EP.6 ข้อเสนอ
“ไม่อร่อยเหรอพิง ทำไมวันนี้ถึงทานไปแค่นิดเดียวเอง” ผู้กองหนุ่มเอ่ยถามแฟนสาวที่เอาแต่นั่งเหม่อลอยไม่ยอมกินข้าวที่สั่งมา
“พอดีว่าพิงไม่ค่อยหิวน่ะ”
“แล้วตอนนี้อาการพลอยเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”
“ยังทรงตัวอยู่ค่ะ หมอบอกต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด”
“ฝากบอกพลอยด้วยนะว่าขอให้หายป่วยไวๆ เอาไว้ถ้าออกมาพักฟื้นที่บ้านเมื่อไหร่แล้วพี่จะแวะเข้าไปเยี่ยม”
“ขอบคุณพี่ปลื้มมากเลยนะคะ” พักพิงฝืนยิ้มให้คนตรงหน้า ยิ่งมองยิ่งรู้สึกผิดอยู่ภายในใจ ปลื้มเป็นคนดีเกินกว่าที่เธอจะบอกเลิกทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิด
ตั้งแต่กลับจากบ้านของชรัณ เธอเอาแต่ครุ่นคิดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ผิดไปซะหมด แต่ด้วยความที่รักครอบครัวมากกว่าสิ่งใด เธอเลยจำเป็นต้องยอมรับข้อเสนอของชรัณแต่โดยดี
“พลอยก็เป็นเหมือนน้องสาวพี่อีกคน มีอะไรที่พี่พอจะช่วยได้ไหม” ผู้กองหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของพักพิงกำลังแสดงความเครียดออกมาจนเขาสังเกตได้
“…..”
“พิงพูดกับพี่ตรงๆ ได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว พี่อยากรับรู้เรื่องของพิงทุกอย่าง”
“คือพิง…” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับกลั้นน้ำตา เธอรู้ตัวดีว่าอีกไม่นานคงไม่ได้ออกมาเจอเขาแบบนี้อีกแล้ว
“พิงว่าเรามากินข้าวกันต่อเถอะค่ะ”
“อย่าถอดแหวนวงนี้ของพี่นะ พี่อยากให้พิงใส่ไว้รอจนกว่าเราจะแต่งงานกัน” ผู้กองหนุ่มเอื้อมไปจับมือแฟนสาวไว้แน่น
“พิงไม่ถอดหรอกค่ะ” พักพิงก้มลงมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นแค่แหวนเงินวงเล็กๆ ธรรมดาแต่มันก็มีความหมายสำหรับเธอมาก
“…..”
โรงพยาบาล…
“อาการน้องสาวฉันเป็นยังไงบ้างคะหมอ?”
“คนไข้ตอบสนองยาตัวใหม่ค่อนข้างดี อาการค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อนคงจะได้กลับบ้านในเร็วๆ นี้ครับ”
“…..” ใบหน้าแสนหวานเผยรอยยิ้มบางๆ มันคือข่าวดีที่เธออยากได้ยินมากที่สุดในตอนนี้
“แต่หมอไม่ขอรับปากนะว่าอาการของน้องสาวคุณจะดีขึ้นได้อีกนานไหมหรือจะกลับมาดื้อยาอีกเมื่อไหร่ หมออยากให้ส่งคนไข้ไปปลูกถ่ายไขกระดูกให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี”
“ค่ะหมอ” แต่ดีใจได้ไม่นานก็ต้องกลับมาเครียดอีกครั้ง การยอมรับข้อเสนอชรัณมันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
แกร้ก~ คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงรีบลุกขึ้นนั่งด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าเป็นพี่สาวที่เดินเข้ามา
“เป็นยังไงบ้างพลอย ดีขึ้นหรือยัง?”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ สงสัยคุณหมอให้ยาตัวใหม่พลอยเลยรู้สึกดีขึ้นมากเลย”
“พี่ซื้อนมกับผลไม้มาฝากพลอยด้วยนะ” พักพิงอดยิ้มตามไม่ได้ สีหน้าและท่าทางของน้องสาวดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ยังไงแพรพลอยก็เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา
“กำลังอยากกินอยู่พอดีเลยค่ะ”
“เดี๋ยวพี่เอาไปล้างแล้วปอกใส่จานให้นะ”
“ขอบคุณพี่สาวคนสวยของหนู”
“…..”
-โกดัง-
“ฉันมาหาชรัณค่ะ” พักพิงเดินเข้าไปหาลูกน้องของชรัณที่อยู่แถวนั้น วันนี้เธอตัดสินใจมาหาเขาด้วยตัวเองเพราะอยากให้น้องสาวได้ทำการรักษาอย่างเร็วที่สุด
“ได้นัดไว้ก่อนหรือเปล่า?” ชายฉกรรจ์มองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยไม่ได้ล่วงรู้ว่าพักพิงคือผู้หญิงของเจ้านาย
“ไม่ได้นัดค่ะ”
“ถ้าไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้าก็พบนายไม่ได้”
“ฉันมีธุระสำคัญ”
“จะสำคัญแค่ไหนก็ไม่ได้ นี่แกพูดไม่รู้เรื่องหรือไง!”
