EP.8 ลอง
ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มมองคนตัวเล็กที่กำลังทำสีหน้าตื่นกลัว ท่าทางของเธอมันดูไม่ประสีประสาจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าพักพิงอาจจะยังไม่เคยทำเรื่องพวกนี้
“ไม่เคยช่วยแฟนทำอะไรแบบนี้เหรอ?”
“…..”
“หรือพิงยังไม่เคย?”
“พะ…พิง” ร่างบางก้มหน้างุดไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตา จริงอยู่ที่เธอกับพี่ปลื้มเป็นแฟนกันแต่เขาให้เกียรติเธอมากโดยไม่มีอะไรลึกซึ้งไปมากกว่าจูบ
“ไม่เคยก็ไม่เห็นเป็นไร เดี๋ยวค่อยมาเรียนรู้กับผม” ชรัณพยายามข่มใจระงับอารมณ์เสียวกระสันของตัวเอง พอรู้ว่าพักพิงยังไม่เคยผ่านมือชายใดมันยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากครอบครองเธอไว้คนเดียว
“พิงทำไม่เป็น ไม่รู้ว่าควรทำยังไงชรัณถึงจะพอใจ”
“ลองทำกับผมดู ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ”
เธอกัดริมฝีปากด้วยความกังวลพลางเลื่อนมือที่สั่นเทาลงไปชักรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอีกหลายครั้งตามคำสอนอย่างกล้าๆ กลัวๆ โดยมีสายตาของชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองทุกการกระทำด้วยความหลงใหล
ถึงแม้จะรังเกียจกับการกระทำของตัวเอง แต่ก็สำนึกบุญคุณของชรัณที่มีต่อครอบครัวของเธอ
“เร็วกว่านี้อีกสิ อืมม~” ใบหน้าหล่อเหลาเปล่งเสียงร้องครางด้วยความเสียวซ่านเมื่อใกล้สุขสมถึงฝั่งฝัน ร่างบางทำตัวว่านอนสอนง่ายยอมทำตามในสิ่งที่เขาต้องการทุกอย่าง
“อ๊าาส์~ พักพิงของผม”
“อ๊ะ!” เสียงหวานร้องออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจเมื่อท่อนเอ็นลำใหญ่ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนเลอะเปรอะเปื้อนฝ่ามือ
“เก่งมากที่รัก คราวหน้าผมว่าคุณคงต้องลองใช้ปากดูบ้างแล้วล่ะ”
“อื้ออ~” พักพิงหยุดนิ่งเมื่อชรัณโน้มริมฝีปากลงมาจูบเธอแบบดูดดื่ม สองมือพยายามดันอกแกร่งให้ถอยห่างเมื่อจูบของเขาเริ่มหนักหน่วงจนเธอหายใจไม่ทัน
“ตอนนี้พิงรู้สึกเวียนหัว ขอไปพักก่อนได้ไหมคะ”
“ได้สิ ห้องของพิงอยู่ทางด้านซ้ายนะ ถ้าผมต้องการคุณเมื่อไหร่ จะให้ลูกน้องไปตาม” ชายหนุ่มบอกคนตัวเล็กด้วยความขัดใจเล็กน้อย เพราะอยากจูบเธอให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย
“ค่ะ”
พักพิงขอแยกห้องนอนส่วนตัว จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะเรียบร้อย ความจริงเธอแค่อยากขอเวลาทำใจให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย
ดวงตาคู่สวยทอดสายตามองวิวตึกสูงผ่านหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องนอนยามค่ำคืนอย่างโดดเดี่ยว ทุกการสัมผัสและเสียงร้องครางหยาบโลนของชรัณยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทไม่หายไปไหน
ครืด~ เสียงสมาร์ตโฟนช่วยปลุกให้ตื่นจากภวังค์ หัวใจดวงน้อยสั่นไหวเมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามาคือแฟนหนุ่ม เธอตัดสินใจกดตัดสายทิ้งแล้วรีบปิดเครื่องหนีไปในที่สุด ตอนนี้รู้สึกละอายเกินกว่าที่จะพูดคุยหรือเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ
“ขอโทษนะพี่ปลื้ม พิงคงไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีของพี่อีกแล้ว ฮึก~” หญิงสาวสะอื้นร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ความรู้สึกผิดต่อคนรักยังคงอยู่เต็มหัวใจ ยังไงปลื้มก็คือผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด
วันต่อมา…
“ทำอะไรแต่เช้า?”
“ทำอาหารเช้าไว้ให้คุณกินก่อนไปทำงานค่ะ ส่วนอาหารกลางวันพิงจัดใส่กล่องเอาไว้ให้แล้ว” ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจเมื่อชรัณเดินเข้ามาสวมกอดไว้แน่นจากทางด้านหลังพร้อมวางใบหน้าหล่อเหลาลงบนบ่าของเธอ
“ไม่เห็นจะต้องลำบากทำอะไรแบบนี้ ผมมีแม่บ้านส่วนตัวคอยทำให้นะ เผื่อคุณยังไม่รู้”
“แต่ชรัณเคยบอกว่าอยากให้พิงทำหน้าที่ของภรรยาไม่ใช่เหรอคะ” คนตัวเล็กหดลำคอหนีเมื่อคนตัวโตใช้ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วลำคอจนรู้สึกขนลุก
“การทำอาหารเช้าก็เป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ”
“ยอมรับแล้วเหรอว่าเป็นเมียผม”
“เอ่อ…”
“ผมก็อยากเป็นผัวคุณจะแย่แล้วเหมือนกัน!”
