๔ เฉยชาห่วงใย (๓)
สองพี่น้องคุยกันไม่ยอมเข้าบ้านสักที คนที่ยืนแอบฟังมาสักพักจึงได้แสดงตัว ใบหน้าหวานเรียบเฉยขณะที่ดวงตาแข็งกร้าวยามจ้องสามี เพิ่งทราบว่าอดีตคนรักของเขาอย่างกชวรามาเฝ้าถึงห้องทำงาน ทีกับหล่อนแค่จะย่างกรายไปบริษัทยังไม่เคยเลยสักครั้ง
ปากบอกว่าเป็นเพื่อนแต่ควงออกงานตัวติดกันตลอดเวลา...ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด
“น้องนิด คุณแม่ให้มาตามไปกินข้าวค่ะ” ยิ้มให้น้องสาวสามีแล้วเมินเฉยไม่มองเขา คนอายุน้อยกว่าจึงยิ้มกว้างแล้ววิ่งขึ้นบันไดหน้ามุขมากอดแขนพี่สะใภ้เอาไว้ การกระทำบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอยู่ข้างใคร
“โอเคค่ะน้องหิวพอดีเลย ไปกันค่ะพี่ลิล ปล่อยให้คนบางคนเขากินหญ้าไปดีกว่า” ท้ายประโยคหันไปพูดกับพี่ชาย ใบหน้าคมบึ้งตึงแล้วเรียกน้องสาวที่คลานตามออกมาเสียงขึงขัง แต่เหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเท่าไหร่
“น้อง”
“ไม่ได้ระบุชื่อสักหน่อย พูดลอยๆ ใครอยากรับก็รับไปสิ...ไปค่ะพี่สะใภ้” ยิ้มให้ลลิลแล้วควงกันเข้าบ้าน ปล่อยร่างสูงให้ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับความเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของคนทั้งสอง เขากลายเป็นหมาหัวเน่าไปเสียแล้ว
รับประทานอาหารเรียบร้อยก็ขึ้นมาบนห้องนอน ต่างคนต่างทำธุระส่วนตัวโดยไม่มีใครเป็นฝ่ายชวนคุย ใบหน้าหวานบึ้งตึงแสดงออกถึงความรู้สึกบางอย่างที่กดอากาศให้ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด จนร่างหนาเหลือบมองภรรยาบ่อยครั้ง
หล่อนนั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเช่นทุกวัน ไม่รู้สาวน้อยขี้อายที่มาบอกชอบเขาวันนั้นหายไปไหนแล้ว เจ้าตัวกลายเป็นแม่เสือสาวที่พร้อมขย้ำคนเข้าใกล้ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้าชายคนนั้นเป็นเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
กระทั่งสายตาทั้งสองคู่สบกัน เธอลุกจากเตียงแล้วเดินมายังโซฟายาวซึ่งกลายเป็นที่นอนของลูกชายคนโตบ้านฐิติยานนท์ไปโดยปริยาย
“ถ้าคุณจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นก็ขอให้เป็นหลังจากที่เราหย่ากันนะคะ ฉันไม่ต้องการถูกคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีในนามสวมเขา เพราะแค่พลาดท้องกับคุณก็โง่มากพอแล้ว” กอดอกแล้วจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันก่อนลุกยืนเต็มความสูง เดินเข้ามาใกล้ภรรยาจนลลิลต้องถอนหลังหนี กระทั่งแผ่นหลังบางชิดผนังไร้ซึ่งหนทางจะหลบ
จึงได้เงยหน้าสู้สายตาเขา มองใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้ด้วยใจที่สั่นไหว เลือกจะขึงตาใส่เขาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง
เธอเกลียดตัวเอง...ที่เกลียดเขาไม่ได้สักที
“หึงหรือไง” ปากหยักยกยิ้มคล้ายจะล้อเลียน แต่เมื่อได้รับคำตอบของเธอก็ทำเอาหุบยิ้มลงแทบจะทันที
“เปล่าค่ะ ฉันไม่มีความรู้สึกนั้นสักนิด แค่บอกให้เข้าใจตรงกัน” เว้นช่วงนิดหน่อยแล้วค่อยตอบเสียงเรียบ มองเขาอย่างไม่เกรงกลัวสักนิดว่าตัวเองจะถูกเล่นงานกลับ
