บทที่ 1 สามีของข้า (5)
“ท่านพ่อกับท่านแม่ข้า หาว่าไม่มีแม่สื่อกล้ามาสู่ขอข้า คุณชายสกุลใดก็ไม่กล้ามาผูกสัมพันธ์กับข้า ท่านพ่อเลยไล่ข้าออกจากบ้าน ทั้งที่ข้าเป็นสตรีบอบบาง วรยุทธ์ก็ไม่เป็นสักกระบวนท่า ไหนจะสาวใช้ใกล้ชิดก็ไม่ให้ตามมาสักครึ่งคน ข้าเจ็บใจยิ่งนัก”
หญิงชราหัวเราะ “เจ้าคงทำเรื่องใดไว้ คุณชายในเมืองอิ๋นกุ้ยถึงไม่กล้าส่งแม่สื่อมาทาบทามเจ้ากระมัง”
“ข้าแค่ไปเผาร้านเครื่องหอมสกุลผิง เพราะคุณชายผิงผู้นั้นมองข้าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ข้าไม่ชอบ ข้าเกลียดคุณชายผิงอี้ชวนผู้นั้นมากนัก”
“เช่นนั้นเจ้าก็กลับบ้านไม่ได้”
“กลับได้ท่านยาย แต่ท่านพ่อบอกว่าถ้าจะกลับ ข้าต้องหาของอย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างกลับไปด้วย”
“สองอย่าง?”
ไช่หลันซวงถอนหายใจหนักๆ “อย่างแรกคือเหลียนป้านหลาน กล้วยไม้หายาก ผู้ใดจะหาพบเล่า” นางเผลอคลึงเท้าหนักมือจนต้องครางออกมาทีหนึ่ง
“แล้วของอีกอย่างคือสิ่งใด คงจะเป็นของหายากอีกกระมัง”
“ลูกเขย”
“ลูกเขย!” หญิงชราหัวเราะอีกพร้อมทั้งเคาะไม้เท้าในมือไปด้วย
“ใช่แล้วท่านยาย เพราะคุณชายในอิ๋นกุ้ยข้าไม่ชอบสักคน ท่านพ่อเลยให้ข้าไปหาเอาที่ข้าชอบ ถ้าพากลับเข้าบ้านได้ ข้าก็ไม่ต้องหาเหลียนป้านหลานแล้ว”
“บิดาเจ้าช่างเหลวไหลเหลือกำลัง”
“ข้าก็คิดเช่นนั้นท่านยาย แต่ข้าพบบุรุษที่จะพากลับบ้านแล้ว แต่คุณชายท่านนั้นไม่รู้ว่าหายไปไหน ข้านั่งรออยู่ที่บ่อน้ำพุตั้งนาน ตั้งใจจะออกตามหาแต่มาพบกับท่านยายเสียก่อน”
“ท่านยาย”
เสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา สตรีต่างวัยหันไปพร้อมกัน เห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนหน้ายุ่งอยู่ไม่ห่าง อาภรณ์ชุดใหม่ยังคงไร้รอยยับ เป็นแพรพรรณชั้นเยี่ยมที่สุด ผมถูกรวบไว้ครึ่งหนึ่ง ผูกด้วยแถบผ้าสีขาวเข้ากับเสื้อคลุม สองแขนไพล่หลัง ตาเชียบคมมองมาที่หญิงชรา
“สามีของข้า! ท่านรู้จักท่านยายหรือ” ไช่หลันซวงไม่ได้พูดเปล่า แต่นางตรงปรี่ไปกอดคอหลงกงเก๋อไว้ กระโดดโลดเต้นจนลืมเรื่องบาดเจ็บอีกแล้ว
หลงกงเก๋อขมวดคิ้วและออกแรงผลัก แต่หญิงโง่ทำให้เขาหัวเสียด้วยการซบศีรษะลงกับอกเขา หญิงชรามองภาพนั้นแล้วก็ต้องหัวเราะเสียงดังพร้อมทั้งเคาะไม้เท้าในมือไปด้วย