“ขะ…เข้ามาหาพิงถึงในครัว ชรัณมีอะไรหรือเปล่า” ร่างบางรีบเปลี่ยนเรื่องคุยพร้อมขยับตัวให้ถอยห่างออกมา
“ทำอาหารเสร็จแล้วรีบไปอาบน้ำแต่งตัวนะ วันนี้ผมจะพาคุณเข้าบริษัทไปทำงานด้วย”
“ได้ค่ะ”
-PT GROUP-
พักพิงวาดสายตามองตึกตระหง่านหลายสิบชั้นที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ‘PT GROUP’ คือบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในเครือของปัทมพิสุทธิ์มีพนักงานมากกว่าพันชีวิตโดยมีชรัณเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่
“ชรัณเข้าบริษัทไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวพิงตามเข้าไป”
“จะไปไหน แล้วทำไมไม่เข้าไปพร้อมกัน?”
“ว่าจะแวะไปซื้อของนิดหน่อยค่ะ”
“อยากได้อะไรก็บอกลูกน้องผมสิ จะได้ไม่ต้องไปซื้อเอง”
“พิงอยากไปเองมากกว่า”
“ผมจะไปด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พิงจะรีบไปรีบมา ชรัณไปทำงานเถอะ”
“…..” ชรัณยืนนิ่งเอาแต่มองตามคนตัวเล็กที่เดินไกลออกไปจนสุดสายตา เขาแค่รู้สึกกังวลกลัวว่าเธอจะหายไปแล้วไม่กลับมาหาเขาอีก
“นายน้อยครับ ได้เวลาเข้าบริษัทแล้ว”
“…..”
แกร้ก~ เสียงเปิดประตูดังขึ้นเมื่อพักพิงเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานของชรัณพร้อมข้าวของที่ถืออยู่เต็มสองมือ
“พิงซื้อกาแฟมาฝากค่ะ ทำงานตอนเช้าสมองจะได้โล่งๆ”
“นายน้อยไม่ดื่มกาแฟทุกชนิดครับ”
“พิงไม่รู้ว่าคุณไม่ดื่มกาแฟ ขอโทษด้วยนะ เดี๋ยวจะรีบเอาไปทิ้งให้ค่ะ” พอได้ยินแบบนั้นถึงกลับหน้าเสียเพราะเธอแทบไม่รู้เรื่องราวอะไรที่เกี่ยวกับเขาเลย ต่างจากเขาที่รู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ
“ไม่ต้อง! พิงอุตส่าห์ซื้อมาเดี๋ยวผมกินเอง”
“ถ้าไม่ชอบ ไม่ต้องฝืนกินก็ได้นะคะ”
“อะไรที่พิงทำให้ ผมชอบหมดนั่นแหละ”
“…..”
“มานั่งตรงนี่มา” มือหนาตีลงบนตักแกร่งของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกหญิงสาวให้เข้าหา
“ให้พิงนั่งตักแบบนี้ ไม่อึดอัดเหรอคะ”
“ตัวพิงเล็กนิดเดียวเอง ไม่อึดอัดหรอก ให้อุ้มทั้งคืนยังไหว” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังเลื่อนริมฝีปากลงมาจูบเธออย่างนิ่มนวล โดยไม่สนใจลูกน้องที่ยืนมองอยู่ภายในห้องเลยสักนิด
“อย่าทำแบบนี้ คนอื่นเห็นมันดูไม่ดี”
“แล้วคนอื่นที่พิงว่านี่หมายถึงใคร?”
“…..” เธอเหลือบสายตามองไปยังลูกน้องชุดดำที่ยืนอยู่ทั่วมุมห้อง
“พวกมึงออกไปก่อน แล้วอย่าให้ใครเข้ามาในห้องจนกว่ากูจะสั่ง”
ชรัณเข้าใจในสิ่งที่คนตัวเล็กกำลังคิด ด้วยความเคยชินตั้งแต่เล็กจนโตจึงเป็นคนที่ชอบทำอะไรเปิดเผยต่างจากพักพิงที่ขี้อายและชอบความเป็นส่วนตัว
“แต่อีกสิบนาทีนายมีประชุมนะครับ”
“เลื่อนออกก่อนยี่สิบนาที ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวกูตามไป”
“ครับนายน้อย” ลูกน้องขานรับคำสั่งก่อนจะพากันเดินออกจากห้องมา
“ตอนนี้มีแค่เราสองคน พอใจหรือยัง”
“แล้วคุณคิดจะทำอะไร?”
“แล้วพิงคิดว่าคนอย่างผมทำอะไรได้บ้าง?”
“เราเคยตกลงกันไว้แล้ว ชะ…ชรัณยังจำได้ไหม” เธอพูดเตือนสติเมื่อรู้สึกกังวลต่อการกระทำของมาเฟียหนุ่ม เขารับปากว่าจะไม่ทำอะไรเธอจนกว่าแพรพลอยจะได้รับการรักษาอาการป่วย
“จำได้สิ ผมก็ไม่ได้คิดจะเย็xคุณตอนนี้หรอก”
“…..”
“เมื่อคืนพิงทำให้ผมแล้ว เดี๋ยวครั้งนี้ผมจะเป็นฝ่ายทำให้คุณบ้าง”
มือหนาเลื่อนลงไปลูบไล้บีบคลึงกลีบดอกไม้งามผ่านกางเกงชั้นในที่เธอสวมใส่ ทำเอาหญิงสาวถึงกลับรีบหุบขาเข้าหากันด้วยความตื่นกลัว
“อ้าขาออกสิ”
“…..” พักพิงส่ายหน้าปฏิเสธ ใบหน้าแสนหวานฉายแววความกังวลออกมาอย่างชัดเจน
“ก็แค่นิ้วจะกลัวทำไม”
