EP.11 เป็นของชรัณ
สนามบิน…
ในที่สุดวันที่พวกเรารอคอยก็มาถึง มันเป็นวันที่พลอยกำลังจะได้บินไปรักษาตัวที่อังกฤษ โดยมีชรัณเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยดูแลประสานงานกับทางโรงพยาบาลและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ฉันมาส่งน้องกับแม่ที่สนามบิน โดยที่ชรัณไม่ได้ตามมาด้วยเพราะติดงานแต่เขาก็ยังส่งลูกน้องให้ตามฉันมาอยู่ดี
“ตื่นเต้นไหมพลอย อีกไม่นานจะหายแล้วนะ” ฉันถามพลอยที่นั่งอยู่บนรถเข็นวีลแชร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข น้องคงดีใจมากและรอวันนี้มานานมากแล้ว ถ้าน้องหายจะได้กลับมาเรียนมหาวิทยาลัยและใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่น อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยแต่มันก็คุ้มถ้าทำให้น้องหายเป็นปกติ
“พลอยดีใจมากเลยพี่พิง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้พี่ไปด้วยกัน”
“พี่ก็อยากไปกับพลอยนะ แต่พี่มีงานสำคัญต้องทำ”
“พลอยเข้าใจค่ะ พี่อยู่ทางนี้ดูแลตัวเองดีๆ นะ”
“พลอยกับแม่นั่นแหละที่ต้องดูแลตัวเองดีๆ ตอนนี้ที่อังกฤษอากาศหนาวมากเลยนะระวังจะป่วยเอา” ฉันลูบหัวน้องด้วยความเอ็นดู ถึงพลอยจะป่วยแต่ก็ยังคิดเป็นห่วงฉันอยู่ตลอด
“พลอยกับแม่เตรียมเสื้อกันหนาวไปเยอะมาก พี่ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรานะ”
“ถ้าถึงอังกฤษแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ ห้ามลืมเด็ดขาด”
“ไม่ลืมหรอกค่ะ”
“ดูแลลูกสาวฉันให้ดีๆ นะ ห้ามทำอะไรพักพิงเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจให้มาลากเจ้านายแกกับพวกแกเข้าคุกเข้าตารางให้หมด!” เสียงแหลมๆ ของแม่บอกลูกน้องของชรัณที่ยืนห่างออกไป
“พวกเขาไม่ทำอะไรพิงหรอกแม่ แม่รีบพาน้องไปขึ้นเครื่องเถอะ”
“ถ้าน้องหายแล้วแม่จะพาน้องกลับมาอยู่กับแกนะ ดูแลตัวเองดีๆ”
“ค่ะแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะ” ฉันเดินเข้าไปกอดแม่เพื่อบอกลา ไม่คิดมาก่อนว่าพวกเราสามคนจะต้องแยกกันไปแบบนี้
“แม่ไปก่อนนะ”
“ดูแลน้องดีๆ นะแม่”
“…..” ฉันได้แต่ยืนมองแม่กับน้องที่เดินห่างออกไปไกลเรื่อยๆ จนลับสายตา ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ต้องพยายามฝืนกลั้นความรู้สึกของตัวเองมากแค่ไหนที่จะไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าพวกเขา ฉันอยากให้แม่กับน้องไปแบบที่ไม่มีห่วงอะไรทั้งนั้น
“พลอยจะหายจริงๆ ใช่ไหมคะ น้องจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฉันถามลูกน้องของชรัณด้วยน้ำเสียงสะอื้น พอเอาเข้าจริงมันเริ่มรู้สึกกังวลไปซะทุกอย่าง
“หมอรักษาคุณแพรพลอยเป็นถึงหมอเฉพาะทางขึ้นชื่อของประ
เทศอังกฤษ นายน้อยใช้เงินจำนวนมากเพื่อดึงตัวเขามารักษาให้คุณพลอยแบบเร่งด่วน ยังไงน้องคุณต้องหายแน่นอน อย่ากังวลไปเลย”
“…..” พอได้ยินแบบนั้นถึงกลับรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก และหลังจากนี้ต่อไปคงต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองตามที่เคยได้ให้สัญญากับเขาไว้
“กลับกันเถอะครับ นายคงกำลังรอคุณพิงอยู่”
บ้านปัทมพิสุทธิ์…
“เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีใช่ไหม?” ชนัณเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทเมื่อพวกเรากลับมาจากสนามบิน
“เรียบร้อยทุกอย่างแล้วครับนาย”
“พวกมึงออกไปก่อนไป กูอยากอยู่กับพักพิงแค่สองคน”
“รับทราบครับนายน้อย”
“…..” ฉันได้แต่ยืนก้มหน้ามองพื้นพร้อมหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงจนแทบบ้า เคยคิดเอาไว้บ้างแล้วว่าต้องมีวันนี้ แต่พอเอาเข้าจริงมันกลับรู้สึกตื่นกลัวกว่าที่คิดไว้
“ผมมาทวงสัญญาของผม หวังว่าพิงคงไม่ลืมนะ ว่าเราตกลงอะไรกันไว้”
“ค่ะ พิงไม่ลืม”
“งั้นก็เริ่มเลยสิ ผมรออยู่”
ฉันเลื่อนมือที่สั่นเทาค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้นจนเผยให้เห็นถึงร่างกายเปลือยเปล่า โดยมีชรัณที่นั่งกอดอกจ้องมองทุกการกระทำแบบเงียบๆ มันทั้งรู้สึกอายและกลัว เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนไหน
“เดินเข้ามาหาผมสิ”
ฉันเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวโตอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตามคำสั่ง สายตาของเขาที่มองมามันยังทำให้รู้สึกขนลุกอยู่เสมอ
“อยากนอนกับผมหรือเปล่า?”
