บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 บ่อหมื่นพิษ (1)

หลงกงเก๋อตัดสินใจแล้วว่าต้องไปเอาเหลียนป้านหลานในวันนี้เลยเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา และที่สำคัญ เขาจะได้ไปให้พ้นๆ หญิงโง่ที่ตามติดเขาแจเหมือนปลิงเกาะติดไม่ยอมปล่อย

“หากเจ้าจะเดินทางวันนี้ เห็นทีต้องพักในหุบเขา”

“ช่างประไร ข้าแค่อยากให้เสร็จเรื่อง จะได้กลับเถียเฉินเสียที”

“เจ้าเล่าหลันซวง? เจ้ายังเจ็บเท้ามิใช่หรือ เหลียนป้านหลานก็รอไว้ก่อนเป็นไรไป”

“ไม่เป็นไรท่านยาย ข้าไม่อยากให้สามีข้าเสียเวลามากนัก” ไช่หลันซวงลุกขึ้นท่าทางของนางดูคล่องแคล่วและสวมรองเท้าเก็บห่อผ้าสะพายไหล่ “ข้าพร้อมแล้วท่านพี่”

หลงกงเก๋อสะบัดหน้าและเดินกลับไปที่กระท่อมหลังเล็กเพื่อไปเอาห่อผ้าของตัวเองบ้าง หญิงชราเข้าไปในกระท่อมและกลับออกมาพร้อมกับของหลายอย่าง นางส่งของให้ไช่หลันซวง

“หมั่นโถ เก็บไว้กินกลางทาง”

“ขอบคุณท่านยาย ในห่อผ้าของข้าก็ยังมี” นางพูดพร้อมกับตบห่อผ้าเบาๆ แต่ก็ยังรับน้ำใจจากหญิงชรามา

“พวกเจ้าเดินไปทางตะวันออก ต้องผ่านบ่อหมื่นพิษ จงระวังให้มาก หลังจากนั้นเดินไปให้ถึงลำธาร ให้เดินตามลำธารไปสักพักจะพบดงเหลียนป้านหลาน แต่เจ้ารู้วิธีเก็บแล้วหรือ เหลียนป้านหลานบอบบาง อาจจะตายก่อนจะพาออกมา”

ไช่หลันซวงล้วงเข้าไปในห่อผ้า “ข้ามีนี่ท่านยาย” เป็นก้อนเท่าสองกำปั้น “เปลือกมะพร้าวหมัก ข้าจะเอาเหลียนป้านหลานมาปลูกลงในนี้ คงจะเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้”

“อย่าให้เสียเที่ยวก็พอ”

“รับรองท่านยาย ในเมื่อพบแล้ว ข้าต้องพากลับไปให้ได้ ท่านพ่อจะได้เลิกไล่ข้าออกจากบ้านไปทำเรื่องบ้าบอเสียที ท่านพ่ออยากได้เหลียนป้านหลานมานานมากแล้ว”

“ไปเถอะ จำไว้ จงระวังบ่อหมื่นพิษให้มาก” หญิงชราไม่วายกำชับ เพราะบ่อหมื่นพิษอันตรายมากจริงๆ และนางก็ไม่ไว้ใจหลงกงเก๋อมากนัก

“ขอบคุณท่านยาย” ไช่หลันซวงเข้าไปคล้องแขนหลงกงเก๋อและพาออกเดิน ยังหันมาโบกมือลาหญิงชรา

“ปล่อยมือของเจ้าเสีย แล้วอย่ามาเรียกข้าว่าท่านพี่หรือสามีของข้า” หลงกงเก๋อสะบัดแขนแรงๆ สองสามครั้งเพื่อให้นางปล่อยมือ

“แล้วท่านจะให้ข้าเรียกอย่างไร”

“คุณชายหลง”

“ไม่เอาหรอกท่านพี่” ไช่หลันซวงเอ่ยแล้วก็กระโดนโลดเต้นวิ่งนำหน้าหลงกงเก๋อไป

“หญิงโง่! ถ้าไม่เป็นเพราะเจ้า ข้าจะเดือดร้อนเช่นนี้หรือ”

“ถ้าท่านพี่เลิกเรียกข้าว่าหญิงโง่ได้ ข้าก็จะเปลี่ยนไปเรียกท่านอย่างอื่นเช่นกัน” ไช่หลันซวงหมุนกายมาพูดกับเขาและวิ่งไปอย่างร่าเริง อาภรณ์สีเขียวอ่อนช่างส่งให้ผิวขาวดูผ่องใส กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมา เป็นกลิ่นประจำกายนางที่หลงกงเก๋อจำได้เสียแล้ว ครั้งแรกที่พบนางก็เป็นกลิ่นนี้ นางไม่ได้ร่างผอมบาง แต่มีน้ำมีนวล สมส่วน อกอวบอิ่มของนางดูท่าจะเป็นจุดเด่นให้สายตาต้องวกกลับไปมองครั้งแล้วครั้งเล่า สองข้างแก้มแดงปลั่ง ริมฝีปากแดงจัด คิ้วเรียว ตากลมโต จมูกรั้นงามชวนมอง คางเรียว เครื่องหน้านางดูเหมาะเจาะกับเรือนร่างแสนจะเย้ายวนยิ่งนัก

