บทที่8 ข้าเป็นผู้มีบุญมาเกิด
อวี๋เจียวติดไฟหุงข้าวต้มอวี๋ฟางเดินเข้ามาในครัวเห็นอวี๋เจียวกำลังสับหมูอยู่อวี๋ฟางจึงถามขึ้นว่า
“เจียวเจียวเจ้านำเนื้อมาจากไหน”
อวี๋เจียว “ซื้อมาน่ะ”
อวี๋ฟาง “เอาเงินที่ไหนมาซื้อ”
อวี๋เจียวไม่ตอบแต่ถามอวี๋ฟางว่า”ฉินช่าย(ขึ้นช่าย)บ้านเราโตรึยังไปเก็บมาให้หน่อยสักสามต้น
อวี๋ฟาง “ยังเลยผักบ้านเราพึ่งจะปลูกได้ไม่นานอีกเดือนถึงจะได้กิน”
อวี๋เจียว “เจ้าตักเกลือในไหไปหนึ่งช้อนไปขอแลกฉินช่าย,ซ้วนโถว(กระเทียม)หูเจียว(พริกไทย)บ้านท่านป้าเฉียวมาสักหน่อยเถอะ“
อวี๋เจียวไม่ตอบอวี๋ฟางก็ไม่ถามอีกนางตักเกลือหนึ่งช้อนใส่ถ้วยเดินไปบ้านป้าเฉียวขอแลกผักทันที
อวี๋ฟางไปไม่นานก็หอบผักมากองตรงหน้าอวี๋เจียว
อวี๋ฟาง “ท่านป้าเฉียวให้ผักมาเต็มเลยนางบอกว่านำเกลือไปแลกผักบ้านนางได้ตลอดไม่ต้องเกรงใจ”
อวี๋เจียว “เกลือมีราคาแพงไม่แปลกหรอกที่นางเต็มใจที่จะแลกผักกับเรา“
สองพี่น้องช่วยกันทำข้าวต้มหมูสับจนเสร็จกลิ่นหอมของข้าวต้มหมูสับทำให้จางเหลียนที่ถอนหญ้าอยู่หลังบ้านอวี๋เฟิงที่ผ่าฟืนอยู่ที่ลานบ้านหยุดชะงัก
อวี๋ฟางตักข้าวต้ม4ชามมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าวแต่ละชามมีเนื้อหมูสับเต็มชาม
อวี๋ฟางส่งเสียงตะโกนว่า “ท่านแม่,พี่ใหญ่มากินข้าวได้แล้วเจ้าค่ะ”
ไม่ต้องรอให้เรียกครั้งที่สองจางเหลียนกับอวี๋เฟิงก็ล้างมือแล้วมานั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวด้วยความเร็วเพียงไม่กี่ลมหายใจ
เมื่อกินข้าวอิ่มแล้วทั้งสามคนจึงมองหน้าอวี๋เจียว อวี๋เจียวรู้ว่าคนยุคโบราณเชื่อเรื่องเทพเซียนจึงพูดว่า
”ข้ารู้ว่าทุกคนสงสัยว่าข้าเอาข้าวเอาเนื้อมาจากไหน ตอนที่ข้าตกน้ำข้าหมดสติไปสี่วันใช่ไหม“
”ตอนนั้นท่านเทพแม่น้ำได้พาดวงจิตของข้าไปรักษาที่วังใต้บาดาล ที่นั่นมีดอกไม้มากมายมีแต่ของสวยๆงามๆ“
“เมื่อข้าหายดีแล้วท่านเทพแม่น้ำจึงมอบของวิเศษให้ข้าสิ่งนึงซึ่งมีเพียงข้าคนเดียวที่มองเห็น”
“ท่านเทพแม่น้ำบอกว่าข้าเป็นผู้มีบุญมาเกิด สวรรค์จึงให้ท่านเทพแม่น้ำช่วยเหลือข้าและมอบของวิเศษให้ข้า”
“แต่ข้าต้องทำคะแนนให้ได้มากๆจึงจะสามารถนำคะแนนไปแลกสิ่งของ ของวังใต้บาดาลมาได้
อวี๋เฟิง ”ทำเช่นไรถึงจะได้คะแนนเยอะๆข้าจะช่วยเจ้า“
อวี๋เจียว ”ไม่มีใครช่วยข้าได้เพราะมันเป็นความลับสวรรค์“
จางเหลียน ”พวกเจ้าสองคนจงจำไว้อย่าเอ่ยเรื่องนี้กับใคร เพราะมันจะทำให้น้องสาวของพวกเจ้ามีอันตราย เจียวเจียวก็ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครล่ะ“
อวี๋เจียว,อวี๋เฟิง,อวี๋ฟาง ”เจ้าค่ะ,ขอรับ”
อวี๋เจียวนำถุงเงินที่ใส่เงิน500อีแปะให้จางเหลียนนางพูดว่า
“ท่านเทพแม่น้ำให้มาท่านแม่เก็บไว้ใช้เถอะ ส่วนที่นาก็ปล่อยให้เขายึดไป ข้าสัญญาว่าเมื่อข้ามีเงินข้าจะซื้อที่นาให้ท่านมากกว่าห้าหมู่แน่นอน“
จางเหลียนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ได้ข้าจะรอ”
จางเหลียนกลับเข้าห้องนำเสื้อผ้าที่ชำรุดมาเย็บซ่อมแซม สองพี่น้องนำเสื้อผ้าไปซักที่ริมแม่น้ำ
อวี๋เฟิงตามน้องสาวทั้งสองคนไปด้วยเขากลัวมีคนมาหาเรื่องน้องสาวของเขา
อันที่จริงอวี๋เฟิงคิดมากเกินไปเพราะไม่มีใครรังแกอวี๋ฟาง,อวี๋เจียวได้ถ้าพวกนางไม่ยินยอม
อวี๋เฟิง,อวี๋ฟาง,อวี๋เจียวเกิดมาก็มีพละกำลังมากกว่าเด็กวัยเดียวกันหลายเท่า
บิดา,มารดาคาดว่าเพราะตอนตั้งครรภ์มารดาของสามพี่น้องชอบกินผลไม้สีดำที่อยู่ในป่าลึก
ไม่มีใครรู้ว่ามันคือผลไม้อะไรรู้แต่ว่ามันมีรสเปรี้ยวมากๆตอนตั้งครรภ์ทั้งสองครั้งจางเหลียนฝันถึงผลไม้สีดำเมื่อตื่นขึ้นนางจึงให้อวี๋ตงไปเก็บมาให้กิน
น่าแปลกตั้งแต่จางเหลียนคลอดอวี๋เจียวออกมาผลไม้ดำก็หายไปทั้งต้นเหมือนไม่เคยมีมาก่อน
ทันทีที่สามคนพี่น้องมาถึงแม่น้ำเหล่าฟูเหรินและแม่นางน้อยที่กำลังซักผ้ากันอยู่พากันส่งสายตามองมาทางอวี๋ฟาง
ตั้งแต่ถูกถอนหมั้นอวี๋ฟางก็ตกเป็นเป้าสายตาเดินไปทางไหนก็มีแต่เสียงซุบซิบนินทา
อวี๋ฟางไม่ได้เสียใจกับการถูกถอนหมั้นเพราะนางไม่เคยพูดคุยกับบัณฑิตจางเมื่อไม่เคยพูดคุยก็ไม่รู้สึกผูกพันธ์
อวี๋ฟางเพียงแค่รำคาญเสียงซุบซิบนินทามากกว่าแต่ต่อไปนี้นางจะไม่ทน
ใครมาพูดให้นางได้ยินนางจะอัดให้น่วมเพราะน้องสาวบอกแล้วว่าอย่ายอมให้ใครมารังแกอีก นางเป็นพี่จะทำให้น้องสาวผิดหวังไม่ได้