“พิงเคยรับปากกับคุณไว้แล้ว พิงไม่อยากผิดสัญญาค่ะ”
ชรัณอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนบอกกับฉันเองว่าไม่ชอบผิดคำพูดกับใครแล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาผิดคำพูดด้วยเหมือนกัน
“ผมไม่ชอบขืนใจใคร ถ้าคุณไม่ได้เต็มใจที่จะมีอะไรกับผม เรายังไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ ผมอยากให้คุณพร้อมจริงๆ”
“…..” ฉันหยุดนิ่งไปชั่วขณะเพราะไม่คิดว่าคำพูดพวกนี้จะหลุดออกมาจากปากเขา ในเมื่อชรัณทำตามสัญญาไว้แล้ว ฉันก็ควรจะทำด้วยเหมือนกัน
“ผมอยากให้คุณมีความสุขกับครั้งแรกของเรา ไม่อยากต้องบีบบังคับหรือฝืนใจใคร”
“พิงพร้อมแล้วค่ะ”
“ไหนบอกว่าพร้อม?” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางตื่นกลัวของฉัน
“ถ้าพร้อมแล้วตัวสั่นทำไม?”
“ก็พิงยังมะ…ไม่เคยทำแบบนั้น เลยไม่รู้ว่ามันต้องรู้สึกแบบไหน” ฉันตอบเสียงเบาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมองเขา
“แน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะให้ผมทำแบบนี้”
“แน่ใจค่ะ จะช้าหรือเร็วยังไงพิงก็ต้องเป็นของชรัณอยู่ดี”
“เข้าใจพูดดีนะ”
ร่างเปลือยเปล่าของฉันถูกเขาอุ้มกระเตงเดินเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะวางลงบนเตียงอย่างเบามือ
“พักพิงของผมอมชมพูไปทั้งตัวเลยนะ”
สัมผัสหวาบหวามทำเอาฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อชรัณโน้มริมฝีปากลงมาขบเม้มที่เนินอกทั้งสองข้าง
“อื้ออ~” มือเล็กเลื่อนไปขยุ้มผมคนตัวโตด้วยความเสียวซ่านหลังจากที่ถูกเรียวลิ้นสากโลมเลียยอดอกอย่างมูมมามเหมือนที่ชอบรังแกฉันอยู่บ่อยๆ
“เสียวหรือเปล่า”
“มันสะ…เสียวค่ะ~”
“ผมรู้ว่าพิงชอบแบบไหน ตรงนั้นของพิงคงเยิ้มแล้วสินะ” ริมฝีปากหนายกยิ้มอย่างร้ายกาจหลังจากที่แกล้งฉันได้สำเร็จ ขาเรียวทั้งสองถูกเขาจับแยกออกจากกันก่อนใบหน้าคมคายจะโน้มลงมาซุกไซ้คลอเคลียที่ใจกลางความเป็นสาว
“อ๊ะ~” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนควบคุมไม่อยู่ เมื่อถูกชรัณสอดเรียวลิ้นเข้าออกในร่องสวาทชุ่มฉ่ำนานหลายนาที พร้อมดูดกลืนกินน้ำล่อลื่นที่ฉันปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านั้นอย่างไม่รังเกียจ
เล็บสวยจิกลงบนผ้าปูที่นอนอย่างแรงจนยับยู่ยี่เพื่อระบายความรู้สึกร้อนแรงที่เขามอบให้จนต้องจิกเท้าเกร็งค้างไว้กลางอากาศ
“รู้ตัวไหมว่าตอนนี้คุณน่าเอามากแค่ไหน” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังผละตัวลุกขึ้นไปถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด เป็นครั้งแรกที่เราสองคนเปลือยเปล่าต่อหน้ากันแบบนี้
