บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 เด็กสาวผู้อาภัพ

บทที่ 1

เด็กสาวผู้อาภัพ

บ้านหลังใหญ่ตระกูลซ่งตอนนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายอันเนื่องมาจากภรรยาของลูกชายคนที่สามอย่าง ‘ซ่งหลิงอัน’ ที่กำลังตั้งครรภ์ได้เก้าเดือนนั้นเกิดอาการเจ็บครรภ์อย่างรุนแรง จนขนาดว่าตัวเธอแทบจะหมดสติอยู่รอมร่อ

“หลิงอัน อย่าเพิ่งหลับนะคะ!”

“นี่! หมอมารึยัง! หลิงอันจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”

เป็นเสียงของเพื่อนบ้านที่มาช่วยดูแลซ่งหลิงอันอย่าง ‘เจียอี’ ที่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ชุบน้ำหมาด ๆ ซับบนใบหน้าของผู้เป็นเพื่อนบ้านอยู่ วันนี้สามีของเธอออกไปทำธุระตั้งแต่เช้า ภายในบ้านเหลือเพียงแค่เธอและคนอื่น ๆ เพียงเท่านั้น แต่ไม่มีใครสนใจเธอ จนเพื่อนบ้านอย่างเจียอีต้องมาช่วยดูแล

เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลยทำให้ทุกคนในบ้านต่างวิตกกังวลกันไปหมดแต่ไม่คิดจะทำอะไร เจียอีเองก็กระวนกระวายมากเช่นกัน

ไม่นานเสียงใครสักคนก็ตะโกนว่าหมอตำแยมาถึงแล้วก็ดังขึ้น เจียอีจึงบีบมือของซ่งหลิงอันเบา ๆ เป็นการเรียกให้หญิงสาวที่เจ็บครรภ์ใกล้คลอดได้สติมากขึ้น

“หลิงอันคะ หมอมาแล้วนะ ลืมตาหน่อยนะ”

หมอตำแยเดินเข้ามาภายในห้องนอนของซ่งหลิงอัน ไม่นานความวุ่นวายปรากฏขึ้น พร้อมกับเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดที่ดังออกมาจากปากของหลิงอัน ทางด้านเจียอีก็พยายามซับเหงื่อให้กับเพื่อนและป้อนน้ำให้ดื่มอย่างต่อเนื่อง

“หัวเด็กออกมาแล้ว! หลิงอันออกแรงเบ่งอีกนิดนะ”

ซ่งหลิงอันที่ได้ยินดังนั้นก็รีบรวบรวมแรงแล้วเบ่งออกมาอีกรอบ ไม่นานเสียงสัญญาณของชีวิตใหม่ก็บังเกิดขึ้น

“อุแว้ ๆ อุแว้ ๆ” เสียงเด็กทารกร้องออกมาดังทั่วห้อง เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าทารกน้อยมีร่างกายที่แข็งแรงและมีชีวิตอยู่

“เป็นผู้หญิงนะ” เจียอีบอกกับซ่งหลิงอันที่กำลังมองหาลูกของตน

ตอนนี้หมอตำแยกำลังนำร่างของเด็กทารกไปทำความสะอาด ล้างคราบโลหิตที่ติดตามตัวและดูดสารคัดหลั่งออก ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเด็กที่ถูกห่ออยู่ในผ้าสีขาวบริสุทธิ์ จากนั้นก็ยื่นเด็กทารกให้กับซ่งหลิงอันที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่ แม้ใบหน้าของหญิงสาวจะแฝงไปด้วยความอ่อนล้า แต่เธอก็โอบอุ้มทารกน้อยด้วยความรักใคร่อย่างเต็มเปี่ยม

“หนูน้อยหน้าตาคล้ายเธอมากเลยนะหลิงอัน”

