บทที่ 1 สามีของข้า (1)
รถม้าคันหนึ่งวิ่งผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนในช่วงเหมันตฤดู เส้นทางดูเปล่าเปลี่ยว การสัญจรของชาวบ้านดูเบาบางลง คนขับรถม้าใช้แส้ม้าตีเบาๆ ที่สะโพกอวบแน่น ม้าวิ่งไปเร็วขึ้นแต่บางขณะก็ต้องผ่อนฝีเท้าลงเพราะแทบจะมองทางไม่เห็น
หลงกงเก๋อ คุณชายสามของสกุลหลงแห่งเมืองเถียเฉิน กำลังมุงหน้าไปยังหุบเขาหมื่นลี้ หุบเขาที่ชาวบ้านธรรมดาไม่สามารถเข้าไปถึงใจกลางหุบเขาอันสลับสับซ้อน เนื่องจากไม่มีผู้ใดเข้าไปและออกมาได้สำเร็จมาก่อน ไม่หลง ก็โดนพิษจนตาย มีอันตรายมากมายที่รอผู้บุกรุกเข้าไป แต่มีหนึ่งหญิงชราที่อาศัยอยู่ที่นั่น ดำรงชีพเพียงลำพังผู้เดียว ตัดทางโลกภายนอกมาเป็นเวลาถึงยี่สิบปีแล้ว
พี่น้องสกุลหลงมาพบเข้าโดยบังเอิญขณะที่ฝากความหวังไว้กับบ่อน้ำพุร้อนที่จะช่วยขับพิษได้ ว่ากันว่าบ่อน้ำพุ ศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในหุบเขาหมื่นลี้แห่งนี้ แต่ก็เป็นแค่คำเล่าขานเลื่อนลอย นั่นเพราะไม่เคยมีผู้พบเห็น แต่ปฏิหาริย์ก็บังเกิด เมื่อพี่น้องสกุลหลงหาบ่อน้ำพุร้อนจนพบและได้เจอหญิงชราที่รู้วิชาแพทย์ ทั้งยาสมุนไพรมากมาย มารู้เอาภายหลังว่าในอดีตนางเคยเป็นคนของพรรค์ฝ่ายอธรรม มียาดีเป็นต้นตำรับของสกุล แต่นางทำลายทิ้งเพราะพิษย้อนกลับมาคร่าชีวิตคนในครอบครัวนาง
หลงกงเก๋อรับภาระมาหาหญิงชราในครั้งนี้เพราะพี่ชายคนรองหลงเฟิงอี้ ที่แยกตัวมาอยู่เมืองฉางซูไหว้วานให้มาถาม ว่าเหตุใดพี่สะใภ้เขาถึงไม่ตั้งครรภ์เสียที หรืออาจเป็นเพราะยาที่ท่านยายผู้นี้เคยให้นางกินขณะที่มารักษาตัวอยู่กับนางเป็นเวลาแรมเดือน
ครืด!
รถม้าที่กำลังอาศัยอยู่นั้นสั่นไหวและหยุดลง เสียงคนขับร้องเบาๆ หลงกงเก๋อขมวดคิ้วขณะที่ใช้ผ้าเช็ดชาที่กระเซ็นออกมาเลอะบนโต๊ะตัวเล็ก เขาลุกขึ้นและเปิดประตูรถม้าออกไป
“เกิดเหตุใดขึ้น?”
“ก้อนหินขอรับคุณชาย เหตุใดถึงมาอยู่กลางถนนเช่นนี้ได้”
หลงกงเก๋อลงจากรถม้าไปก้มดูที่ล้อรถ มีหินใหญ่ก้อนหนึ่งกำลังขัดล้อเอาไว้ เพราะหิมะตกปกคลุมเลยไม่ทันสังเกตว่าเป็นก้อนหิน คนขับบังคับม้าและหลบให้พ้นก้อนหินนั้น หลงกงเก๋อรวบชายชุดและเสื้อคลุมตัวหนายกสูงเพื่อให้พ้นหิมะ หัวคิ้วขมวดมุ่นเมื่อเห็นรองเท้าเปื้อนหิมะไปแล้วกว่าครึ่ง ยังไม่ทันจะกลับเข้าไปในรถม้าก็มีสิ่งหนึ่งจากบนเขากลิ้งลงมา
ขลุกขลัก!
เสียงกลิ้งพร้อมเสียงร้องแหลมยาว แน่นอน เสียงนั้นเป็นเสียงสตรี แม้หลงกงเก๋อจะเป็นวรยุทธ์ วิชาตัวเบาก็เป็นเลิศ แต่เขากำลังอึ้ง ภาพที่เห็นไม่น่าจะเป็นสตรีเลย
ผลัก!