“ท่านพี่ ข้าต้องไปทางใด” ไช่หลันซวงยืนอยู่ตรงทางแยก นางหันมาถามเขาเสียงไม่เบาเลย

หลงกงเก๋อขมวดคิ้ว เขาไม่ตอบนาง แต่ใช้วิชาตัวเบาพาตัวเองนำหน้านางไปเสียไกล ไช่หลันซวงจำต้องวิ่งตามเขาไป

หลงกงเก๋อเดินนำไปเงียบๆ ร่างสูงโปร่งเดินด้วยท่าทางสง่างาม ทำให้ไช่หลันซวงได้พิจารณาเขามากขึ้น คุณชายผู้นี้ดูเหมือนบัณฑิตมาจากสกุลสูง เขาคงผ่านการอบรมมาอย่างดี แต่ที่น่าแปลก เขากลับมีวิชาตัวเบาชั้นเยี่ยม รูปร่างหน้าตาเขาเหมือนคุณชายเจ้าสำอาง แต่เหตุใดเขาถึงฝึกฝนจนมีวิชาตัวเบาเยี่ยมยอดเช่นนี้ นางคาดว่าไม่ใช่แค่วิชาตัวเบาเท่านั้น คุณชายผู้นี้ต้องมีวรยุทธ์ร้ายกาจเช่นกัน แต่นางก็ไม่เห็นเขาพกพาอาวุธสักชิ้นนี่นา

“ท่านพี่แซ่หลงใช่หรือไม่” นางถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว

หลงกงเก๋อเลยไม่ตอบ ยังคงพาร่างสูงโปร่งสง่างามเดินไปด้วยฝีเท้ามั่นคงเช่นเดิม

“สกุลหลงเมืองเถียเฉินใช่หรือไม่ ข้าได้ยินท่านเอ่ยกับท่านยาย” ไช่หลันซวงเดินเกือบจะติดหลังเขา “ถ้าเช่นนั้น ท่านก็เป็นคุณชายสกุลหลงผู้โด่งดัง ท่านเป็นคุณชายลำดับที่เท่าไรหรือ”

หลงกงเก๋อไม่ตอบนางและยังคงมองตรงไปข้างหน้า ถือเสียว่าเสียงนางคือเสียงนก นกที่ไม่ยอมหยุดปาก จนเขารำคาญเหลือกำลัง

“บ้านข้าอยู่ที่เมืองอิ๋นกุ้ย ขาเป็นบุตรสาวผู้เดียวของสกุลไช่ บิดาข้าชื่อไช่เอ่อร์ชุน มารดาข้าชื่อไช่ไฉ่หง บ้านข้าทำสวนดอกไม้ และทำเครื่องหอมส่งในเมืองนั้น”

หลงกงเก๋อฟังบ้างไม่ฟังบ้าง และยังคงเดินต่อไป

“ฝีมือหมักสุราดอกท้อไม่มีใครเกินบิดาข้า ฝีมือทำขนม ไม่มีใครเกินมารดาข้า ฝีมือเพาะปลูกดอกไม้ก็ไม่มีใครเกินฝีมือข้า ฮ่าๆ ท่านพี่รู้หรือไม่ ข้าตัดต่อจนต้นไม้ต้นหนึ่งออกดอกได้ถึงสามสี ถ้าท่านได้ไปที่สวนดอกไม้สกุลไช่เมื่อใด ข้าจะพาท่านไปดูสวนเพาะเลี้ยงไม้ดอกของข้า”

“ข้าชอบกลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้มากนัก แต่ก็ชอบดอกอวี้หลันมากกว่า เสื้อผ้าของข้าถึงมีกลิ่นดอกอวี้หลันไงเล่า”

กลิ่นที่ติดเสื้อผ้านางคือกลิ่นดอกอวี้หลันนี่เอง เขาถึงว่า กลิ่นช่างแสนคุ้น เหตุใดเขาเพิ่งจะคิดออกนะ เพราะเรือนเขาก็มีดอกอวี้หลันมากมายที่ท่านแม่ของเขานำมาปลูกไว้ ยังตั้งชื่อเรือนส่วนตัวของเขาว่าเรือนอวี้หลัน

“แต่ที่สกุลไช่ก็มีดอกหอมหมื่นลี้มากมายกว่าครึ่งนะ เดิมทีดอกหอมหมื่นลี้ไม่ได้เติบโตที่เมืองอิ๋นกุ้ย แต่มีผู้เฒ่าคนหนึ่งเล่าว่ามีเศรษฐีผู้หนึ่งนำต้นมาจากทางใต้ เอามาปลูกและเติบโต ขยายไปทั่วทั้งเมืองอิ๋นกุ้ย บ้านข้าปลูกหอมหมื่นลี้ไว้มากมาย ส่วนมากจะเป็นดอกสีขาว เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่แสบจมูกนัก ยังมีดอกท้อ โบตั๋น อวี้หลัน แล้วก็อีกมากมาย ไว้ข้าจะพาไปชมสวนของข้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel