจบอวี๋ฟางก็มาซักผ้าต่อ อวี๋เฟิงยังอ้าปากค้างนี่คือน้องรองน้องสาวผู้เรียบร้อยของเขาใช่ไหม อวี๋เจียวตบบ่าอวี๋เฟิงแล้วพูดว่า
”พี่รองไม่ใช่คนอ่อนแอที่ยอมถูกรังแกเพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้ท่านแม่“
”แต่พี่รองสัญญากับข้าแล้วว่าจะไม่ยอมให้ใครมารังแกอีก ข้าชอบที่พี่รองเป็นเช่นนี้“
อวี๋เฟิงยิ้มแล้วตอบว่า “ข้าก็ชอบ”
ฟูเหรินสี่คนอยากจะกลับบ้านแต่ยังซักผ้าไม่เสร็จถ้ากลับไปต้องถูกแม่สามีดุด่าทุบตีแน่ๆ
พวกนางจึงพากันหอบผ้าไปซักไกลๆจากอันธพาลแซ่อวี๋
