EP.9 หมามีเจ้าของ
ร่างบางสั่นเกร็งไปทั่วทั้งตัวเมื่อชายหนุ่มจัดการถอดกางเกงชั้นในของเธอออกไปวางอยู่บนโต๊ะทำงาน แล้วพลิกตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้าหน้ากัน
“ถ้าไม่ยอมอ้าขาออกให้ผม พิงอาจจะโดนมากกว่านิ้วนะ” ราวกับรู้ทันความคิดของคนตัวเล็กเมื่อพักพิงเอาแต่หุบขาเข้าหากันแน่นไม่ยอมทำในสิ่งที่เขาต้องการ
หญิงสาวเบะปากคล้ายกับจะร้องไห้เมื่อได้ยินแบบนั้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยต้องมาทำเรื่องที่น่าอายแบบนี้มาก่อน
“หายใจลึกๆ ไม่ต้องเกร็งนะ เวลาที่ผมใส่นิ้วเข้าไปพิงจะได้ไม่เจ็บ เข้าใจที่ผมบอกหรือเปล่า”
ใบหน้าแสนหวานเห่อร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อเห็นสายตาหยาดเยิ้มของชรัณที่ใช้มองเรือนร่างของเธอ
“พักพิงของผมสวยไปหมดทั้งตัวเลยนะรู้ไหม”
ปลายนิ้วเรียวค่อยๆ ลูบไล้บดคลึงไปตามกลีบดอกไม้งามเพื่อให้เธอได้ปรับตัว ก่อนจะสอดนิ้วกลางเข้าไปในร่องสวาทอย่างช้าๆ ทำเอาหญิงสาวถึงกลับสะดุ้งกัดปากด้วยความเจ็บ
“ชะ…ชรัณ พิงเจ็บ!”
“โดนแค่นิ้วเดียวเองนะ ยังเจ็บอีกเหรอ”
“เอามันออกไปได้ไหม” เสียงหวานร้องขอแผ่วเบาหลังจากที่ชายหนุ่มขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ จนรู้สึกเกร็ง
“อยากให้เอาออก ก็บอกมาก่อนว่ารักผมหรือเปล่า?”
“…..”
“ถ้าไม่ตอบ ผมจะทำแบบนี้ทุกวันกับพิงจนกว่าพิงจะรักผม”
เล็บสวยจิกลงบนไหล่หนาเมื่อคนที่นั่งอยู่ใต้ร่างเริ่มสอดใส่นิ้วชี้เพิ่มเข้ามาในโพรงนุ่มนิ่มพร้อมเร่งจังหวะเข้าออกเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“ดูตรงนี้ของพิงสิ มันแฉะเปียกมือผมไปหมดแล้ว” ชรัณเข้าไปกระซิบที่ข้างใบหูความพอใจหลังจากสัมผัสได้ถึงน้ำล่อลื่นสีใสของหญิงสาวที่ไหลออกมาเบิกทางเป็นจำนวนมาก
“อื้ออ ชะ…ชรัณ อย่าทำตรงนั้น~”
คำร้องขอไม่เป็นผล ยิ่งเห็นสีหน้าอ่อนไหวของเธอเขายิ่งทำมันแรงกว่าเดิมจนเกิดเสียงลามกดังลั่นไปทั่วบริเวณ
“พักพิงของผมหอมไปทั้งตัวเลยนะ” ใบหน้าคมคายโน้มลงมาสูดดมกลิ่นที่ซอกคอขาวพร้อมใช้ริมฝีปากพรมจูบไปตามเนินอกผ่านเสื้อที่เธอสวมใส่
“มะ…ไม่ไหวแล้วค่ะ” เสียงหวานร้องครางเผลอร้องครางอย่างลืมอายเมื่อนิ้วเรียวบดคลึงไปยังปุ่มกระสันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเอาแต่ใจ มันคือความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
“ถ้าทนไม่ไหวก็ปล่อยมันออกมาสิ แตกใส่มือผมได้ตามที่คุณต้องการ”
“อื้ออ~”
“เสร็จทันเวลาพอดี” ริมฝีปากหนายกยิ้มอย่างพอใจที่ทำให้คนตัวเล็กปลดปล่อยอารมณ์เสร็จสมตามความตั้งใจ ก่อนจะหยิบทิชชูที่วางอยู่บนโต๊ะมาเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้เธอพร้อมสวมกางเกงชั้นในคืนให้ “รอผมอยู่ที่นี่นะ ถ้าประชุมเสร็จแล้วจะกลับมา”
