ตอนที่หนึ่ง นี่มันเรื่องอะไรกัน (กรุบกริบ)
ตอนที่หนึ่ง
นี่มันเรื่องอะไรกัน
โอ๊ย! หนักจัง ใครวะ
ร่างเล็กข้างใต้พยายามดิ้นรนผลักร่างใหญ่ด้านบนแต่เขากลับไม่ขยับเขยื้อน หญิงสาวกลั้นลมหายใจรวบรวมแรงให้ดีแล้วผลักออกไปอีกครั้งแต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดทำได้เพียงเรียกเสียงหงุดหงิดออกมาเท่านั้น
“น่ารำคาญจริง ในเมื่ออยากมากนัก ข้าก็มาสนองให้แล้วอย่างไรเล่า”
เสียงไม่คุ้นหูมาพร้อมมือที่กอบกุมบีบขยำและความเปียกชื้นที่ไล่เลียอยู่ตรงทรวงอกจนรู้สึกวาบหวาม
“อื้อ...”
ร่างเล็กเผลอร้องออกมาแผ่วเบาแต่ยังเรียกเสียงหัวเราะหึหึจากชายด้านบนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขบเม้มดูดกลืนความหอมหวานจากซาลาเปาเนื้อนุ่ม
ปลายลิ้นที่ลื่นไหลร้อนผ่าวตวัดเลียเม็ดชมพูกลางก้อนเนื้ออวบอิ่มจนตั้งชูชันสลับกับริมฝีปากอุ่นชุ่มชื้นที่ดูดเม้มขบกัดยอดเต่งตึงสีหวานจนใบหน้าเล็กเหยเกด้วยความเจ็บแปลบ
ครั้นกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยทั้งทิ้งรอยแดงเอาไว้จนถ้วนทั่วจึงได้เวลาเลื่อนลากผ่านหน้าท้องแบนราบไปชื่นชมเนินบุปผางดงามด้านล่าง
ทันทีที่นิ้วร้อนลากผ่านสัมผัสกลีบดอกไม้สีหวาน ร่างเล็กเบื้องล่างถึงกับเผลอเด้งเอวยกสะโพกส่งขึ้นราวต้องการเรียกร้องการสัมผัสที่มากกว่านั้น
“หึหึ” เสียงหัวเราะอย่างย่ามใจดังขึ้นกว่าเก่าก่อนที่สองมือจะช่วยกันแหวกขาเรียวขาวเพื่อเผยร่องดอกไม้เย้ายวนตาซึ่งชโลมด้วยน้ำหวานใสให้ได้ยล
“อืม...แฉะเชียว”
เสียงที่ได้ยินคล้ายกระซิบอยู่ข้างหูเล็กแต่เจ้าของร่างกลับมัวบิดกายที่เร่าร้อนอย่างเรียกร้องเพื่อต้องการดับความร้อนรุ่มที่กำลังปะทุอยู่
ชายด้านบนส่งเสียงจุ๊ๆแล้วขยับนิ้วเข้าสำรวจสองกลีบชุ่มฉ่ำทั้งแหวกสองกลีบบุปผาให้เบ่งบานเพื่อพร้อมรับกับความใหญ่โตของตนเอง
ร่องนุ่มนวลสีแดงสดทนรับการหยอกเย้าไม่ไหวขยายกลีบบานฉ่ำอย่างรวดเร็วขณะมือเล็กตวัดเกี่ยวลำคอหนาทั้งส่งเสียงอืออาราวเชิญชวนให้เขาส่งของที่ใหญ่โตกว่าเข้าแหวกว่ายในธารน้ำใส
“ใจร้อนจริง”
เสียงทุ้มเย้าแหย่ออกมาพร้อมกับความรู้สึกที่มีส่วนแข็งขืนอันร้อนผะผ่าวพยายามผงกหัวดันอยู่ตรงกลางหว่างขาเรียว
ทันทีที่ตระหนักได้ว่าส่วนหัวอันปูดโปนเต็มไปด้วยเลือดเนื้อกำลังสัมผัสความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นและดันแหย่แหวกปากช่องทางที่อ่อนไหวเข้าไปในร่องคับแคบของตนเองได้นิดหน่อยแล้ว
ความตื่นตระหนกจึงกลายเป็นแรงมหาศาลที่ช่วยทั้งผลักทั้งดันร่างหนาเบื้องบนออก
“ออกไปนะ”
มายตกใจกับเสียงของตนเองที่เปล่งออกมาด้วยช่างฟังอ่อนหวานไม่คล้ายเสียงแหบห้วนที่เคยชิน
แต่เธอไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแล้วเมื่อพบว่าตนเองกำลังเปลือยกายนอนอยู่บนเตียงกับบุรุษแปลกหน้าคนหนึ่งซ้ำเขากำลังล่วงล้ำเข้ามาอย่างจาบจ้วง
กล้ามาก คิดเล่นทีเผลอหรือ ไม่รู้จักมายเสียแล้ว
หญิงสาวรวบรวมสติคิดกระบวนท่าแล้วบิดร่างส่งเท้าถีบออกไปอย่างแรงจนร่างที่กำลังโงนเงนกระเด็นไปกองอยู่ปลายเตียง
“โอ๊ย! เจ้าเป็นบ้าหรือไร”
สตรีนางนี้เมื่อครู่ยังเร่าร้อนเชิญชวน จู่ๆกลับเปลี่ยนท่าทีเสียอย่างนั้น น่าตายนัก
เสียงทุ้มโวยวายดังออกมาทั้งมีท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่านแต่มายไม่คิดสนใจ เธอลุกขึ้นคว้าเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งอยู่ข้างเตียงขึ้นมาสวม
โอ๊ย!...ชุดบ้าอะไรวะ รุ่มร่ามจริง
เธอถูกถอดจนแทบไม่เหลือสักชิ้นตั้งแต่ตอนไหน?
สมองคิดแต่มือยังคงรวบรวมชุดที่หลุดลุ่ยเพื่อสวมใส่จนวุ่นวายด้วยไม่คุ้นเคย
ใส่ไปก่อนก็แล้วกัน
มือบางมัดสายคาดเอวให้แน่นขณะกำลังคิดจะตามไปกระทืบซ้ำเพื่อสั่งสอนไม่ให้ชายคนนั้นลุกขึ้นมาล่วงเกินเธออีกแต่กลับได้ยินเสียงคล้ายกลุ่มคนกำลังเคลื่อนตรงมาทางนี้
“พี่หญิงใหญ่หายตัวไป พวกเราช่วยกันหาเร็วเข้า น่าจะอยู่แถวนี้” เสียงหญิงสาวที่ได้ยินไม่คล้ายร้อนใจแต่กลับเร่งรัด
นี่มันเรื่องอะไรกัน
แม้ไม่เข้าใจแต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดกลับทำงานอย่างดี มายหันรีหันขวางเห็นหน้าต่างบานหนึ่งจึงโผไปมอง เมื่อเห็นว่าข้างนอกเป็นเพียงพุ่มไม้เตี้ยจึงกระโดดออกไปแล้ววิ่งเร็วโดยไม่เหลียวหลังได้ยินเพียงคำว่า “เดี๋ยวก่อน” ลอยตามลมมา
ใครจะอยู่รอเดี๋ยว ขอไปตั้งหลักก่อนดีกว่า
