EP.13 บอกรักพักพิง
ก๊อก! ร่างบางลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงียจากพิษไข้เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอรู้สึกแปลกใจที่เห็นว่าเป็นชายแปลกหน้าเดินเข้ามาหาพร้อมกับกล่องยาที่อยู่ในมือ
“ไอ้ชรัณโทรตามให้มาดูอาการของเธอ”
“อ่อ…ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจแบบไม่อิดออด ท่าทางดูสุขุมสะอาดสะอ้านคงจะเป็นหมอที่ชรัณส่งมารักษาเธอ
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง?” เขาไล่สายตามองสำรวจเพื่อดูอาการ มองแค่แวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคนนี้ไปโดนอะไรมา
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ปวดหัวนิดหน่อยยังรู้สึกเจ็บอยู่”
“ที่บอกว่าเจ็บ นี่เจ็บตรงไหน?”
“เอ่อ…” พักพิงถึงกลับนิ่งไปเมื่อได้ยินคำถาม ถ้าจะบอกว่าเจ็บตรงหว่างขามันก็คงดูน่าอายเกินไป
“ตรงนั้นคงจะอักเสบหรือไม่ก็ฉีกไปแล้ว เดี๋ยวฉันฉีดยาแก้ปวดกับยาแก้อักเสบให้แล้วกัน”
“…..”
“ยังไงก็บอกผัวเธอให้เบามือหน่อย อย่าเล่นอะไรพิเรนทร์ให้มากนัก ฉันไม่ได้ว่างมาดูแลพวกเธอตลอดเวลาหรอกนะ”
“ค่ะ” หญิงสาวขานรับโดยที่ไม่ได้เข้าใจมากนัก ท่าทางของคนตรงหน้าคล้ายกับหงุดหงิดรำคาญใจที่ต้องมาดูแลเธอ
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหรอคะ ทำไมท่าทางเขาดูแปลกๆ มันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้” พักพิงหันไปกระซิบกระซาบถามคนอยู่ข้างๆ หลังจากที่หมอหนุ่มคนนั้นเดินออกไปแล้ว
“ชื่อคุณเซปค่ะ เป็นเพื่อนสนิทของนายน้อย”
“ชรัณมีเพื่อนเป็นหมอด้วยเหรอคะ?”
“ก็ไม่เชิงว่าเป็นหมอหรอกค่ะ คุณเซปเรียนจบหมอที่แคนาดาแต่ผันตัวมาทำธุรกิจเรือสำราญ”
ใบหน้าแสนหวานเริ่มฉายความกังวลขึ้นมาอย่างชัดเจน เขาไม่ใช่หมอโดยตรงแต่ทำไมชรัณถึงไว้ใจให้มารักษาเธอ
“ไม่ต้องคิดมากนะคะ นอนพักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวงานบ้านป้าจัดการเอง”
“พิงขอโทษนะคะ ที่วันนี้ไม่ได้ช่วยป้าทำงาน” คนตัวเล็กละความคิดก่อนหน้านั้น แล้วหันไปสนใจและจดจ่อกับคนตรงหน้า
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ คุณเป็นเมียนายน้อยเท่ากับเป็นนายของป้าด้วย”
“…..”
“ป้าขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรก็เรียกป้าได้ตลอดเลย”
-PT GROUP-
รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาเมื่อมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดภายในบ้านขณะที่พักพิงกำลังนั่งพูดคุยกับตุ๊กตาภายในห้องนอนของเธอ
เขาสั่งลูกน้องให้เข้าไปติดกล้องวงจรปิดภายในห้องนอนของหญิงสาวตั้งแต่วันแรกโดยที่พักพิงไม่ได้ระแคะระคายหรือรู้ตัวมาก่อน ทุกการ
กระทำของเธอล้วนอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด
ก๊อก! ก๊อก! มาเฟียหนุ่มละสายตาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะเห็นว่าเป็นพนักงานสาวที่เดินนวยนาดเข้ามาหา
“ขออนุญาตค่ะนาย พอดีแหวนเอาเอกสารมาให้นายเซ็นรับทราบค่ะ” เลขาสาวพูดเสียงหวานออดอ้อน ชรัณคือเจ้านายที่เธอแอบชอบมานานหลายปี
“ด่วนมากไหม?”
“ด่วนค่ะ”
“งั้นยืนรอก่อน เดี๋ยวรีบเซ็นให้”
“…..” แหวนยืนมองเจ้านายด้วยสายตาหยาดเยิ้มพลางคิดจินตนาการไปถึงเรื่องราวบนเตียง แต่กลับต้องรู้สึกหงุดหงิดเมื่อนึกเห็นใบหน้าของพักพิงในวันนั้น
“ผู้หญิงที่มากับนายวันนั้นเป็นใครเหรอคะ?”
“ถามทำไม เรื่องส่วนตัวของเจ้านายมันอยู่ในหน้าที่ของเธอด้วยเหรอ?” มาเฟียหนุ่มตอบกระแทกใส่ด้วยความรำคาญโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอแต่อย่างใด
“เอ่อ…แหวนเเค่เห็นว่าเธอสวยดีค่ะ ดูเหมาะสมกับนายมากเลย”
“สวยสิ พักพิงของฉันน่ะสวยที่สุด” พอได้ยินแบบนั้นถึงกลับเผลอยิ้มบางๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ภาพที่เธอนอนเปลือยกายอยู่ใต้ร่างมันช่างน่าหลงใหลจนยากที่จะสลัดออกจากความคิด
“เธอคนนั้นคงเป็นแฟนนายแน่เลยใช่ไหมคะ” ถึงแม้จะถามแบบนั้นแต่ภายในใจลึกๆ ยังมีความหวังว่าจะได้เจ้านายหล่อรวยมาครอบครอง เพราะที่ผ่านมาชรัณยังไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหน สำหรับพักพิงก็คงจะเหมือนกัน
“ไม่ใช่แฟนแต่เป็นเมีย”
“…..”