“มันจะเจ็บมากไหมชรัณ พิงกลัวนะ”
“มันต้องเจ็บอยู่แล้วที่รัก พิงอาจจะนั่งไม่ลงไปสักสามสี่วัน แต่เดี๋ยวมันจะค่อยๆ ดีขึ้น”
“…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอย่างชั่งใจ ฉันเริ่มสับสนว่าควรจะไปต่อดีไหมเมื่อเห็นท่อนเอ็นขนาดเกือบเท่าข้อมือเสียดสีอยู่กลางเนินสามเหลี่ยมจนแดงเถือก ยิ่งเขาดีกับฉันมาก ฉันยิ่งเกรงใจและไม่กล้าจะปฏิเสธ
“ตราบใดที่มันยังไม่ได้ใส่เข้าไปในตัวคุณผมให้โอกาสพิงเปลี่ยนใจได้นะ”
“…..”
“เพราะถ้ามันได้เข้าไปแล้ว พิงจะไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนใจได้อีก”
“พะ…พิงอยากเป็นของคุณค่ะ”
“ผมก็อยากเป็นผัวพิงเหมือนกัน”
เสียงหวานกลืนหลบหายไปในลำคอเมื่อชรัณฉกริมฝีปากลงมาจูบฉันอย่างดูดดื่มทำให้ลืมความกลัวก่อนหน้านั้น
“กรี๊ดดด~” ฉันสะดุ้งกรีดร้องอยู่ในลำคอเมื่อถูกคนตัวโตอัดกระแทกแก่นกายเข้ามาจนมิดในคราเดียว หลังจากนั้นรสจูบที่เขาใช้มอมเมาเป็นแค่สิ่งหลอกลวงทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มตายใจ
“เลือดออกเยอะขนาดนี้ พิงคงเจ็บหน้าดูเลยใช่ไหม”
“ฮึกก พิงเจ็บ~ หยุดก่อนค่ะ”
“ผมบอกแล้วใช่ไหม ถ้ามันเข้าไปในตัวพิงเมื่อไหร่ จะไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนใจอีก”
“ชรัณ! พิงขอร้อง อะ…เอามันออกไปก่อนได้ไหม ได้โปรด”
“ตามคำขอเลยที่รัก”
ชรัณยอมถอดแก่นกายออกจากตัวฉันตามคำร้องขอ เหมือนทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น แต่ไม่เลย…
ปัก! ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาจงใจอัดกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าส่งผลให้ร่องรักสวาทฉีกขาดเป็นทางยาว
“อื้ออ ชรัณเบาหน่อยค่ะ”
“บอกดังๆ ให้ผมชื่นใจหน่อย ว่าพักพิงของผมเป็นเมียใคร”
“พิงเป็นของคุณ”
“ตอบให้ตรงคำถามผมถามว่าพิงเป็นเมียใคร!”
“อ๊ะ! พะ…พิงเป็นเมียชรัณค่ะ”
จังหวะรักร้อนแรงและเสียงร้องครางระงมดังลั่นไปทั่วบริเวณห้อง โดยที่พักพิงไม่ได้รู้สึกตัวว่าชรัณได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ร้ายกาจกับเธอ
ผู้กองปลื้มนั่งก้มหน้านิ่งฟังเสียงร้องครางของคนทั้งสองที่ดังเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดพลางกำโทรศัพท์ไว้แน่น
ก่อนหน้านั้นเขารีบกดรับสายเพียงเพราะเห็นว่าเป็นเบอร์แฟนสาวที่โทรเข้ามา แต่ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ได้ยินจะทำร้ายหัวใจเขามากขนาดนี้…
“ฮึก!” น้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาอย่างสุดจะกลั้นเมื่อสายนั้นถูกตัดไป เขาเฝ้าดูแลทะนุถนอมพักพิงมาเป็นอย่างดี ไม่อยากจะคิดว่าหลังจากนี้เธอจะเป็นยังไงเมื่อต้องกลายเป็นของคนอื่น…