ร่างที่กลิ้งลงมาจากบนเขาฟาดลงมาทับหลงกงเก๋อ พาให้ร่างสูงโปร่งล้มหงายหลังตึง แต่เพราะล้มลงไปบนหิมะเลยไม่เจ็บ ทว่าหลงกงเก๋อกำลังสั่น ที่สั่นไม่ใช่เพราะหนาว แต่เพราะกำลังโกรธ สองมือกำเข้าหากันแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยว พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดโพล่งออกไป
คนขับรถม้าเห็นดังนั้นแล้วแทบจะวิ่งหนีไปเสียให้ไกล คุณชายสามสกุลหลงผู้นี้รักสะอาดเป็นที่สุด แต่สภาพเวลานี้ เสื้อผ้าเปื้อนหิมะผสมโคลนดำๆ จากสตรีที่กลิ้งลงมาจากบนเขา ผมเฝ้าที่สางจนเรียบลื่นทุกวัน บัดนี้กระจายยุ่งชื้น พันกันมั่วไปหมด แล้วเช่นนี้จะให้มองหน้าคุณชายสามผู้นี้นิ่งๆ ได้เช่นไร จะเข้าไปช่วยก็กลัว จะยืนมองเฉยๆ ก็ไม่ได้อีก ได้แต่หันซ้ายหันขวาทำสิ่งใดไม่ถูกอยู่เช่นนั้น
ร่างสตรีผู้นั้นยังคงแน่นิ่งจนหลงกงเก๋อเริ่มจะทนไม่ไหว สองมือเรียวขาวแต่ใหญ่และทรงพลังคว้าไหล่นางดันออก สองตากลมโตกำลังจ้องเขาแทบไม่กระพริบ ใบหน้านั้นขาวซีดแต่จมูกและแก้มแดงจัด ริมฝีปากสั่น ก่อนจะหลุดคำแรกออกมาทำให้เขาตกใจไม่น้อย “สามีของข้า”
หลงกงเก๋อเองก็เบิกตากว้างจ้องนาง ก่อนจะหลุดเสียงดังตะโกนใส่หน้านางกลับไป “หญิงโง่!”
หลงกงเก๋อสะบัดนางและลุกขึ้น “กลับฉางซู!” ร้องสั่งคนขับแล้วก็ก้าวยาวๆ สวบสาบขึ้นรถม้าไป ไม่สนใจเสื้อผ้าตัวเองแล้ว เพราะมันหาดูดีไม่ได้ด้วยน้ำมือหญิงโง่ที่เรียกเขาว่า ‘สามีของข้า’ สตรีหน้าด้าน ไร้ยางอาย น่าเจ็บใจนัก
คนขับรีบเข้าประจำที่และพาม้าหันหลังกลับทางเดิม ยังทันได้ยินเสียงปาข้าวของภายในรถม้า แน่นอนว่าคุณชายสามกำลังโกรธเสียแล้ว พอหันไปมองหญิงผู้นั้น กลับเห็นนางเพียงแค่ส่งยิ้มมาให้และยังคงยืนอยู่กลางถนนหิมะ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวมอมแมม
“ข้าไม่น่ามาเลย บ้าสิ้นดี ไม่ใช่เรื่องเดือดร้อนของข้าสักหน่อย”
หลงกงเก๋อบ่นไปตลอดทางจนกลับเข้าสกุลหลงแห่งฉางซู คฤหาสน์ข้างคอกปศุสัตว์ของหลงเฟิงอี้ พี่ชายคนรองของเขา พ่อบ้านกวงเร่งต้อนรับและพาเข้าเรือน ส่งเสียงร้องให้บ่าวในเรือนขนเอาน้ำอุ่นมาใส่ถังเพื่อให้หลงกงเก๋อชำระคราบสกปรก ไม่มีใครกล้าถามเพราะใบหน้าบูดบึ้งยุ่งเหยิงนั้น จนกระทั่งหลงเฟิงอี้สลัดเตียงพร้อมภรรยาตรงมาหาน้องชาย เมื่อก้าวเข้ามาเห็นสภาพของน้องชายแล้วเขาก็อดใจไว้ไม่อยู่ จนหลุดหัวเราะออกไป
“ผู้ใดทำเจ้าเช่นนั้น”
“พี่รอง! ข้าไม่อารมณ์ดีเช่นท่านหรอกนะ”
“เจ้าออกเดินทางไปได้ไม่ถึงครึ่งวัน แสดงว่ายังไม่ได้เข้าไปหุบเขาหมื่นลี้ เหตุใดถึงรีบกลับมานัก”
“หญิงโง่ผู้หนึ่งทำให้ข้าเป็นเช่นนี้ รอให้ข้าอารมณ์ดี ข้าถึงจะไปหาท่านยายให้พวกท่าน รอไปก่อนเถอะ” เขาบอกพี่ชายขณะที่ถอดเสื้อผ้าเกือบจะหมดแล้ว “ข้าจะแก้แค้นนางแน่ หญิงโง่ไร้ยางอาย”