“เพราะถ้าคุณทำได้...ฉันก็ทำได้เหมือนกัน” ใบหน้าคมแดงก่ำ รั้งหล่อนด้วยการโอบเอวบางเข้ามาใกล้ มือหนาวางไว้ที่แผ่นหลังเล็กแล้วดันให้ชิดกายของตนมากขึ้น ขณะที่จ้องดวงหน้ารูปไข่ไม่วางตา ใช้ความเป็นสามีเพื่อสั่งลลิล
“ห้ามเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน เธอกำลังท้องลูกของฉัน” กัดฟันบอกแววตาเคร่งเครียด แต่เธอกลับส่งแววตาคล้ายจะเยาะเย้ยเขาอยู่ในที เชิดใบหน้าขึ้นสูงก่อนถามกลับยิ่งสร้างความขุ่นมัวในใจของฉัตรชยามากกว่าเดิม
“แน่ใจเหรอว่าลูกคุณ อาจเป็นลูกคนอื่นก็ได้”
“พิสูจน์ไหมล่ะ ให้ฉันพิสูจน์ไหมว่าลูกฉันจริงหรือเปล่า” ไม่พูดพร่ำทำเพลงปากหยักก็โน้มลงจุมพิตที่ลำคอระหง ดวงตากลมเบิกกว้างตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ใช้มือยันแผงอกกว้างเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ตนมากกว่านี้ พยายามใช้เสียงดังเข้าข่มทั้งยังทุบตีร่างหนา
“ทำบ้าอะไรน่ะ ถอยไปนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกให้คนมาช่วยจริงด้วย บอกให้ถอยไงล่ะ!” แรงหล่อนเท่ามดไม่กระเทือนเขาเลยสักนิด ความนุ่มของริมฝีปากได้รูปแตะต้องไปทั่วลำคอระหงก่อนจะขบเม้มจนเกิดรอย พร้อมกับกระซิบข้างหูเธอเพื่อไม่ให้คิดหาทางเอาตัวรอด
เพราะอย่างไรหล่อนก็ไม่รอดจากเงื้อมมือของเขาหรอก
“ห้องนี้เก็บเสียง ใครก็ช่วย...” พูดไม่ทันจบกลับมีเสียงร้องเรียกดังจากหน้าห้อง เขาหันไปมองหน้าประตูคลายแรงที่จับร่างบางเอาไว้ เป็นโอกาสให้เธอกระทืบส้นเท้าลงที่หลังเท้าเขา ก่อนวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว โดยชายหนุ่มทำได้เพียงจับเท้าแล้วกระโดดไปมาให้คลายความเจ็บ
“พี่ลิลขา พี่ลิล...”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ลลิลยิ้มดีใจ ขณะที่คนเป็นพี่ชายนึกหงุดหงิดน้องสาวเมื่อถูกขัดจังหวะเสียได้ เขากำลังเล่นสนุกกับภรรยาแล้วหล่อนก็เสียเปรียบ...กลับมีคนเข้ามาช่วยเสียอย่างนั้น
“ยัยน้อง...” พึมพำเรียกน้องสาวที่คลานตามกันออกมาเสียงเบา นึกเข่นเขี้ยวผู้เป็นภรรยาซึ่งยิ้มแป้นให้กับคนมาเยือนยามค่ำคืน
“ค่ะ ว่าไงคะน้องนิด”
“นมอุ่นค่ะ พี่ฉัตรทำตัวไม่สมกับเป็นสามีเลย น่าจะดูแลพี่ลิลให้ดีกว่านี้หน่อย เฮ้อ...” ยื่นแก้วนมอุ่นให้พี่สะใภ้ ไม่วายค่อนขอดพี่ชายของตัวเองจนเขาต้องรีบมาคว้าประตูเตรียมจะปิด ทว่าลลิลยันเอาไว้เสียก่อนไม่ยอมให้เขาทำตามความต้องการ แต่เขาเลือกจะจับมือเธอเอาไว้ ก่อนบอกน้องสาวเสียงเรียบ
“จะไปไหนก็ไป”
“ค่า ไม่อยู่ขัดขวางความสุขของพี่ๆ แล้ว” มองเห็นเหตุการณ์ว่าถ้าตนอยู่ก็คงรบกวนคนทั้งสอง จึงได้อมยิ้มแล้วพยักหน้าเดินกลับห้องของตัวเอง เหลือเพียงสองสามีภรรยาที่หันมองหน้ากัน เธอดื่มนมจนหมดแล้วยัดใส่มือเขา
“เอาลงไปเก็บด้วย”
จากนั้นจึงเดินไปยังเตียงนอนของตน แล้วสอดกายเข้าใต้ผ้าห่มเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา...
ฉัตรชยาจำยอมทำตามคำสั่ง นำแก้วลงไปเก็บแล้วล้างสะอาด ค่อยเดินขึ้นมายังห้องนอนแล้วพบว่าหญิงสาวหลับไปแล้ว
