EP.5 สิ่งที่ต้องแลก
ดวงตาคู่สวยวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความกังวลเมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวมาจอดอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่สุดหรูใจกลางเมือง
“ชรัณอยู่บ้านหลังนี้แหละ”
“เรากลับบ้านกันเถอะแม่ มันดูน่ากลัวพิงไม่อยากเข้าไปเลย” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเมื่อมองเห็นชายชุดดำจำนวนหลายคนที่เดินขวักไขว่อยู่รอบตัวบ้านเต็มไปหมด
ก๊อก! ก๊อก! สองแม่ลูกสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกรถ
พรพรรณตัดสินใจลดกระจกลงต่ำอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกระบอกปืนเหน็บอยู่ในกระเป๋ากางเกงของลูกน้องชรัณ
“มาหาใคร?” ชายฉกรรจ์ถามผู้มาใหม่ ถ้าจะเข้าไปในตัวบ้านต้องได้รับอนุญาตจากผู้เป็นนายก่อนเท่านั้น
“ชรัณอยู่ไหม?”
“พวกเธอเป็นใคร มีธุระอะไรกับนายน้อย?”
“ไปบอกนายของพวกแกว่าพรพรรณกับลูกสาวมาหา ฉันต้องการพบชรัณ”
“งั้นรอแป๊บนึง” ลูกน้องพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาผู้เป็นนาย โดยมีสายตาของคนทั้งสองที่มองด้วยความหวาดระแวง
“นายอนุญาตให้เข้าพบได้ เชิญเข้าไปรอด้านใน”
พรพรรณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างนึกดีใจ พร้อมจูงมือลูกสาวให้เดินตามมาเข้ามาในบ้านแล้วเห็นชายหนุ่มนั่งกอดอกไขว่ห้างรอต้อนรับพวกเธออยู่
“น้าขอโทษที่มารบกวนนะ พอดีเราสองคนมีเรื่องสำคัญมากอยากจะคุยกับชรัณ”
“ตอนนี้ผมยังไม่สะดวก พอดีรู้สึกเมื่อยๆ ว่าจะขอไปนวดตัวสักหน่อย คุณน้ากับพักพิงรอได้ไหมครับ” ชายหนุ่มก้มมองนาฬิกาข้อมืออย่างไม่รู้สึกอะไร ต่างจากคนทั้งสองที่กำลังร้อนรนจนเขาเองก็รู้สึกได้
“เอ่อ…รอได้สิ ทำไมจะรอไม่ได้ล่ะ”
“…..”
“พิงว่าเรากลับกันเถอะแม่ ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน” พักพิงเอ่ยบอกผู้เป็นแม่หลังจากที่ชรัณเดินออกไปแล้ว เธอกำลังคิดว่าบางทีเขาอาจจะกำลังเอาคืนเรื่องที่เธอปล่อยให้เขารอที่ร้านอาหารในวันนั้น
“มาถึงขนาดนี้แล้วนานแค่ไหนก็ต้องรอ”
“…..”
หลายชั่วโมงผ่านไป…
“โอ้ยยย! เมื่อไหร่นายของพวกแกจะมา ฉันรอมาหลายชั่วโมงแล้วนะ” พรพรรณที่เริ่มทนไม่ไหวโวยวายออกมาอย่างเหลืออด ผ่านไปเกือบห้าชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่ม
“นายน้อยนวดตัวเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังแช่ออนเซ็นอยู่ อีกสักพักก็คงมา”
“ให้ตายเถอะ!” ผู้เป็นแม่ยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ อย่างละเหี่ยใจ
“พิงบอกแล้วไงว่าให้กลับบ้าน”
“ถ้ากลับแล้วจะเอาเงินจากไหน เมื่อไหร่จะเลิกโง่สักที!” พอได้ยินในสิ่งที่ลูกสาวพูดยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก
“เดี๋ยวพิงลองยืมกับพี่ปลื้มก่อนก็ได้”
“แกกำลังฝันอยู่เหรอ เงินตั้งมากมายขนาดนั้น แฟนจนๆ ของแกมันจะไปหามาจากไหน!”
“…..”