“…..” ร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อถูกเขาตะคอกเสียงใส่ด้วยความรำคาญ
“ออกไปได้แล้ว! อย่ามายืนเกะกะถ้านายออกมาเห็นเดี๋ยวจะซวยกันหมด”
“นั่นมันแขกคนสำคัญของนายน้อย แล้วคนจะซวยก็คือพวกมึงนั่นแหละ!”
เสียงปริศนาดังขึ้นก่อนลูกน้องที่อยู่แถวนั้นจะพากันก้มหัวทำความเคารพให้หัวหน้าใหญ่ของพวกเขาเดินเข้ามา
“ยังยืนโง่อยู่อีก รีบเข้าไปขอโทษคุณพักพิง ถ้าเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกนาย เงาหัวพวกมึงได้หลุดออกจากบ่าแน่!”
“คุณพักพิงครับ ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พิงเข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่” หญิงสาวพูดอย่างไม่ติดใจอะไร เธอผิดเองที่ไม่ยอมบอกเขาล่วงหน้าว่าจะมาที่นี่
“มาหานายใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ พิงมาหาชรัณ แต่ไม่ได้นัดไว้”
“ไม่ได้นัดก็ไม่เป็นไรครับ ตามผมมาทางนี้ เดี๋ยวผมพาไปพบนาย”
“…..” พักพิงเดินนำเข้ามาในตัวโกดังเก็บสินค้าด้วยความประหม่าสถานที่ตรงนี้ล้วนมีแต่ชายฉกรรจ์เต็มไปหมดจะมีก็แค่เธอที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว
“นายน้อยอยู่ในห้อง เชิญคุณพิงเข้าไปได้เลยครับ”
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
แกร้ก~ สองขาเรียวหยุดชะงักเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้วเห็นชรัณที่กำลังยืนหันหลังสูบบุหรี่ด้วยท่อนบนเปลือยเปล่าส่วนท่อนล่างสวมใส่เพียงกางเกงขายาวสีดำ
เม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่ตามกล้ามเนื้อบ่งบอกได้ว่าเขาเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนักก่อนหน้านั้น
“ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองวัน ทำไมถึงตัดสินใจเร็วนักล่ะ”
“ไม่ว่าจะวันไหนก็คงเหมือนกัน พิงเลยอยากมาคุยให้มันจบๆ ไป”
“เชิญครับ” ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งจ้องมองคนตัวเล็กที่ยืนห่างออกไปหลายเมตร
“พิงไม่ต้องการจัดงานแต่ง ไม่ต้องการจดทะเบียนสมรส”
ดวงตาเฉี่ยวคมค่อยๆ ไล่สายตามองสำรวจเรือนร่างอรชรอย่างพิจารณาเมื่อได้ยินคำต่อรอง
ชรัณไม่ใช่คนธรรมดาที่เธอจะล้อเล่นด้วยง่ายๆ ถ้าทำให้โกรธหรือไม่พอใจ เขาสามารถสั่งลูกน้องให้ฆ่าปิดปากเธอได้ทันที
“พิงกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?” นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายรีบหลบตาพร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นเทาบ่งบอกว่ากำลังหวาดกลัวเขามากแค่ไหน
“พิงพูดจริงค่ะ ชรัณต้องการแค่ตัวพิงไม่ใช่หรอกหรอ”
“ไม่ยอมจดทะเบียน ไม่ยอมให้จัดงาน แล้วมันจะเรียกว่าแต่งงานได้ยังไง?”
“พิงคิดว่างานแต่งหรือทะเบียนสมรสคงไม่จำเป็น ชรัณคงคิดเหมือนกันใช่ไหม”
“แต่สิ่งที่พิงทำมันไม่ต่างอะไรจากการขายตัวเลยนะรู้ไหม” ถึงแม้จะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกลับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
“ชรัณจะคิดแบบนั้นก็ได้ เพราะมันคือเรื่องจริง”
“ถ้าพิงต้องการแบบนั้น ผมก็ทำให้ได้”
“เงินก้อนนั้นมันสำคัญกับพิงมากจริงๆ ขอให้พิงเถอะนะ”
“เข้ามาใกล้ๆ สิ แล้วผมจะให้เงินตามที่พิงต้องการ”
“…..” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างชั่งใจพลางเหลือบสายตามองไปยังเงินสดกองโตจำนวนหลายสิบล้านที่วางอยู่ข้างชายหนุ่ม เธอไม่เคยต้องรู้สึกหนักใจขนาดนี้มาก่อน…
“อยากได้เงินมากไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่เข้ามาหาผม”
เมื่อความจำเป็นบีบบังคับให้ต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อครอบครัว พักพิงจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทั้งน้ำตาอย่างไม่มีทางเลือก
“ผมหมายถึงให้คลานเข้ามา!”
