บทที่ 1 สามีของข้า (2)
“หญิงโง่ผู้ใด? ข้าอยากจะรู้จักนางเสียแล้ว” หลงเฟิงอี้ยิ้ม แต่หลงกงเก๋อสะบัดหน้าลงไปล้างตัวในถังน้ำอุ่นใบใหญ่
“คอยดูเถอะ ข้าเอาคืนนางแน่”
เสียงนั้นดังออกมา หลงเฟิงอี้ได้แต่เลิกคิ้ว มุมปากยกยิ้มและก็ออกไปจากห้อง ยังคงได้ยินเสียงน้อยชายบ่นอะไรอีกมากมายที่เขาจับใจความไม่ได้
หลงกงเก๋ออยู่ที่ฉางซูต่ออีกหนึ่งเดือนเพื่อรอให้หิมะหยุด เหมันตฤดูผ่านไป อากาศเริ่มอุ่นขึ้น หลงเฟิงอี้ยุ่งอยู่กับงาน หากเขาจะไปหุบเขาหมื่นลี้ด้วยตัวเองก็ได้ แต่เขาคิดว่าให้น้องชายไปจะดีกว่า เขามีลางสังหรณ์บางอย่างว่าเจ้าเซียนชำระล้างจะถูกถีบส่งออกจากสกุลหลงเหมือนเขาในอีกไม่นานนี้แล้ว ด้วยฝีเท้าของหลงเฮ่าเทียนพี่ชายคนโต
“อากาศอุ่นขึ้นแล้ว เจ้าก็เร่งเดินทางไปหุบเขาหมื่นลี้เสีย”
“ข้าจะฝากของไปให้ท่านยายด้วย”
หลงกงเก๋อมองพี่ชายและพี่สะใภ้สลับกัน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลานั้นติดจะบึ้งตึง อาภรณ์สีขาว เสื้อคลุมสีเดียวกัน สาบเสื้อเป็นสีเหลืองอ่อนเดินด้ายปักลายงามตา เป็นแพรพรรณชั้นเยี่ยมที่มีในร้านผ้าของสกุลหลง ไม่มีแม้รอยยับหรือรอยเปื้อน เขาหยุดมือที่เช็ดจอกชาให้พี่สะใภ้ รินชาร้อนลงไปและส่งไปให้นาง เกาเจินเจินรับไปจิบอึกหนึ่ง
“ข้าไปให้พวกท่านแน่ เพียงแค่ให้แน่ใจว่าข้าจะไม่ไปพบเจอหิมะอีก ข้าไม่ชอบ พี่รอง ท่านก็รู้”
“หิมะละลาย อากาศก็อุ่นขึ้นแล้ว หรือเจ้ายังแค้นใจสตรีผู้นั้นอยู่”
“ข้าแค้นแน่ หากพบนางอีกข้าจะพาไปทิ้งที่บ่อพิษกลางหุบเขาหมื่นลี้”
“สตรีผู้นั้นเป็นคุณหนูสกุลใดหรือ?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร นางกลิ้งตกลงมาจากเขาสูง คุณหนูสกุลใดทำเช่นนั้นหรือ สตรีเช่นนั้นผู้ใดจะกล้าส่งแม่สื่อไปสู่ขอเล่า”
“นางอาจจะเดือดร้อนมาก็เป็นได้ เจ้าไม่ได้ถามนางหรอกหรือ” หลงเฟิงอี้นั่งลงข้าง ภรรยาและโอบเอวไว้หลวมๆ
“ข้าโกรธ”
“บุรุษเช่นเจ้าทิ้งสตรีกลางหิมะเพียงลำพัง พี่ใหญ่รู้เข้าจะเคืองเจ้ามากแค่ไหนรู้หรือไม่ บุรุษสกุลหลงไม่ควรเมินเฉยต่อผู้ตกทุกข์ พี่ใหญ่พร่ำเตือนและสอนมาตลอด”
“ข้าโกรธ”
“โกรธก็ส่วนโกรธ เจ้าเซียนชำระล้าง จงจำใส่ใจเจ้าไว้ หากพบเจอคุณหนูผู้นั้นอีกครั้งก็อย่าได้แค้นเคืองนาง เจ้าไม่รู้ว่านางเป็นผู้ใดมาจากไหน เจ้าจะตัดสินนางเพียงเพราะนางกลิ้งตกเขามาทับเจ้าเช่นนั้นหรือ”
“พรุ่งนี้ข้าจะเดินทาง เสร็จเรื่องแล้วข้าจะรีบกลับเถียเฉิน” หลงกงเก๋อเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากเอ่ยถึงหญิงโง่ผู้นั้นอีก
“ก็ดี ข้าได้ยินพี่ใหญ่เอ่ยอยู่ว่าเจ้าควรออกเรือนได้แล้ว กลับไปคงจะให้แม่สื่อเอาภาพวาดสาวงามมาให้เจ้าดู คุณหนูสกุลใดพอจะถูกใจเจ้า พี่ใหญ่จะให้แม่สื่อเร่งเจรจา จะเตรียมถีบเจ้าออกจากสกุลหลงเช่นที่ทำกับข้า”
“พี่ใหญ่ร้ายนัก ข้าจะไม่แต่งคุณหนูสกุลใดทั้งนั้น”