“เจ้ารู้จักกันหรอกหรือ”
“ใช่แล้วท่านยาย นี่ไงสามีของข้า ก่อนออกจากบ้านข้าลั่นวาจากับท่านพ่อไว้ว่าหากพบเจอบุรุษผู้ใดเป็นคนแรก ข้าจะพากลับไปเป็นเขย แล้วนี่ ข้าเจอสามีของข้าแล้ว เขาช่วยข้าไว้ ข้าช่างโชคดีนักที่สามีข้าช่างหล่อเหลาถึงเพียงนี้”
นางไม่ได้พูดเปล่าแต่หลังมือน้อยๆ นั้นตบปึกๆ ลงไปที่แผ่นอกของหลงกงเก๋อด้วย เขาได้แค่ข่มอารมณ์ สะกดกลั้นสุดกำลังเพื่อไม่ให้ทำรุนแรงกับหญิงโง่ไป
“ออกไปให้พ้นข้า หญิงโง่สกปรก ตัวเหม็น เจ้าสุกรตัวเมีย”
“ข้าอาบน้ำแล้ว ท่านดมดูเสียสิ” นางยื่นแขนไปให้ตรงจมูกของหลงกงเก๋อ เขาสะบัดหน้าและเดินไปหาหญิงชรา และล้วงเอาผ้าขาวสะอาดผืนเล็กออกมาจากอกเสื้อ เช็ดตั่งและนั่งลง ก่อนจะลงมือเช็ดจอกชา กาน้ำชาด้วยผ้าอีกผืนหนึ่ง ยังลามไปถึงจอกชาในมือหญิงชราด้วย
“เจ้าเด็กบ้า!” หญิงชราร้องขึ้นท่าทางไม่พอใจ
“จอกชาบ้านท่านเก่าและสกปรกยิ่งนัก ไว้ถ้าข้ามาอีกจะหากาน้ำชาและจอกชาชุดใหม่มาให้ท่าน” หลงกงเก๋อส่ายหน้าขณะที่พูด
“ไม่ต้อง! ข้าคนป่า จะใช้ของสวยงามไปเพื่อสิ่งใดกัน คนสกุลหลงอย่างเจ้าไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น”
หลงกงเก๋อถอนหายใจหนักๆ ทีหนึ่งแล้วก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อไช่หลันซวงเดินมานั่งเบียดตัวอยู่ข้างเขา และยังกอดแขนเขา ศีรษะซบลงกันไหล่เขา
“ออกไป!”
“เอานา สามีของข้า ไหล่ท่านแข็งแรงและอุ่นนัก ข้าขออยู่เช่นนี้สักพัก” นางหลับตาลงแต่ริมฝีปากแดงจัดกลับยิ้มกว้าง
หลงกงเก๋อใช้นิ้วจิ้มลงที่หน้าผากนางและออกแรงผลักจนนางหน้าหงาย “อย่ามาถูกตัวข้าอีก ข้ารังเกียจ!”
“เจ้าบ้า!” หญิงชราเคาะศีรษะเขาด้วยไม้เท้า
หลงกงเก๋อปัดเศษดินออกจากศีรษะและไหล่ “ไม้เท้าของท่านก็ยิ่งกว่า เอาไว้ข้าจะสั่งทำไม้เท้าหยกให้ท่าน จะฝังมุกสักร้อยเม็ด”
“ข้าไม่ต้องการ! เจ้าอายุยี่สิบสองแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ อะไรก็ดีหมดหรอก ยกเว้นเรื่องความสะอาดบ้าบอของเจ้า พวกพี่ชายเจ้าเรียกว่าอะไรนะ ข้าเคยได้ยินมาครั้งหนึ่ง... เจ้าเซียนชำระล้างใช่หรือไม่ ข้าว่าเหมาะกับเจ้าดีแท้”