พักพิงได้แต่มองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินหายออกไปจากห้อง เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากเธอที่จดจำเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ทุกวินาที
“…..” สองขาเรียวทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรงพร้อมความรู้สึกมากมายที่ตบตีกันมั่วไปหมด แต่ก็พยายามข่มใจว่าเธอก็เป็นแค่ของเล่นคนรวยอย่างชรัณใช้เงินซื้อมาเพื่อบำเรอความสุขให้ตัวเอง
ครืด~ พักพิงสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อได้สายเรียกเข้าหลังจากที่นั่งเหม่อลอยอยู่นาน
ใบหน้าแสนหวานฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจหลังจากที่เห็นรายชื่อของน้องสาวปรากฏอยู่บนหน้าจอ
“เป็นยังไงบ้างพลอย อาการดีขึ้นแล้วใช่ไหมแล้วแม่สบายดีหรือเปล่า?” พักพิงรัวคำถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ไม่ได้คุยกันหลายวัน
(พลอยโอเคมากเลยพี่พิง ส่วนแม่ก็สบายดี พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ)
“…..” พอได้ยินว่าทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีเธอถึงกลับโล่งใจ
(ว่าแต่พี่เป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่วันนั้นก็หายไปเลย)
“งานยุ่งมาก เลยไม่ได้ติดต่อกลับ”
(ทำงานเป็นยังไงบ้าง พี่ชรัณใช้งานพี่หนักไหม?)
“ไม่เลยพลอย พี่อยู่ที่นี่สบายดี” พักพิงเลือกที่จะโกหกเพราะไม่กล้าบอกความจริงกับน้องว่าที่เธอมาอยู่กับชรัณเป็นเพราะอะไร
(แต่สีหน้าพี่ดูเพลียๆ นะ)
“พี่มัวแต่คิดเรื่องพลอยทั้งคืนนั่นแหละ เลยนอนไม่หลับ”
(ไม่ต้องเป็นห่วงหนู คนของพี่ชรัณดูแลหนูกับแม่ดีมาก เห็นเขาบอกว่าอีกไม่นานหนูจะได้ไปรักษาตัวอังกฤษแล้วนะ ตอนนี้ก็กำลังจัดกระเป๋าอยู่)
“…..”
(ยังมีอีกเรื่องนึงค่ะ) สิ้นประโยคนั้น แพรพลอยจึงหันซ้ายมองขวาเพราะกลัวว่าแม่จะผ่านมาได้ยิน
“เรื่องอะไร?”
(พี่ปลื้มมาตามหาพี่ที่บ้าน แต่แม่สั่งให้คนไล่ตะเพิดเขาออกไป)
“…..” ร่างบางถึงกลับนิ่งไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่น้องสาวบอก เธอรู้สึกสงสารปลื้มขึ้นมาจับใจ
ไม่ใช่ว่าลืมแต่เธอไม่กล้ากลับไปหาหรือสู้หน้าเขามากกว่า ผู้กองปลื้มเป็นคนดี ควรได้เจอคนที่ดีและเพรียบพร้อมมากกว่าเธอ
(พี่ปลื้มดูน่าสงสารมากเลยค่ะ เหมือนเขาจะคิดถึงและเป็นห่วงพี่มาก ยังไงลองติดต่อโทรกลับไปหาเขาบ้างนะ)
“ถ้าว่างจากงานแล้วพี่จะโทรนะ”
(หนูขอวางสายก่อนนะ แม่เรียกไปกินข้าวแล้วค่ะ)
พักพิงเอาแต่นั่งครุ่นคิดอยู่นานหลังจากที่วางสายจากน้องสาวดวงตากลมโตวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง จนแน่ใจว่าไม่ใครอยู่ในห้องนี้ก่อนจะรีบกดโทรหาแฟนหนุ่มด้วยความคิดถึง
“พี่ปลื้ม นี่พิงเองนะ” เสียงหวานพูดกับคนปลายสายด้วยความดีใจ
(พิงหายไปไหนมา พี่เป็นห่วงมากเลยนะรู้บ้างไหม) ปลื้มตอบกลับมาด้วยความเป็นห่วงไม่แพ้กัน
“พิงขอโทษที่หายไปโดยไม่บอกนะ พอดีติดงานด่วนน่ะ”
(งานด่วนอะไร งานด่วนที่ไหน ทำไมไม่บอกพี่)