“ผู้ใดเคยขัดใจพี่ใหญ่ได้ เจ้าเอ่ยมาให้ข้าฟังสักหน่อย”
“ไม่มี... พี่สะใภ้กระมัง”
“นั่นแหละ แต่คราวนี้พี่สะใภ้ขัดใจพี่ใหญ่ไม่ได้ เจ้าไม่รอดแน่ นอกเสียจากเจ้าจะหาสตรีที่ชอบให้ทันก่อนที่พี่ใหญ่จะเรียกแม่สื่อมา”
“ยุ่งยาก”
“ฮ่าๆ เจ้าเซียนชำระล้างเอ๋ย ถึงคราวข้าบ้างแล้ว”
“ข้าไปทำสิ่งใดให้ท่าน ไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ใหญ่และข้าหรอกหรือ พวกท่านถึงรักกันได้”
“ไม่จำเป็นต้องมีเจ้า ข้ากับอาเจินก็รักกันได้”
“ถ้าเช่นนั้น มีเรื่องใดก็อย่าให้ข้าต้องเดือดร้อนอยู่เช่นนี้สิ ท่านควรไปหาท่านยายเอง ไม่ใช่ข้า ข้าไม่ได้อยากมีลูกเสียหน่อย”
“เจ้ารับปากแล้ว ทำให้เสร็จสิ้นเสีย”
“ก็เป็นเช่นนี้ ข้าเป็นน้อง ข้าต้องทำตามคำสั่งท่าน ข้าอยากเป็นพี่ใหญ่เสียจริง” หลงกงเก๋อบ่นขณะที่เริ่มดึงผ้าออกมาจากอกเสื้อ เช็ดโต๊ะจนมันวาว ยิ่งอารมณ์เสียยิ่งเช็ด พอโต๊ะสะอาดก็เปลี่ยนผ้า คว้ากาน้ำชามาเช็ด ทั้งที่มันยังคงร้อนอยู่มาก
หลงเฟิงอี้กับเกาเจินเจินมองหน้ากันและส่ายหน้าให้กัน พลางคิดว่านิสัยชำระล้างของเจ้าหลงกงเก๋อผู้นี้ท่าทางจะแก้ไม่หายเสียแล้ว แม้แต่ของในเรือน เจ้าเซียนชำระล้างก็เช็ดจนขึ้นเงา พวกสาวใช้แทบไม่ได้แตะต้องสิ่งใดเลย นั่นเพราะถูกแย่งงานไปทำเสียหมดแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นหลงกงเก๋อออกเดินทางกับรถม้าที่พี่ชายเตรียมไว้ให้ เกาเจินเจินฝากของไปให้ท่านยายแห่งหุบเขาหมื่นลี้อีกห่อใหญ่ที่คิดว่าไม่เป็นภาระกับหลงกงเก๋อมากนัก จะให้ฉิงซูกับฉิงคุณ คนสนิทของหลงเฟิงอี้ตามไปด้วยเขาก็ไม่ยอม
รถม้าวิ่งผ่านถนนนอกเมืองได้สะดวกกว่าเดือนที่แล้ว หิมะละลายก็จริง แต่มันก็ทิ้งความเปียกชื้นและโคลนตมไว้ สกปรกเสียยิ่งกว่าหิมะอีก เหตุใดเขาลืมคิดไปเสียได้ หลงกงเก๋อเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงหุบเขาหมื่นลี้ แทบจะไม่อยากก้าวเท้าออกจากรถม้าเลยด้วยซ้ำ
“ข้าไม่น่ารับปากส่งเดช พี่รอง ข้าเกลียดท่านยิ่งนัก”
คนขับรถได้ยินเสียงหลงกงเก๋อบ่นพำไปตลอดทาง และพยายามบังคับม้าให้พาไปอย่างระมัดระวังที่สุดเพราะไม่อยากไปเสียเที่ยวเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว
ถึงเชิงเขาทางเข้าหุบเขาหมื่นลี้ หลงกงเก๋อออกจากรถม้ามาพร้อมกับห่อผ้าของฝากและอีกห่อคือเสื้อผ้าของเขา รองเท้าแตะพื้นลงไปแล้วก็แทบชักเท้ากลับ เขาเป่าลมออกจากปากและเตะเท้าใช้วิชาตัวเบาพาร่างหายลับไปยังหุบเขาสลับซับซ้อน
ลมเย็นปะทะผิวหน้า ผมยาวลู่ลม อาภรณ์สลัดพลิ้วไหว ท่วงท่าสง่างาม แต่เขาต้องชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งแว่วมา หลงกงก๋อเตะเท้าลงกับก้อนหินใหญ่ มองไปยังส่วนที่ต่ำลงไป เขาเห็นห่อผ้าและได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
