บทที่ 2 บ่อหมื่นพิษ (3)
หลงกงเก๋อสะบัดตัวและลุกขึ้นพรวดเดินเร็วๆ ออกไปจากถ้ำแห่งนั้น ใบหน้าเขาบึ้งตึง นัยน์ตาวาวแสงโกรธเคือง
“ท่านพี่ ท่านจะไปไหนเล่า” ไช่หลันซวงวิ่งตามออกมาที่หน้าปากถ้ำ แต่หลงกงเก๋อหายไปเสียแล้ว ขณะนั้นเริ่มจะมืดเต็มที นางก้มลงมองหน้าอกอวบอิ่ม “หรือข้าไม่มีเสน่ห์ของสตรีเลยนะ ท่านพ่อก็บอกเช่นนั้นบ่อยครั้งเสียด้วย” สองมือนางกุมหน้าอกตัวเอง “ก็มีมากมายอยู่ หรือท่านพี่ไม่ชอบ”
ไช่หลันซวงกลับไปใส่เสื้อแต่ไม่ได้ดึงสาบเสื้อปิด นางนั่งลงมองกองไฟ และเอาหมั่นโถที่หญิงชราให้มากัดกิน เมื่ออิ่มก็ห่อกลับวางที่เหลือไว้ข้างๆ ที่นอนของหลงกงเก๋อ ตัวนางล้มลงนอนฝั่งตรงข้าม สองแขนกอดอกพยายามคิดว่าจะปรนนิบัติหลงกงเก๋ออย่างไรดีเขาถึงจะพอใจ คิดไปคิดมาก็ไม่ได้ความ สับสนมึนงง จนกระทั่งเผลอหลับไป
หลงกงเก๋อกลับมาอีกครั้ง ผมเขายังคงเปียกชื้นเพราะไปอาบน้ำที่ลำธารมา สายตาเขาแทบจะไม่วกไปที่ไช่หลันซวง หญิงโง่ไร้ยางอายไม่ระวังตัวเสียเลย เขาเป็นบุรุษ นางเป็นสตรี ยิ่งอยู่เพียงลำพังเช่นนี้ ผู้ใดรู้เข้าจะเสียหายทั้งนางและเขา
“เฮอะ ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอกหญิงโง่ เปลื้องผ้าไปข้าก็ไม่สน”
หลงกงเก๋อเดินมานั่งที่ผ้าตัวเอง เช็ดผมไปพลาง บ่นไปพลาง เขาโยนห่อหมั่นโถกลับไปที่นาง และหาของตัวเองออกมากิน เป็นของง่ายๆ ที่พี่สะใภ้ทำไว้ให้เขากินระหว่างเดินทาง ดูสะอาดและน่ากินกว่าของท่านยายแห่งหุบเขาหมื่นลี้มากนัก
หลงกงเก๋อออกจากถ้ำไปล้างมือ ยกถุงหนังที่บรรจุน้ำขึ้นจิบเบาๆ สายตาเขาไม่มองไช่หลันซวงสักครั้ง จนกระทั่งนางตะแคงตัวมาทางเขานั่นแหละ สองข้างแก้มของคุณชายผู้หล่อเหลาสง่างามกลับแดงปลั่งเหมือนของสตรีไม่มีผิด เขาสำลักน้ำติดๆ กันอย่างหนักก่อนจะหันข้าง มองออกไปทางปากถ้ำ
“นางไม่อายข้าหรืออย่างไร สตรีเช่นนางผู้ใดจะเอาไปเป็นสะใภ้กัน” หลงกงเก๋อขยับกาย เริ่มอึดอัด ปราณเขาชักจะไม่มั่นคงเสียแล้ว
“ข้า... ข้าเห็นสตรีเปลือยเปล่ามามากแล้ว ข้าไม่ได้อาย... ข้า...” เขาชายตาไปมองนาง
ไช่หลันซวงขยับกายอีกครั้ง สาบเสื้อเปิดกว้างขึ้น เอี๊ยมของนางคลายตัว แล้วหลงกงเก๋อก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเขาเห็นเนินเนื้อสองทรวงพวยพุ่งออกมา เนื้อหนังขาวนวลตาตัดสียอดแดงจัด หลงกงเก๋อหันหลังขวับ สองมือกำชุดตัวเองแน่น
“หญิงโง่! ในแผ่นดินนี้จะมีผู้ใดเหมือนนางบ้าง” หลงกงเก๋อล้มตัวลงนอนหันหลังให้ สองแขนกอดอก ใบหน้ายุ่ง กรามบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน “นางช่างไม่รู้อันตรายจากบุรุษเสียเลย”
เหตุใดคุณชายเช่นเขาต้องมาทุกข์ยากถึงเพียงนี้ เป็นเพราะหญิงโง่ผู้นี้แน่ หากกลับเถียเฉินไปได้ เขาจะไม่ขอพบเจอกับนางอีก
“ไม่ ข้าไม่สนใจนางอีกแล้ว ข้าจะนอน ข้าต้องนอนให้หลับ” เปลือกตาปิดลงจนได้ แต่ยังกระวนกระวายอยู่พักใหญ่ๆ
ตกดึกหลงกงเก๋อต้องหันกายกลับมาเพราะรู้สึกถึงไออุ่นที่แนบอยู่ที่แผ่นหลังของเขา กองไฟมอดไปเกือบจะมองไม่เห็นถ่านแดงแล้ว