เจียอีเอ่ยออกมาในขณะที่ชะโงกหน้ามองดูเด็กทารกในอ้อมอกของเพื่อน ซ่งหลิงอันยิ้มออกมาอย่างสุขใจ เมื่อเห็นใบหน้าของบุตรสาวตัวเล็ก เธอพยักหน้าเบา ๆ อย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเจียอี

“ลูกหน้าตาคล้ายฉันกับพี่อี๋นั่วจริง ๆ …”

‘ซ่งอี๋นั่ว’ หรือลูกชายคนที่สามแห่งตระกูลซ่ง เขาคือสามีของเธอและเป็นพ่อของเด็กคนนี้ด้วย ซ่งหลิงอันขยับร่างกายจัดท่าทางให้เด็กน้อยนอนข้างกายของเธอ ดวงตาของเธอดูปรือราวกับคนง่วงนอน

“ถ้าพี่อี๋นั่วกลับมาเมื่อไหร่ รบกวนปลุกฉันด้วยนะ…”

ซ่งหลิงอันเอ่ยบอกกับเจียอีที่ยืนอยู่ข้างกาย เพื่อนคนสนิทพยักหน้าเป็นการรับทราบ เธอมองเพื่อนและคุณหนูน้อยที่นอนหลับอยู่ข้างกันพลางคิดว่าช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่นใจจริง ๆ

รอไม่นานก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมาภายในบ้าน คนที่วิ่งมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ ‘ซ่งอี๋นั่ว’ ที่ขณะนี้กำลังเร่งรีบเดินเข้าไปในบ้าน เพราะข่าวที่เขาเพิ่งได้รับว่าภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ได้คลอดบุตรแล้วนั้น ทำให้จิตใจของเขาสั่นระรัวราวกับได้ยินว่าเจอขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่

“หลิงอัน…” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อภรรยาด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขาหลุบตามองดูเด็กน้อยเพศหญิงในผ้าอ้อมสีขาวบริสุทธิ์ นิ้วมือของชายหนุ่มแตะลงบนผิวของเด็กน้อย ใบหน้าของเขาแต้มรอยยิ้มแห่งความสุข

“ซ่งอวี้จิน…นี่คือชื่อของลูก…”

สี่ปีต่อมา

ซ่งอวี้จินเติบโตมาด้วยความรักจากทั้งพ่อและแม่ แม้จะเป็นบุตรสาวในครอบครัวคนจีนที่ส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจกับบุตรชายมากกว่า แต่ทั้งซ่งอี๋นั่วและซ่งหลิงอันก็ไม่ได้แยแสเรื่องพวกนั้นเลยสักนิด…

ซ่งอวี้จินในวัยสี่ขวบกำลังนั่งถือช้อนที่เล็กพอที่อุ้งมือน้อย ๆ จะกำได้ บนโต๊ะอาหารมีซ่งอี๋นั่วและซ่งหลิงอันกำลังทานอาหารเช้าอยู่อย่างสงบสุข จนกระทั่งเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นดังขึ้นพร้อมกับปรากฏร่างของซ่งไป๋อิ๋น พี่สาวของซ่งอี๋นั่วเดินมาที่โต๊ะเพื่อกินข้าวด้วย

ไม่ทันที่จะได้เริ่มทานอาหาร ซ่งไป๋อิ๋นก็เปิดบทสนทนากับน้องชายของตนเองทันที

“ปีนี้อาจินก็อายุสี่ขวบแล้ว เมื่อไหร่แกจะมีลูกเพิ่มล่ะ”

คำถามนี้ทำให้ซ่งอี๋นั่ววางตะเกียบลงกับโต๊ะทันที เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับคำถามเช่นนี้เต็มทน ไม่รู้ว่าพี่สาวของเขาเป็นอะไร ถึงชอบมาจัดแจงวุ่นวายกับชีวิตของตนเสียจริง

“หลิงอันร่างกายไม่ค่อยดีครับ หมอบอกว่าไม่สามารถมีลูกได้แล้ว”

ซ่งอี๋นั่วตอบกลับแล้วหันหลังเดินออกจากห้องอาหารไปทันที ฝ่าย ซ่งหลิงอันเองก็อุ้มซ่งอวี้จินออกไปเช่นกัน ทิ้งซ่งไป๋อิ๋นให้นั่งอยู่คนเดียวในห้องอาหาร

วันเวลาผ่านพ้นไป...

