บท
ตั้งค่า

บทที่ 29 วัฏจักรเทพแปดทิศ (1) [2/3]

เช้าวันนี้อู๋เชียนหยิงรีบมาที่หอโอสถเทพ เพราะนางปลูกสมุนไพรและปรุงโอสถได้ล้ำเลิศ นางจึงมีคะแนนสะสมตลอดสามปีที่ผ่านมาทั้งหมด 55,000 คะแนน ยามนี้นางใช้ไป 25,000 คะแนน เพื่อแลกหยกประกายดารา กลีบบัวปีกฟ้า โสมเลือดมังกร หยาดน้ำค้างยามเที่ยงคืน และหญ้าวิหคทอง เมื่อแลกได้ของที่ต้องการ นางจึงมาที่ห้องอักษรของหอโอสถเทพเพื่อค้นหาสูตรโอสถน้ำทิพย์ข้ามตะวัน นางอยากรู้ว่ามันเป็นโอสถระดับใด

แต่ค้นหาอย่างไร กลับไม่มีตำราหรือคัมภีร์โอสถใดระบุถึงน้ำทิพย์ข้ามตะวัน นางตระหนักได้ทันทีว่าสูตรโอสถน้ำทิพย์ข้ามตะวันนี้ไม่อาจบอกผู้ใดได้ มิฉะนั้น เรื่องราวต้องวุ่นวายยิ่งนัก เพราะนี่เป็นโอสถที่ดีเสียยิ่งกว่าโอสถเต็มบุปผาอันเป็นโอสถที่ศิษย์สายในและศิษย์ส่วนตัวใช้กัน โอสถเต็มบุปผาเพียงช่วยเพิ่มลมปราณได้สี่ในสิบส่วน มากกว่าโอสถจันทร์สว่างเท่าตัว

ยามนี้อู๋เชียนหยิงอยู่ในห้องปรุงโอสถ นางปิดประตูห้องและยังเขียนอักขระเวทปิดกั้นไว้ ป้องกันมิให้ผู้ใดเข้ามาในระหว่างที่นางปรุงน้ำทิพย์ข้ามตะวัน ใช้เวลาราวหนึ่งเค่อ น้ำทิพย์ข้ามตะวันจำนวน 180 หยดก็อยู่ในขวดหยกเรียบร้อย ออกจากห้องปรุงโอสถ นางก็ตรงไปที่หอภารกิจเทพทันที ใช้คะแนนภารกิจไปทั้งสิ้น 36,000 คะแนนเพื่อแลกจำนวนชั่วยามในห้องฝึกฝนลมปราณมา 360 ชั่วยามสำหรับเวลา 180 วัน ก่อนจะรีบมาที่หอลมปราณเทพเพื่อมาจองห้องลมปราณเพิ่มอีกวันละ 2 ชั่วยาม ยาวนานถึง 180 วัน

“เจ้าจองห้องฝึกฝนลมปราณนานถึง 6 เดือนเช่นนี้ เจ้าคิดจะเลื่อนระดับลมปราณให้ได้อย่างน้อย 1 ขั้น?” อาจารย์ที่ทำหน้าที่บันทึกการจองห้องฝึกฝนเอ่ยถามนางอย่างแปลกใจ

“เจ้าค่ะ ระดับลมปราณของศิษย์ยังไม่มากพอ เกรงว่าฝึกฝนอะไรไปก็คงทำได้ไม่ดี”

“หกเดือน แม้นับว่านานแต่ย่อมไม่นานพอให้เจ้าเลื่อนระดับได้ง่ายๆ แต่ในเมื่อเจ้ามีความพยายามเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดี” อาจารย์ผู้นั้นกล่าวชมเชยก่อนจะจองห้องฝึกฝนให้นางตามที่ต้องการ

ไม่มีผู้ใดในสำนักทราบว่าสามปีที่ผ่านมานี้ อู๋เชียนหยิงสามารถเลื่อนระดับลมปราณได้อย่างรวดเร็วจากเมื่อแรกเข้าสำนัก ลมปราณของนางอยู่ที่ระดับแตกหน่อขั้นที่ห้า หากยามนี้กลับอยู่ในระดับผลิดอกขั้นที่แปด เป็นการเลื่อนระดับถึง 13 ขั้นย่อยในเวลาสามปี หากมีผู้ใดทราบถึงความเร็วในการเลื่อนระดับของนาง พวกเขาทุกคนต้องตกใจตายกันแน่ เพราะกว่าทุกคนจะเลื่อนระดับได้ หนึ่งขั้นย่อยอย่างน้อยต้องใช้เวลา 6 เดือนถึงหนึ่งปี และยิ่งระดับสูงขึ้น การเลื่อนระดับยิ่งยากขึ้นกว่าเดิม

อู๋เชียนหยิงสามารถเลื่อนระดับได้เร็วเช่นนี้มาจากเหตุผลสองประการ ประการแรกคือร่างนภาพิสุทธิ์ของนางที่สามารถเพิ่มพูนระดับลมปราณได้ดีกว่าผู้ใด และสองย่อมเป็นแก่นโลหิตหัวใจของมหาเทพชางเล่ยที่คอยช่วยนางทะลวงด่านเพื่อการเลื่อนระดับเสมอมา

เมื่อพบเจอเสวียนหย่งที่หอศาสตราเทพยามที่นางมาเรียนและฝึกซ้อมกระบี่วิญญาณเทพ หลังฝึกซ้อมกระบี่เสร็จสิ้น นางจึงบอกว่านางจะฝึกฝนลมปราณวันละ 3 ชั่วยามทุกวันนาน 6 เดือน

“เจ้าจะเลื่อนระดับลมปราณรึ จึงฝึกฝนหนักเช่นนี้” เสวียนหย่งถามอย่างแปลกใจ

“ใช่ ระดับลมปราณของข้ายังไม่ดีเท่าใด ยามนี้อยู่เพียงผลิดอกขั้นที่หกเท่านั้น ข้าอยากให้ระดับลมปราณเพิ่มอีกขั้น จะได้หลอมกระดูกได้ดีกว่านี้” อู๋เชียนหยิงกล่าวกลบเกลื่อนจุดประสงค์แท้จริงทั้งยังบอกว่าระดับลมปราณของตนอยู่เพียงผลิดอกขั้นที่หกเท่ากับเสวียนหย่ง

เสวียนหย่งพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ข้าฝึกฝนเช่นเดียวกับเจ้าดีหรือไม่ วันละ 3 ชั่วยาม นาน 6 เดือน”

“ตามใจเจ้าสิ ฝึกฝนมาก คนที่ได้ประโยชน์ก็คือตัวเจ้าทั้งสิ้น”

เสวียนหย่งนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก็พยักหน้าเห็นด้วย “งั้นข้าไปหอภารกิจเทพก่อน ไปแลกจำนวนชั่วยามและจะได้ไปจองห้องฝึกฝน จะได้เริ่มฝึกพร้อมเจ้าพรุ่งนี้”

ผ่านมาสามเดือนแล้วที่อู๋เชียนหยิงฝึกฝนลมปราณ ยามนี้ลมปราณของนางเลื่อนสู่ระดับผลิดอกขั้นที่สิบตรงตามที่ท่านพ่อของนางบอกกล่าวอย่างไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้น เหลืออีกเพียงสามเดือนระดับลมปราณของนางย่อมเลื่อนสู่ระดับรวมปราณขั้นที่หนึ่ง

“เชียนหยิง เจ้าได้ยินข่าวแล้วหรือยัง” เสวียนหย่งถามขึ้นเมื่อพบเจอนางที่หอลมปราณเทพเช่นทุกวัน

“ข่าวอะไรรึ”

“ท่านนักพรตลิ่วเหริน เจ้าสำนัก ประกาศให้อีกสามเดือนข้างหน้าเป็นเทศกาลล่าสมบัติสำหรับศิษย์ทุกคน”

“เทศกาลล่าสมบัติ? มันคือเทศกาลอะไร”

“เจ้าไม่รู้จัก?” อู๋เชียนหยิงส่ายหน้า นางไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

“ข้าก็เพิ่งทราบจากศิษย์พี่ที่พักที่เรือนเดียวกับข้าเมื่อวานนี้ ศิษย์พี่ของเจ้าที่เรือนพักไม่ได้บอกเจ้า?”