สองตาเขาเบิกกว้างอยู่ในความมืดเพราะมีร่างหนึ่งกำลังเบียดเข้ามา แขนข้างหนึ่งกอดลำตัวเขา ศีรษะกำลังขยับขึ้นมาซบลงที่ซอกคอเขา
“ออกไป!” หลงกงเก๋อยกศีรษะขึ้นมองในความมืดและเค้นเสียงลอดไรฟันออกไป แต่ร่างนั้นไม่ได้ขยับสักกระเบียดนิ้ว “ข้ามิใช่เพื่อนเล่นของเจ้า” ก็ยังคงไม่ได้ผล
“อือ” ไช่หลันซวงเหมือนตกอยู่ในห้วงนิทรา และไม่รับรู้ว่าร่างที่ตัวเองยึดเป็นหมอนข้างกำลังเดือดจัด “ข้าหนาวเหลือเกิน”
หลงกงเก๋อค่อยๆ ลดศีรษะลงและนอนหงายนิ่งให้นางกอดและซบได้ตามแต่ใจ ตัวเขานอนแข็งทื่อเหมือนดั่งหินผาไปนานแล้ว
มือเล็กๆ ของนางเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอกเขาและสอดเข้าไปในสาบเสื้อแพรพรรณเนื้อดี แน่นิ่งอยู่เช่นนั้นเหมือนว่านางกำลังหาไออุ่นจากอกเขาก็มิปาน
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้” หลงกงเก๋อหันหน้าไปอีกทาง พยายามข่มตาให้หลับ แต่กายอวบหยุ่นอุ่นกำลังดีข้างๆ ทำให้เขาไม่อาจตัดออกจากความคิดของเขาได้ นางจะรู้บ้างหรือไม่ว่าทำให้คุณชายหลงผู้นี้ร้อนดั่งไฟโลกันต์ รู้หรือไม่ว่านางกำลังทำให้บุรุษผู้งามสง่าเกือบจะเป็นยาจกไปเสียแล้ว หากวันใดเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ นางจะรู้หรือไม่ว่าภัยใดจะมาเยือนนาง
เช้ามาไช่หลันซวงค่อยๆ เปิดตาขึ้นแล้วก็พบว่าตัวเองนอนหนุนแขนของหลงกงเก๋อไว้ ริมฝีปากนางค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น ใบหน้างามเงยขึ้นไปมองปลายคางหลงกงเก๋อ เห็นเขายังคงนอนหลับตานิ่ง นางค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้น สองแขนยันพื้น ชะโงกหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลา คิ้วสวยดั่งกระบี่ จมูกเป็นสันตรง ริมฝีปากบางได้รู้สวย เครื่องหน้าคมคายดูดุดัน แต่แตกต่างกับท่าทีสุภาพอ่อนโยน แต่นางก็ได้เห็นเวลาเขาโกรธแล้วนี่นา เขาน่าสนใจยิ่งนัก ยิ่งทำให้นางอยากจะยั่วให้เขาโกรธ โกรธและก็โกรธขึ้นไปอีก
“ข้าเติบโตมาถึงขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นผู้ใดงดงามเช่นท่านมาก่อน สามีของข้า” ว่าแล้วนางก็ซบลงกับอกหลงกงเก๋ออีกครั้ง ใช้แขนโอบลำตัวเขาแน่น และตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจเสียหนักหนา
ใช่ว่าหลงกงเก๋อจะหลับเช่นที่นางคิด เพียงแค่เขาไม่อยากเห็นหน้านาง พยายามข่มกลั้นสุดกำลังจนกระทั่งนางกอดเขาจนพอใจและลุกขึ้นเดินออกไปที่หน้าปากถ้ำ เขาเลยดึงกายขึ้นนั่ง เร้นกายออกจากถ้ำไปที่ลำธาร และลงไปแช่น้ำทั้งที่ยังไม่ถอดอาภรณ์สักชิ้น
“ข้าแก้แค้นเจ้าแน่” พูดขณะที่นวดเบาๆ อยู่ที่แขนข้างที่นางใช้หนุนทั้งคืนจนเป็นเหน็บ “แขนข้าเจ็บถึงเพียงนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ให้สาสม กล้วยไม้พันธุ์พิลึกของเจ้าก็ไม่ต้องไปเก็บแล้ว”
หลงกงเก๋อกลับมาที่ถ้ำอีกครั้งพร้อมอาภรณ์ชุดใหม่หลังจากอาบน้ำ ชุดเดินเขาทิ้งไปแล้ว ไม่อยากเอาอาภรณ์ทั้งเปียกและสกปรกติดตัวไปด้วยให้รำคาญใจ
“ท่านพี่ ท่านอาบน้ำมาหรือ? อากาศหนาวเช่นนี้”
สายตานั้นชายมามองนาง ท่าทางเขาสงบสุขุมมากแล้ว “ข้าไม่สกปรกเหมือนเจ้า”