“นายว่างแล้ว เชิญเข้าไปพบได้” ลูกน้องคนสนิทเดินมารายงานคนทั้งสองที่นั่งรอตั้งแต่เย็นจนถึงดึกดื่น
แกร้ก~ บานประตูห้องทำงานของชายหนุ่มถูกเปิดออก เผยให้เห็นเจ้าของห้องที่กำลังนั่งสูบบุหรี่ด้วยท่าทางสบายใจ
“เชิญนั่งก่อนสิ”
“น้าขอเข้าเรื่องเลยแล้ว…”
“เดี๋ยวผมขอดื่มสักหน่อย จากนั้นค่อยมาคุยธุระกันดีไหม?” ชรัณบอกคนตรงหน้าอย่างไม่ได้รีบร้อนมากนัก เขาหยิบขวดเหล้าขึ้นมายกดื่มพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวที่ยืนหลบอยู่ทางด้านหลังของผู้เป็นแม่ด้วยความพึงพอใจ สุดท้ายเธอก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเขาเอง!
“แล้วแต่ชรัณเลยจ่ะ น้ารอได้” ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่ภายในใจของพรพรรณกลับร้อนรุ่มอยากพูดในสิ่งที่ต้องการให้เร็วที่สุด
“ขอพิงกับแม่คุยธุระก่อนได้ไหม” พักพิงตัดสินใจรวบรวมความกล้าพูดมันออกไป เธอแค่อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“อุตส่าห์แบกหน้ามาหาผมถึงที่นี่คงมีธุระสำคัญมากเลยใช่ไหม”
“น้ามีเรื่องอยากจะรบกวนชรัณสักหน่อย”
“อยากได้เท่าไหร่?”
“…..”
“ผมหมายถึงเงิน จะเอาเท่าไหร่!?”
“เอ่อ…” พรพรรณชะงักนิ่งเมื่อชายหนุ่มพูดถูกจุดเข้าอย่างจัง ที่มาหาเขาก็เพราะเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว
“ผมอยากคุยกับพักพิงเป็นการส่วนตัว เชิญคุณน้าออกไปรอด้านนอกก่อนครับ”
“ทำไมไม่ให้แม่อยู่ด้วย” พักพิงแย้งขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เธอรู้สึกกังวลเพราะไม่สามารถคาดเดาการกระทำของคนตรงหน้าได้เลย
“จะเอาไหมเงิน?”
“เอาสิเอา เดี๋ยวแม่ออกไปรอข้างนอกก่อนนะ” เมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของชายหนุ่ม ผู้เป็นแม่จึงรีบตอบตกลงแล้วเดินออกจากห้องไป
“…..”
“ว่ามาสิ พิงจะเอาเท่าไหร่?”
“ชรัณเคยบอกกับพิงว่ารู้จักหมอเก่งๆ ที่รักษายัยพลอยได้ พิงอยากพาน้องไปรักษาที่นั่น”
“แล้วยังไงครับ?” ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มมุมปากแล้วรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อ เขาแค่อยากให้เธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
“ช่วยพิงหน่อยได้ไหม พะ…พิงอยากให้น้องหายป่วย” น้ำตาแห่งความเสียใจไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ภาพที่น้องสาวกำลังป่วยหนักมันทำให้เธอทนแทบไม่ไหว
“ร้องไห้ทำไม เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง” ชายหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ต่อหน้าของหญิงสาวแล้วใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกให้
“ที่พิงกับแม่มาวันนี้เพราะอยากมาขอความช่วยเหลือจากชรัณ”
“ผมช่วยพิงได้อยู่แล้ว แต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรสักหน่อย” ใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำจนเกือบจะจูบกันอยู่ร่อมร่อโดยที่เธอไม่ได้ขยับหนีหรือผลักเขาออกเหมือนที่ผ่านมา
“ข้อแลกเปลี่ยน?”
“…..”
แกร้ก~
“เป็นยังไงยัยพิง ชรัณมันว่ายังไงบ้าง?” พรพรรณรีบเดินเข้าไปหาลูกสาวหลังจากที่เห็นพักพิงเดินออกมาจากห้อง
“ขะ…เขาบอกว่าจะพายัยพลอยไปรักษาที่อังกฤษพร้อมให้เงินสดกับครอบครัวเราอีกห้าสิบล้าน” หญิงสาวเปล่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่คิดมาก่อนว่าในชีวิตต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
“คุณพระช่วย! แกพูดจริงหรือเปล่า แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” ผู้เป็นแม่รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นโดยไม่สนว่าลูกสาวกำลังก้มหน้าร้องไห้หนักขนาดไหน
“เรื่องจริงค่ะ แต่…”
“แต่อะไร แต่ทำไม!”
“แต่หนูต้องแต่งงานกับเขาค่ะแม่”
“แล้วแกมัวรออะไร ทำไมไม่ตอบตกลง”
“เขาให้เวลาพิงตัดคิดและสินใจสามวันแล้วจะมาเอาคำตอบ”