“…..” พักพิงหย่อนตัวนั่งลงคุกเข่าต่อหน้า ก่อนจะคลานเข้าไปอยู่ตรงกลางหว่างขาตามคำสั่ง
ใบหน้าแสนหวานเงยขึ้นไปมองส่งสายตาอ้อนวอนหวังว่าชรัณจะยอมทำตามคำพูดของตัวเอง
“ว่ามาสิ เด็กดีของผมจะเอาเท่าไหร่?” มือหนาเลื่อนไปประคองใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างนิ่มนวล พักพิงคือผู้หญิงที่น่าทะนุถนอมมากที่สุด เขาไม่เคยอ่อนโยนกับใครเท่านี้มาก่อน
“แล้วชรัณจะให้พิงได้เท่าไหร่”
“พิงฉลาดมากนะที่ตั้งคำถามแบบนี้กับผม” ชรัณหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความชอบใจ ถึงแม้สายตาของเธอจะแสดงความหวาดกลัวแต่ก็ยังมีความกล้าที่จะต่อรอง
“ผมให้ได้ตามที่พิงต้องการเลย”
“…..” สองมือเล็กวางลงบนต้นขาแกร่งพลางเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางเมื่อชายหนุ่มพยายามจะโน้มริมฝีปากลงมาจูบเธอ
“ว่าไง พิงจะเอาเท่าไหร่?”
“พิงขอห้าสิบล้านตามที่เราเคยตกลงกันไว้”
“แน่ใจว่าจะเอาแค่ห้าสิบล้าน ผมให้พิงได้มากกว่านั้นนะ ลองคิดดูดีๆ”
“แน่ใจค่ะ พิงขอแค่ตามที่เราตกลงกันไว้ก็พอ”
“พิงคงรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ได้ให้เงินก้อนนี้กับคุณฟรีๆ”
“รู้ค่ะ” คนตัวเล็กตองเสียงเบาอย่างรู้ชะตากรรมม แต่เพื่อความอยู่รอดของน้องสาวยังไงก็ต้องยอม
“ถ้ายืนยันแบบนั้นก็ได้ครับ แต่คุณต้องเซ็นสัญญากับผม”
“สะ…สัญญาอะไร?”
“สัญญาที่คุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับผมฉันท์สามีภรรยาจนครบระยะเวลาหนึ่งปี ถ้าไม่ทำตามสัญญาพิงต้องชดใช้เงินทั้งหมดคืนให้ผมพร้อมดอกเบี้ยเพิ่มเป็นสองเท่า ตกลงไหม?!”
“หนึ่งปี!?”
“มันไม่มากไปหรอกถ้าแลกกับเงินห้าสิบล้านที่ผมเสียไป ถ้าเกิดคุณหนีตามผู้ชายคนอื่นขึ้นมา แบบนี้ผมก็เสียเงินฟรีน่ะสิ!”
“…..” ร่างบางสะอึกจุกในลำคอ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะใช้วิธีนี้เล่นงานเธอ
“ผมเป็นนักธุรกิจนะ ยังไงผลประโยชน์ก็ต้องมาก่อน”
“…..”
“ถ้ายอมรับข้อเสนอก็เซ็นเอกสาร” ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าเธอจนตรอกไม่มีหนทางปฏิเสธ
“พิงเป็นคนฉลาด เรื่องแค่นี้ควรจะรู้นะ ว่าต้องจัดการยังไง”
“ตกลงค่ะ พิงจะเซ็นสัญญากับคุณ แต่…”
ดวงตาคู่สวยหลับตาพริ้มเมื่อชรัณโน้มริมฝีปากลงมาจูบแบบดูดดื่มโดยที่เธอไม่ได้ขัดขืน เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากเล็กอย่างเอาแต่ใจพลางถกเสื้อยืดและบราเซียตัวจิ๋วให้ขึ้นมากองอยู่ที่เนินอกอวบอั๋น
หัวใจแกร่งเต้นแรงเมื่อเห็นเต้าอวบขาวเนียนและยอดปทุมถันสีชมพูระเรื่อของคนตรงหน้า กลิ่นกายหอมของเธอทำให้เขารู้สึกพึงพอใจจนยากจะถอนตัว
“รีบถอดเสื้อผ้าออกสิ”
“ไม่ค่ะ”
“ทำไม?”
“พิงจะยอมเป็นของชรัณก็ต่อเมื่อแพรพลอยได้ไปรักษาตัวที่อังกฤษเรียบร้อยแล้วค่ะ”