เวลานี้ซ่งอวี้จินอายุได้ห้าปีแล้ว วันนี้ซ่งอี๋นั่ววางแผนจัดงานวันเกิดให้กับบุตรสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจ บ้านตระกูลซ่งเต็มไปด้วยของประดับตกแต่งมากมายจากฝีมือของสามีภรรยาคู่นี้

“อวี้จิน สุขสันต์วันเกิด~ !” ซ่งอี๋นั่วและซ่งหลิงอันประสานเสียงกัน

เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มออกมาอย่างร่าเริง มือป้อมเล็กประกบตบแปะ ๆ ด้วยความดีใจ งานวันเกิดปีที่ห้าผ่านไปด้วยดี

แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขกลับผ่านไปเร็วราวกับใบไม้ที่ร่วงโรยตามกาลเวลา หลังจากงานวันเกิดปีที่ห้าของซ่งอวี้จินผ่านไปได้ไม่กี่เดือน ซ่งอี๋นั่วและซ่งหลิงอันก็ล้มป่วยลงเนื่องจากโรคระบาด ซ่งไป๋อิ๋นเองก็พยายามหาหมอฝีมือดีมารักษาน้องชายและน้องสะใภ้แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยื้ออย่างไรคนจะจากไปก็ต้องไปอยู่ดี

สุดท้ายแล้วซ่งอี๋นั่วและซ่งหลิงอันจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ทิ้งบุตรสาววัยห้าขวบไว้ ปล่อยให้เผชิญชะตากรรมของโลกที่โหดร้ายเพียงลำพัง…

อีกทั้งประเทศเข้ายุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง ตระกูลซ่งที่เลือกข้างผิด จึงทำให้ถูกยึดทรัพย์ ยิ่งทำให้ตระกูลซ่งที่เคยยิ่งใหญ่ย่ำแย่ลง ทุกคนจะต้องไปทำงานที่คอมมูนเพื่อหาเลี้ยงชีพ

ซ่งอวี้จินเติบโตมากับญาติผู้ใหญ่ตระกูลซ่ง แม้จะอาศัยอยู่ภายในครอบครัว แต่เธอกลับถูกใช้งานราวกับคนใช้ภายในบ้าน และเหมือนทุกคนจะลืมไปแล้วว่าเธอเองก็เป็นคนตระกูลซ่งเหมือนกัน

ระยะเวลาค่อย ๆ ผ่านพ้นไป ตอนนี้ซ่งอวี้จินอายุย่างเข้าปีที่สิบห้าแล้ว ร่างกายของเด็กสาวดูผอมบางราวกับถูกอดอาหารมาอย่างยาวนาน

“แค่ก ๆ” เสียงไอค่อกแค่กดังออกมาจากลำคอของซ่งอวี้จิน เธอรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งยังรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงอีกด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องนอนซมภายในห้องเล็ก ๆ ของตนเอง

ไม่มีใครมาเหลียวแลเธอสักนิด ซ่งอวี้จินรู้สึกเดียวดายเหลือเกิน หรือเพียงเพราะเธอไม่ใช่ผู้ชาย เลยถูกทิ้งไว้ด้านหลังเพียงคนเดียวอย่างงั้นหรือ

ความน้อยเนื้อต่ำใจเกาะกินหัวใจของซ่งอวี้จินจนไม่เหลือดี อาการปวดศีรษะเล่นงานเธอเรื่อย ๆ จนทำให้สติเริ่มเลือนราง…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel