๔ วันที่มีกัน (๕)
งานฉลองมงคลสมรสจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเขตบ้านของเจ้าบ่าวที่เป็นลานมันขนาดเกือบสิบไร่ เป็นแหล่งรับซื้อมันชนิดต่างๆ รวมถึงพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่น เป็นที่รู้จักของจังหวัดเพราะมารดาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนฝ่ายเจ้าสาวก็มีหน้ามีตาไม่ต่างกัน
ตามทางเดินเป็นซุ้มดอกไม้ถูกจัดเอาไว้เป็นทางยาว พอมาเจองานจริงก็เห็นโต๊ะจีนเกือบร้อยโต๊ะเต็มลานตรงหน้า พร้อมเวทียกสูงที่แสงสีเสียงจัดเต็ม เธอถึงกับเบิกตาค้างกับความยิ่งใหญ่ของงาน แต่ไม่เท่าคนในงานที่เห็นดาราแล้วรีบเดินมาขอถ่ายรูป
เธอจึงต้องพยักหน้ารับแล้วถ่ายภาพคู่กับแขกเหรื่อในงานแม้จะไม่ใช่งานของตัวเองก็ตาม
ช่วงนี้ไปงานแต่งบ่อยเหลือเกิน
“เสียดายนะคะที่ไม่ได้มางานหมั้น เหมือนจะทำแบบล้านนาด้วย อยากมาดูสักครั้ง...” พอเสร็จจากถ่ายรูปก็เข้าไปทักทายบ่าวสาว ค่อยเดินมานั่งยังโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้เพื่อนสนิท แก้วเจ้าจอมถูกจับตามองเป็นพิเศษ เธอก็หัวเราะยิ้มแย้มพูดคุยกับทุกคนที่เข้ามาคุยด้วย
“คิดถึงงานแต่งของเราเลย วันนั้นพี่ใหญ่หล่อมากๆ” เธอไม่ลืมคิดถึงงานแต่งของเราถึงเขาจะไม่ค่อยยิ้มก็ตาม
แต่ปรัตยาหล่อราวกับเจ้าชายที่เธอเคยอ่านในนิทานสมัยเด็ก...
“กลับกันเถอะ” นั่งเกือบชั่วโมงก็ชวนภรรยากลับเพราะไม่อย่างนั้นอาจถูกลากไปคุยเรื่องธุรกิจจนต้องอยู่ยาว เธอพยักหน้าเดินตามเขาไม่ห่าง
“ฉันกลับก่อนนะ ขอให้นายมีความสุขมากๆ”
“ไม่อยู่ปาร์ตี้ต่อเหรอ”
“ไม่ดีกว่า มากรุงเทพฯ เมื่อไหร่อย่าลืมบอกด้วยล่ะ จะได้เปิดบ้านต้อนรับ”
เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนสนิทกับเขาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ติดต่อกันมาเรื่อยจึงเลือกจะมาร่วมงานถึงอยู่คนละจังหวัดหรือตัวเองจะมีงานก็ตาม เธอยิ้มให้เจ้าสาวแล้วกอดแขนปรัตยาเอาไว้ ชอบที่ได้อยู่ใกล้และได้สัมผัสตัวเขา
เหมือนเธอเป็นคนสำคัญของชายหนุ่ม...
“ครับท่านประธาน” ตอบเย้าคนตำแหน่งสูง เขาก็แค่ตบบ่าอีกฝ่ายแล้วค่อยพาภรรยากลับ เธอเองจึงค้อมศีรษะลาเจ้าของงาน ก่อนเดินตามเขาอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ”
กลับมาถึงบ้านจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมชุดนอนกระโปรงพลิ้วลายการ์ตูนที่ซื้อถูกลิขสิทธิ์ ราคาอาจจะแพงหน่อยแต่เนื้อผ้าดี พอสวมแล้วลดอายุของหล่อนพอสมควร ร่างบางเดินห่อไหล่มาที่เตียง เห็นสามีที่ไปอาบน้ำชั้นล่างนอนห่มผ้าเรียบร้อยก็รีบเดินไปยืนข้างเตียง
“หนาวจังเลยพี่ใหญ่ แก้วนอนด้วย” ไม่รอฟังคำอนุญาตก็รีบโดดขึ้นเตียงมานอนข้างเขา เบียดกายเข้าใกล้ร่างหนาพลางโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้
“กอดกันจะได้อุ่น” พอเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีจะโวยวายจึงทำได้ยิ้มกว้าง ยืดกายไปหอมแก้มสากแล้วบอกฝันดี
“ฝันดีนะคะ” เธอหลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา
ขณะที่ร่างหนานอนมองเพดานคิดไม่ตก...
เขา...ยังรักดาวประดับ
ชายหนุ่มบอกตัวเองแบบนั้นโดยไม่ได้สำรวจหัวใจตัวเองให้ดี ว่าตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนไปและดูเหมือนจะเอนเอียงไปให้คนข้างกายแล้ว