-บ้านปัทมพิสุทธิ์-
“คุณพิงเป็นยังไงบ้าง?” ชรัณเอ่ยถามลูกน้องด้วยความเป็นห่วง พอเสร็จจากงานที่บริษัทก็รีบกลับมาหาเธอในทันที
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ตอนนี้กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้าน”
“ขอบใจมาก”
ฟ่อด! หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ด้วยความตกใจเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังพร้อมขโมยหอมแก้มหลายครั้ง
“คิดถึงพิงจัง ว่าแต่หายดีแล้วใช่ไหมถึงออกมาเดินเล่นแบบนี้”
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ”
“หายโกรธผมแล้วใช่ไหม?”
“พิงบอกแล้วไงคะ ว่าไม่ได้โกรธ” คนตัวเล็กพูดเสียงเบาเพราะเจียมตัวดีว่ากำลังอยู่ในฐานะไหน
“คุณโกหกไม่เก่งเลยนะ สีหน้าคุณมันบอกทุกอย่างหมดแล้ว” ชรัณใช้มือบีบแก้มอย่างเอ็นดู นับว่าเป็นข้อเสียของพักพิงที่ไม่ว่าจะรู้สึกยังไงมักจะแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน
“…..”
“บอกมาสิว่าจะให้ผมชดใช้ความผิดนี้ยังไง ผมยินดีทำให้พิงทุกอย่าง”
“ไม่ต้องชดใช้อะไรให้พิงหรอก มันเป็นสิ่งที่พิงควรตอบแทนให้คุณมากกว่า”
“…..”
“พิงไม่เคยลืมเลยนะคะว่าชรัณมีบุญคุณกับครอบครัวพิงมากแค่ไหน”
“สำหรับผมให้ก็คือให้ ไม่ได้ถือว่าเป็นบุญคุณอะไรทั้งนั้น” มาเฟียหนุ่มยืนนิ่งจ้องมองปล่อยให้คนตัวเล็กคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะอยู่แบบนั้น
“แต่สำหรับพิงมันคือบุญคุณค่ะ ขอเวลาให้พิงหน่อยนะ พิงจะอดทนให้ได้มากกว่านี้” หญิงสาวพูดด้วยความรู้สึกผิดไม่ต่างกัน ผิดที่เธอตอบสนองให้เขาไม่ได้เท่าที่ควร
“ผมมีที่ดินทำเลดีมากอยู่ข้างๆ บริษัท พิงสนใจอยากมาเปิดร้านกาแฟไหมหรือจะทำเป็นคาเฟ่แบบครบวงจรไปเลยก็ได้” มาเฟียหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อคนตัวเล็กเริ่มมีสีหน้าซีเรียสขึ้นมา
“ปะ…เปิดร้านคาเฟ่เลยเหรอคะ” ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำจะได้ผลเมื่อพักพิงลืมความเครียดก่อนหน้านั้นจนหมดสิ้น
ที่ผ่านมามีเงินไม่มากพอเธอเลยทำได้แค่ร้านกาแฟเล็กๆ ส่วนร้านคาเฟ่มันคือหนึ่งในความฝันอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะมีร้านสวยๆ เป็นของตัวเอง
“ถ้าพิงสนใจผมยินดีจะยกที่ดินตรงนั้นให้คุณเลย”
“…..”
“ร้านเก่าที่คุณเพิ่งขายไป ผมว่ามันทั้งเล็กแล้วก็โทรมมากเลยนะ”
“แต่พิงรักร้านนั้นมาก พิงเป็นคนสร้างมันมากับมือ” หญิงสาวพูดอย่างคิดถึง มันคือจุดเริ่มต้นหลายๆ อย่าง ในชีวิตเธอ แต่ต้องตัดใจขายมันทิ้งไปเพราะความจำเป็น
“เดี๋ยวค่อยมาสร้างใหม่กับผมไง เอาให้ใหญ่และดีกว่าเดิม”
“ชรัณจะเปิดร้านกาแฟให้พิงจริงๆ ใช่ไหม?”
“ผมกลัวคุณไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เลยอยากหาอะไรให้ทำ”
“…..” ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างในรอบหลายวัน มันคือข่าวดีที่มีความสุขมากที่สุด
“หรือถ้าพิงไม่อยากทำก็นอนอยู่บ้านเฉยๆ ได้นะ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว แค่เมียตัวเล็กๆ คนเดียวผมเลี้ยงได้หรือจะให้เลี้ยงลูกของเราอีกสักสิบคนก็ยังได้”
“อยากทำค่ะ พิงอยากเปิดร้านกาแฟ” ดวงตากลมโตฉายแววแห่งความดีใจออกมาแบบเปิดเผยโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามาเฟียหนุ่มกำลังรู้สึกเอ็นดูเธอมากแค่ไหน
“เดี๋ยวผมจัดการให้ เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปดูทำเลด้วยกัน จากนั้นค่อยมาตกลงกันอีกที”
“ตกลงค่ะ”
“ถ้าทำให้พิงพอใจแล้วช่วยจูบผมแรงๆ เพื่อเป็นการขอบคุณหน่อยได้ไหม”
เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจูบกับชายหนุ่มเพื่อเป็นการขอบคุณ
“ขอบคุณนะ”
“อืม~” หัวใจแกร่งเต้นแรงจนทนแทบไม่ไหวเป็นฝ่ายโน้มตัวลงไปจูบร่างบางอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีกจนริมฝีปากบางของเธอแดงเถือก
“ผมรักคุณ”