“เอาไว้ค่อยคุยนะ เรื่องมันยาวมากเลย”
(พี่คิดถึงพิงนะ)
“พิงก็คิดถึงพี่เหมือนกันค่ะ คะ…คิดถึงพี่มาก พี่คงสบายดีใช่ไหม” เมื่อได้ยินแบบนั้น น้ำตาที่กลั้นไว้มานานค่อยๆ ไหลออกมา
(พี่คิดถึงพิงมาก เป็นห่วงจนนอนไม่หลับเลย ตอนนี้พิงอยู่ที่ไหน พี่ขอไปหาพิงได้ไหม)
แกร้ก~ เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่ทำให้เธอต้องรีบวางสายแล้วรีบซ่อนโทรศัพท์เอาไว้ด้านหลัง แต่ไม่ทันเมื่อชรัณได้ยินทุกอย่างก่อนหน้านั้นแล้ว
“แค่นี้ก่อนนะคะ ถ้าเสร็จงานแล้วเดี๋ยวพิงโทรกลับ”
“คุยกับใคร?” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“คุยกับพลอยน่ะค่ะ”
“…..” เขามองคนตรงหน้าที่แสดงท่าทางเลิ่กลั่กออกมาอย่างชัดเจน
“ว่าแต่คุณประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ?”
“เสร็จแล้ว ส่วนช่วงบ่ายผมมีนัดออกไปทานข้าวกับลูกค้าต่อ เดี๋ยวจะให้ลูกน้องไปส่งคุณที่บ้านนะ พิงจะได้กลับไปพักด้วย”
“แล้วเย็นนี้จะกินอะไรคะ เดี๋ยวพิงทำอาหารเย็นไว้รอ”
“อะไรก็ได้ครับ แล้วแต่คุณเลย”
“ดะ…ได้ค่ะ”
“เป็นอะไร แล้วทำไมต้องหลบตาผมด้วย”
“…..”
“ไปทำความผิดอะไรมา หื้ม?” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงเข้าหาจนเกือบจะจูบเธออยู่ร่อมร่อ พักพิงที่แสนน่ารักมาตอนนี้กำลังกลายเป็นเด็กดื้อที่กำลังโกหก
“เปล่านะ พิงยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
หมับ! โทรศัพท์ถูกกระชากออกจากมือของหญิงสาวแบบไม่ทันตั้งตัว ชรัณไล่สายตามองก่อนจะไปสะดุดตรงรายชื่อที่เพิ่งโทรออกก่อนหน้านั้น มันเป็นรายชื่อของผู้กองปลื้มที่คุยกันนานหลายนาที
“ผมใจดีกับคุณมากนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใจดีกับทุกเรื่อง” มือหนาเลื่อนไปลูบไล้ใบหน้าแสนหวานด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงในเวลาต่อมา
“ฉะนั้น! อย่าหักหลังผม”
“…..” ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าที่เขามองมา มันดูเย็นชาจนไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย เธอเองก็เพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้ว่าทำไมลูกน้องถึงได้กลัวชรัณนักหนา
“โทรศัพท์ของพิง ผมขอแล้วกันนะ” สมาร์ตโฟนเครื่องหรูถูกเก็บใส่ในกระเป๋ากางเกง โดยมีร่างบางที่คอยยืนมองแบบเงียบๆ โทษฐานที่กล้าโทรหาผู้ชายคนอื่นก็ต้องโดนแบบนี้
“แล้วพิงจะโทรหาแม่กับน้องยังไงคะ?”
“ถ้าจะโทรหาแม่กับน้อง ค่อยมายืมโทรศัพท์ของผมแล้วกัน”
“แต่มัน…”
“หรือคุณมีปัญหาอะไร?”
“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าไม่อยากกลายเป็นหมาที่โดนเจ้าของล่ามโซ่ ก็อย่าคิดจะทรยศเจ้านาย!”
ปึ้ง! พักพิงสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อถูกชรัณปิดประตูใส่หน้าอย่างแรงแล้วเดินออกจากห้องไป ถึงสีหน้าท่าทางของเขาจะดูเรียบนิ่งแต่มันกลับน่าเกรงขามจนรู้สึกขนลุก