“ไม่ได้บอก เมื่อวานพวกนางกลับมาเรือนพักค่อนข้างล่าช้า พวกนางบอกว่าเมื่อวานหลอมโอสถผิดพลาด จึงถูกทำโทษให้ทำความสะอาดห้องปรุงโอสถทุกห้อง”

เสวียนหย่งพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเล่าต่อ “เทศกาลล่าสมบัติจะถูกจัดขึ้นทุกสิบปีในเขตแดนวัฏจักรเทพแปดทิศ เขตแดนนี้จะเปิดออกทุกสิบปีนาน 7 วัน เป็นเขตแดนวิเศษที่ภายในจะมีสมบัติล้ำค่าซุกซ่อนอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นโอสถวิเศษ วิชาฝีมือ สัตว์วิเศษ อาวุธวิเศษ”

“เขตแดนวัฎจักรเทพแปดทิศยังจำกัดระดับลมปราณของผู้ที่จะเข้าไป นั่นคือผู้ที่เข้าไปได้จะต้องมีระดับลมปราณไม่เกินระดับมองทะลุขั้นสิบ หากเกินกว่านี้และฝืนเข้าสู่เขตแดน พวกเขาจะพบเจอกับแรงบีบอัดรุนแรงที่ทำให้ร่างกายระเบิดออกทันที”

อู๋เชียนหยิงต้องกลืนน้ำลายอย่างนึกหวาดเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “แล้วมีใครเคยฝ่าฝืนเข้าไปหรือไม่”

“มีสิ เมื่อห้าพันปีก่อนมีเจ้าสำนักวิญญาณเทพผู้หนึ่งไม่เชื่อคำกล่าวนี้และฝืนเข้าไป เพียงเข้าไปเท่านั้น ทุกคนก็ได้เห็นทันทีว่าร่างของเขาระเบิดออกในพริบตา” อู๋เชียนหยิงอ้าปากค้าง

“เขตแดนนี้เข้าได้แปดเส้นทางตามชื่อของมันนั่นคือ วัฏจักรเทพแปดทิศ แม้จะเข้าได้แปดเส้นทางแต่แปดเส้นทางนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเขตแดน ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าเขตแดนนี้กว้างใหญ่เพียงใด ทราบเพียงว่ามีมิติต่างๆ กระจายอยู่มากมาย สมบัติที่ได้ออกมากล่าวได้ว่าแล้วแต่วาสนาของผู้ที่ได้ครอบครอง แต่หากเจ้าได้ของดีมาก็ย่อมต้องเก็บเป็นความลับให้ดี เพราะภายในเขตแดนนั้นสามารถแย่งชิงกันได้ ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงมีศิษย์หลายร้อยคนตกตายในเขตแดนนี้เพราะการแย่งชิง”

“สำหรับของที่ได้ออกมา หากได้มามากกว่าหนึ่งชิ้น ต้องส่งมอบชิ้นที่ดีที่สุดให้สำนัก”

“เข้าร่วมได้ทุกคนเช่นนี้ ใครจะไปสู้ศิษย์สายใน ศิษย์สายนอกชั้นยอดได้ล่ะ พวกเขาก็เอาไปหมดน่ะสิ ซ้ำยังแย่งชิงศิษย์สายนอกที่อ่อนด้อยอย่างพวกเราได้ด้วย” อู๋เชียนหยิงแย้งออกมา นางไม่เอ่ยถึงศิษย์ส่วนตัวเพราะยามนี้เจ้าสำนักและสองรองเจ้าสำนักยังไม่รับผู้ใดเป็นศิษย์ส่วนตัว

“เรื่องนี้พวกเราต้องทำใจ อย่างที่ข้าบอก มันมีมากมายหลายมิติ พวกเราอาจโชคดีเข้าไปแล้วไม่พบเจอพวกเขา เอาของดีกลับออกมาได้”

นางกรอกตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกออก “เสวียนหย่ง พี่ใหญ่ข้าเป็นศิษย์สายใน เจ้ากับข้าไปรวมกลุ่มกับพี่ใหญ่ดีหรือไม่ ให้พี่ใหญ่ช่วยคุ้มครองพวกเรา หากได้ของดี ของดีที่สุดก็ให้พี่ใหญ่ไป พวกเราก็เอาของที่รองลงมาก็ได้ หรือหากได้ของมาชิ้นเดียวก็มอบให้พี่ใหญ่ ตอบแทนที่เขาช่วยคุ้มครองพวกเรา อย่างน้อยการเข้าสู่เขตแดนวัฏจักรเทพแปดทิศก็ถือว่าพวกเราได้เปิดหูเปิดตา เจ้าว่าอย่างไร”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel