7 อารมณ์โมโห
นิษฐกานต์ยืนมองตัวเองผ่านหน้ากระจก เวลานี้ใบหน้าเนียนสวยถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพง เน้นให้ใบหน้าสวยโดดเด่นขึ้นมา ผมยาวสลวยถูกจัดทรงให้เข้ากับใบหน้ารูปไข่
“น้องลูกหมีสวยมากเลยค่ะ ผิวก็ดี๊ดี ขนาดแต่งนิดแต่งหน่อย หนุ่ม ๆ ในงานคงมองไม่วางตา”
“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ หมีแค่ไปงานเป็นเพื่อนเหนือ”
“ตอนคุณเหนือโทรมานะ พี่นอนไม่หลับไปสามวันเลย” พี่จี้ใช้มือป้องปากเล็กน้อยราวกับกลัวใครจะได้ยินทั้งที่อยู่กันสองคน อ้อมีลูกรักที่นอนตรงปลายเท้าเธออีกหนึ่ง
“ทำไมเหรอคะ” จี้มองใบหน้าสวยตรงหน้า วัชรธรโทรศัพท์ไปหาเธอในคืนหนึ่ง เขาส่งรูปถ่ายของหญิงสาว อธิบายใบหน้า บุคลิก และสไตล์การแต่งตัวของเธอ ก่อนจะขอให้เธอช่วยรับงานวันนี้ เธอแทบจะกรี๊ดไปสามหมู่บ้านเมื่อหนุ่มรูปหล่อดีกรีทายาทตระกูลดังให้เกียรติช่างแต่งหน้าทำผมตัวเล็ก ๆ
“คุณเหนือสิคะบอกพี่ว่าถ้าวันนี้ทำงานถูกใจ จะให้พี่แต่งหน้าเจ้าสาวของคุณเหนืออีกงาน”
“ไว้คุณเหนือกับคุณลูกหมีมีข่าวดี อย่าลืมพี่จี้นะคะ”
“มะ ไม่ใช่หรอกค่ะ หมีกับเหนือเป็นเพื่อนกัน” ตอบออกไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง เมื่อเห็นสายตาจับผิดของช่างแต่งหน้าสาวสองคนนี้
จี้ใช้มือป้องปากน้อย ๆ เอ็นดูหญิงตรงหน้า อยากจะสลับร่างเป็นหญิงตรงหน้าจริง ๆ ถ้ามีเพื่อนงานดีขนาดนี้นะแม่จะลากไปกินทุกวัน ให้กินในน้ำอีจี้ก็ยอม
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังมาก่อนที่ลูกรักจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นไปต้อนรับ หางสั้นส่ายรัวเร็วเมื่อเขาเข้ามาพร้อมถุงขนม
“เสร็จแล้วค่ะคุณเหนือ เป็นยังไงบ้างคะ แบบนี้ถูกใจไหม” ภาพที่คนตัวเล็กถูกจับหมุนให้หันหน้าเข้ามาทำให้เขาถึงกับกลืนน้ำลาย คนถูกจ้องได้แต่ยกสองมืออังใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“ถ้ายังไงพี่จี้ขอตัวก่อนนะคะ” เห็นท่าทางแล้วคงไม่เหมาะที่เธอจะอยู่ตรงนี้
“ครับ ผมจะให้เลขาจัดการให้นะครับ”
“หวังว่างานหน้าจะได้รับใช้คุณเหนืออีกนะคะ”
“แน่นอนครับ” พี่จี้ถึงกับฉีกยิ้ม แบบนี้คงได้ทิปหนักมาสักก้อนแน่
“เอ่อ ผมฝากพาลูกรักลงไปข้างล่างด้วยนะครับ” ถุงขนมพร้อมกับเจ้าลูกรักถูกส่งไปให้ช่างแต่งหน้า จี้รับมาทันที พลางหันไปขยิบตาให้เหนือหนึ่งที ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับลูกรัก
ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปเมื่อประตูห้องถูกปิดลง สายตาคมไม่ละไปจากใบหน้าเนียน ก่อนที่เขาจะเข้ามาประชิดกายทางด้านหลัง
ความเย็นวาบสัมผัสกับลำคอระหง จนต้องยกมือขึ้นสัมผัส สร้อยรูปหมีของเธอ ที่ถูกถอดเอาไว้บนโต๊ะเรียงรายกับสร้อยหลายเส้นที่วัชรธรส่งมาให้เธอลองเทียบกับชุด
“อยากให้หมีใส่เส้นนี้”
ชุดสีครีมกลมกลืนกับสร้อยรูปหมีเส้นนี้ที่สุด และเป็นเส้นที่เธอใส่เป็นประจำ
“อะ อืม ไปกันเลยไหม” เธออยากรีบออกไปก่อนที่เขาจะรุ่มร่ามกับร่างกายเธอและเลยเถิด เห็นสายตาของเขาแล้วรู้สึกร้อน ๆ หนาวชอบกล กลัวว่าหากไม่รีบออกไปจะไม่ทันการณ์
“กลัวเหรอ” เสียงเข้มกระซิบถามชิดริมใบหูทำเอาขนในกายลุกซู่ จนต้องยกมือเล็กลูบไปตามเรียวแขนเบา ๆ
นึกย้อนไปถึงวันหยุด สามวันที่ไปนอนพักบ้านของเขาเป็นสามวันที่เธอได้รู้ถึงความแข็งแรงของร่างกายคนตัวโต ความเอาแต่ใจ ความหื่นกระหาย เป็นสามวันที่เธอใช้ร่างกายหนักหน่วง จนต้องหยุดงานไปอีกสองวัน
“อยากรู้ไหมว่าตอนนี้เหนือคิดอะไรอยู่”
“มะ ไม่อยาก พอเลยเอาหน้าแกออกไปนะ”
“ถ้าไม่ติดว่างานนี้สำคัญนะหมี ฉันจะกวาดทุกอย่างบนโต๊ะออกให้หมด วางตัวแกลงตรงนั้น ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นให้พ้นตัว จับขาแกกางออกเล็กน้อยก่อนที่จะ...”
“พอแล้ว ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
“แต่... เมื่อกี้แกดูตั้งใจฟังนะหมี”
ที่งานเดินแบบผ้าไหมการกุศล บรรยากาศครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนจากวงสังคมชั้นสูง เธอไม่ชินกับงานพวกนี้เสียเลย
นิษฐกานต์เดินเคียงคู่เข้าไปในงานพร้อมกับวัชรธร ดวงตาหลายคู่จับจ้องด้วยความชื่นชม บ้างก็ด้วยความอิจฉาริษยาหญิงที่ได้เดินเคียงคู่กับทายาทตระกูลดังที่หมายปองเอาไว้
ที่มุมหนึ่งงานสายตาของนิษฐกานต์พยายามหลบเลี่ยงสายตาของภาคิน เธอไม่คิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ สายตาของเขาจับจ้องมาทางเธอด้วยความรู้สึกที่อ่านไม่ออก
“เหนือเราขอไปเข้าห้องน้ำนะ” เธออยากหลบเลี่ยงจากสถานการณ์อึดอัด จึงขอแยกตัวออกมาในจังหวะที่เหล่าคุณหญิงคุณนายกำลังรุมล้อมเหนือ
“น้องหมีพี่ขอคุยด้วยหน่อยสิครับ” แขนเล็กถูกคว้าเอาไว้ทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องน้ำ
“พี่คิน” หันไปมองเจ้าของแขนที่ตรึงเธอเอาไว้ ก่อนจะชักมือหนีจากการเกาะกุมของเขา
“ตั้งแต่กลับมาคราวนั้น น้องหมีก็แปลกไป พี่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า” เธอคุยกับเขาน้อยลงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะทั้งข้อความ โทรศัพท์หา หรือแม้แต่ไปหาเธอที่ร้านนิษฐกานต์เอาแต่หลบหน้าเขา
“ความจริงพี่คินไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ” ใบหน้าสวยหลุบตาลง
“พี่อยากขอโอกาสเริ่มต้นใหม่กับน้องลูกหมีได้ไหมครับ” แววตาของเขาเว้าวอน เธอได้แต่ขอโทษภาคินในใจ รู้สึกผิดที่ตัดความสัมพันธ์ดื้อ ๆ แต่เธอไม่อยากฝืนอีกต่อไปแล้ว แม้ที่ผ่านมาเธอรู้สึกดีกับภาคิน เขาดูใจดี อ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็คงไม่สามารถเป็นคนรักได้ การได้เป็นมิตรภาพดี ๆ ในชีวิตระหว่างเธอและภาคินน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว
“ความจริงลูกหมีไม่ได้รู้สึกกับพี่คินแบบคนรัก พี่คินเป็นพี่ชายที่น่ารักของลูกหมีได้ไหมคะ” เธอถามอย่างอ้อนวอน ภาคินเป็นที่ชายที่แสนดี เธอหวังว่าเขาจะเจอรักที่เหมาะสมและจริงใจในเร็ววัน
“พี่คงไม่ดีเท่ากับผู้ชายที่น้องหมีควงเข้างานมาสินะครับ” แววตาของเขาดูสลดลงบ่งบอกถึงความเจ็บปวด
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะพี่คิน” เธออยากจะอธิบายบอกเขาแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร เธอรู้สึกดีกับเขาจริง ๆ ความรู้สึกและการกระทำที่มีมาตลอดเธอทำมันด้วยความจริงใจ เธอพยายามแล้วที่จะเปิดใจให้เขาแต่สุดท้ายยิ่งเปิดก็ยิ่งพบว่าตัวเธอไม่ได้ชอบภาคินแบบคนรัก
“น้องลูกหมีชอบคุณวัชรธรเหรอครับ” หากแต่คำถามของเขายิ่งทำให้เธอกระอักกระอ่วน ถ้าตอบความจริงภาคินจะเสียใจหรือเปล่า เธอห่วงความรู้สึกของเขา แต่หากไม่ตอบจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ดี ๆ ที่เคยมีให้หรือเปล่า ภาคินควรตัดใจจากเธอ
“พี่ว่าพี่เข้าใจ เข้าใจทุกอย่างแล้ว”
ความเงียบของนิษฐกานต์เป็นคำตอบทั้งหมด เขาจึงตัดใจเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง เธอคงไม่รู้ว่าสีหน้าของเธอตอนนี้มันฟ้องความรู้สึกที่มีต่อวัชรธรจนหมดสิ้น
“พี่คินลูกหมีขอโทษนะคะ ลูกหมีเชื่อว่าพี่คินจะต้องเจอผู้หญิงที่ดีและรักพี่คินค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขออะไรสักอย่าง ได้ไหมครับ” เขาเอ่ยต่อรอง
“อะไรเหรอคะ” นิษฐกานต์เอ่ยถามด้วยความสงสัย หากมีอะไรที่พอจะช่วยภาคินได้เธอก็เต็มใจและยินดีที่จะทำ
“ไปกินข้าวกับพี่สักมื้อสิ”
นิษฐกานต์กลับเข้ามาในงานอีกครั้งและพบว่าวัชรธรนั่งรอเธออยู่ ใบหน้าของเขาระบายยิ้มอบอุ่นเมื่อคุยกับหญิงสูงวัยที่นั่งอยู่ติดกัน
“หายไปนาน” เขากระซิบเสียงดุเมื่อเธอทรุดลงเก้าอี้ข้างตัวเขา
“คนเยอะน่ะ กว่าจะถึงคิวเรา” หลังโกหกออกไปเขาเงียบจนเธอใจหาย แต่หากบอกความจริงไปวัชรธรจะไม่พอใจหรือเปล่า
“ภาคินอยู่ในงาน หมีได้เจอมันไหม” สายตาของเขามองเลยไปยังที่นั่งอีกฝั่ง ที่มองเห็นภาคินชัดเจน
“อ้าวเหรอ เราก็พึ่งรู้ว่าพี่คินมางานนี้ด้วย” คนตัวเล็กยังทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ แม้จะมีสายตาคมจ้องมองด้วยการจับผิดอยู่
“ไม่ทำหน้าบึ้งสิ” มือเล็กยื่นไปแตะเบา ๆ ที่แก้มของเขา จึงระบายยิ้มเบา ๆ ส่งให้เธอกลับ
“กลับกันเถอะ” มือหนาคว้าเอามือเล็กเข้ามากุม ออกแรงฉุดให้เธอลุกขึ้นและเดินตาม ก่อนที่การเดินแบบจะเริ่มด้วยซ้ำ
“เดี๋ยวก่อนสิเหนือ งานยังไม่เริ่มเลยนะ” คนตัวเล็กขืนตัวออกจากการเกาะกุม ขณะที่คนตัวโตไม่ฟังฉุดให้ร่างบางก้าวตามจนกระทั่งทั้งคู่เข้าไปนั่งในรถ แรงรัดที่ข้อมือแน่นจนเธอไม่อาจขัดขืนได้
“เหนือเป็นอะไร มีเหตุผลหน่อยสิ งานนี้งานสำคัญของคุณหญิงแม่ไม่ใช่เหรอ” ลูกหมีพยายามใช้น้ำเสียงนุ่มกับเขา
“โกรธอะไรเรา”
“คุยกับมันตั้งนานสองนาน ทำไมต้องโกหก” เสียงเข้มตวาดเสียงดังก่อนที่นิษฐกานต์จะพอเข้าใจอารมณ์ของวัชรธร
ทันทีที่กลับมาถึงบ้านร่างเล็กยังคงนั่งนิ่ง แม้รับรู้อารมณ์โมโหของวัชรธรมาตลอดทาง
“ลงมา” แรงกระชากทำให้นิษฐกานต์นิ่วหน้า เขาจึงยอมคลายมือออก
“อย่าใช้อำนาจให้มากนักนะเหนือ โคตรเอาแต่ใจเลยว่ะ”
“หยุดพูดซะ เราขอให้หมีเลิกคุยกับมัน หมีขอคุยเรื่องงานเราก็ให้ แต่ทำไมต้องโกหก หรือจริง ๆ แล้วหมีชอบมัน อยากเป็นเมียมันใช่ไหม”
“เปล่านะ เราไม่ได้คิดแบบนั้น” ร่างเล็กลุกขึ้นจากเบาะนั่ง เข้าไปกอดแขนของเขาที่เดินเข้าไปในตัวบ้าน ฉุดดึงให้ร่างเล็กเดินตาม
“พี่คินก็แค่ขอเคลียร์ ไม่มีอะไรสักหน่อย อีกอย่างเราก็บอกพี่คินไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรด้วย เหนืออย่าโกรธเราเลยนะ”
“เล่ามาให้หมด”
“เราตกลงไปกินข้าวกับพี่คิน ครั้งสุดท้าย จะเลิกติดต่อทุกทางเลย”
“แล้วแกก็ยอมตกลงไปกับมัน”
“...”
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงลงบนที่นอนนุ่มทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ตลอดทางที่เข้ามาในบ้าน แม้แต่พี่แตงและลูกรักยังรับรู้อารมณ์ของคนตรงหน้า จนไม่กล้าเข้ามาใกล้
“แกมันไร้เหตุผล นึกจะโมโหก็บังคับเรากลับ ทำตามใจตัวเองเกินไปแล้วนะ” ดวงหน้าเชิดขึ้นไม่เกรงกลัวสายตาดุที่ส่งมาแม้แต่น้อย
“แกอยากรู้ปะ ว่ามันคิดจะทำอะไร” ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาประชิดร่างน้อย
แควก!!! ชุดตัวสวยที่ถูกสวมใส่ด้วยความประณีตถูกฉีกขาดโดยไม่สนใจมูลค่า เศษผ้าถูกปาทิ้งไร้ทิศทางอย่างไม่ไยดี
“กรี๊ดด เป็นบ้าอะไร” ร่างน้อยดีดดิ้น เมื่อเขาปล้ำถอดชุดเดรสตัวสวยออกจากร่างเธอ ผิวขาวบอบบางถูกครูดเป็นรอยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อื้ออ” สัมผัสรุนแรงเมื่อริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาบดจูบเอาแต่ใจ รสของแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในลมหายใจ มือเล็กทุบตีไปตามอกหนา กระทั่งเขายอมถอนจูบในที่สุด
“ไม่ชอบให้เข้าใกล้มัน ทำไมไม่ฟังบ้างวะ” เสียงของวัชรธรอ่อนลงเล็กน้อย กดจูบไปตามเรียวแขน
“แล้วทำไมไม่ฟังบ้างว่าไม่มีอะไร เราก็พยายามจะจบทุกอย่าง”
“จบเหรอ แกตามมันไม่ทันหรอกหมี”
“อย่านะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” พยายามจะห้ามเอาไว้เมื่อฝ่ามือใหญ่ลากไล้ผ่านผิวกาย ถอดชุดของเธอจนตอนนี้นอนเปลือยกายใต้ร่างเขา
“ไม่คุย จะกิน” มือเล็กที่ปิดบังยอดอกเอาไว้ถูกปัดออกด้านข้างก่อนที่คนตัวโตจะลงมือกินแบบที่ว่าเอาไว้
“โอ๊ย” แรงกัดบนยอดอกแม้ไม่แรงมากแต่ก็ทำให้ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง งอไหล่ทั้งสองข้างเข้าหากัน ขยับตัวหนีจากคนที่ทาบทับที่ตามไม่ห่าง ก่อนจะงับลงบนยอดอกเธออีกครั้ง
“โอ๊ย” คราวนี้เสียงโอดโอยไม่ได้ดังออกมาจากปากเล็ก แต่ดังออกมาจากร่างสูงใหญ่แทน ศีรษะของเขาแหงนขึ้นเมื่อมือเล็กขยุ้มผมดกดำเต็มแรง
“พอเลยนะ เป็นหมาหรือไงกัดอยู่ได้”
“อือ เป็นหมาจะกัดทั้งตัวเลยคอยดู” สายตาเจ้าเล่ห์ที่ส่งมาทำให้เธอนึกหวั่นอยู่เล็กน้อย มือที่ขยุ้มเส้นผมดกดำอยู่เผลอปล่อยออก พลิกร่างเล็กออกจากใต้ร่างของเขาเพื่อจะหนีลงจากเตียง
“กรี๊ด ไอ้เหนือ ไอ้บ้า” ร่างเล็กที่พยายามหลบหนีกรีดร้องเมื่อถูกดึงกลับมาประชิดร่างสูงใหญ่
“ชอบด้านหลังก็บอกเหนือดี ๆ สิครับ” ฝ่ามือใหญ่ที่กดแนบชิดกับสะโพกกลมจนเกิดรอยบุ๋มที่ผิวหนัง สัมผัสหยาบระคายลูบไล้ ทำให้ขนในตัวลุกซู่ ไม่รู้ว่าคนตัวโตเอาเวลาไหนจัดการเสื้อผ้าตนเองจนตอนนี้กายสูงใหญ่เปลือยเปล่า แก่นกายใหญ่สัมผัสเสียดสีแก้มก้นของเธอไปมา
มือใหญ่ขยำก้นกลมอย่างมันเขี้ยว ออกแรงดันให้ร่างเล็กเอนไปด้านหน้าเล็กน้อยก่อนจะฝังใบหน้าแนบลงไปยังแอ่งน้อยที่เริ่มฉ่ำแฉะ
“อ๊ะ” ลิ้นร้ายปาดเลียไปตามรอยแยก ลากไล้เป็นจังหวะขณะที่อีกมือตรึงกายเล็กไม่ให้ขยับหนี ส่วนอีกมือเอื้อมไปกอบกุมอกสวยใช้นิ้วขยี้เม็ดเล็กไปมา
กายเล็กบิดส่าย บิดเกร็งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเสียวซ่าน ปากเล็กเม้มชิดแน่นแต่ก็ไม่พ้นเผยเสียงน่าอายออกมา สะโพกแน่นหนักถูกตรึงไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ฝังใบหน้าลงไปยังใจกลางที่ปลดปล่อยน้ำหวานออกมาไม่ขาดสาย
เมื่อเห็นคนใต้ร่างสุขสมกายใหญ่จึงเคลื่อนขึ้นทาบทับไปด้านบน ขบเม้มไปตามแผ่นหลังเนียนจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำ นิษฐกานต์เบือนหน้าหนีเกินจะห้าม เมื่อทั้งข่วนทั้งตี แต่คนตัวโตกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแถมยังหัวเราะชอบใจ
“เราจะหยุด ถ้าหมีรับปากว่าจะไม่ไปไหนกับภาคิน” ปากหนาที่พร่ำพรมจูบไปตามใบหูกระซิบเอ่ย
“ก็แค่ไปในฐานะพี่น้อง”
“แล้วมันคิดกับแกแค่พี่น้องหรือไง”
“นะ น้า เหนือนะ ให้หมีไปนะ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปหมีจะไม่ไปไหนกับพี่คินสองต่อสองอีก”
“ถ้ามีแรงเหลือก็ลองดู” น้ำเสียงของเขาเจ้าเล่ห์ จนนิษฐกานต์ต้องกลืนก้อนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก
“อื้ออ” กายน้อยอ่อนระทวยเมื่อเขาจับแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยจูบสีกุหลาบพลิกกลับด้าน เต้าอกเปลือยทั้งสองลอยเด่น จนมือใหญ่ต้องเอื้อมไปกอบกุม นิ้วเรียวร้ายกาจของเขาปัดเขี่ยยอดอก จนนิษฐกานต์ต้องส่งเสียงคราง
“อื้มม เสียวนะ ยะอย่ากัดแบบนั้น”
“ถ้าเหนือบีบบ่อย ๆ มันจะใหญ่ขึ้นปะ” เสียงเข้มถามอย่างสงสัย แค่นี้มันก็ใหญ่เกินตัวแล้ว ตอนเด็ก ๆ เล็กนิดเดียว ไม่คิดว่าโตขึ้นมามันจะใหญ่จนล้นกำมือ ความคิดทะเล้นผุดขึ้นมาเมื่อในวัยเด็กมีภาพที่เขาและเธอเปลือยเปล่าอาบน้ำด้วยกัน และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ครอบครัวถ่ายเก็บเอาไว้
“ไอ้บ้า เอาหน้าออกไปเลยนะ ปล่อยหมีได้แล้ว” ไม่ว่าเปล่าแต่มือเล็กยังขยุ้มเอากลุ่มผมดกดำขึ้นมาด้วย ดวงหน้าแดงก่ำประกอบกับริมฝีปากบวมเจ่อขบเม้มแน่น
“ทำไมอะ เมื่อกี้ยังแอ่นอกให้เหนือกินนมอยู่เลย”
“เป็นหมาหรือไง กัดเอากัดเอา” เสียงเล็กแหวออกมา ก่อนที่มือน้อยจะตีไปที่ปากของเขาไม่เบานักจนเกิดเสียง
“โอ๊ย ตีลงมาได้ ชอบใช้ความรุนแรงใช่ไหมฮึก แบบนี้ต้องเจอไอ้เหนือ” เหนือแสร้งทำเสียงเข้ม ใช้สองมืออุ้มร่างน้อยจนลอยจากพื้นเตียง ก่อนวางนิษฐกานต์ลงบนโต๊ะไม้ที่มุมห้อง
“จะทำอะไร” เจ้าของร่างเล็กถามออกไป เมื่อฝ่ามือใหญ่จับขาเรียวของเธอโอบรัดรอบเอวสอบ พร้อมกับมือน้อยเอื้อมจับไหล่หนา
อาวุธร้ายกาจ ที่นิษฐกานต์เคยสงสัยถึงความใหญ่โต แต่กลับสอดรับกับช่องทางคับแคบของเธอได้อย่างลงตัว ปลายหัวทู่มนค่อย ๆ กดลงด้วยความนุ่มนวล แม้จะมีอะไรกันหลายครั้งแล้ว แต่เหนือรู้สึกว่าคนใต้ร่างยังไม่ชินกับขนาดของเขา
“อ๊ะ” ใบหน้าเล็กแหงนขึ้น บิดเบี้ยวด้วยความเสียดเสียวจากเนื้อสัมผัสที่ครูดผ่านความอ่อนนุ่มภายในจนต้องระบายออกมา โดยไม่รู้ตัวสองมือที่จับไหล่หนาไว้แน่นปลายนิ้วจิกลงบนไหล่ตึงจนเลือดซิบ
“อ่า เสียวฉิบ” ใช่ว่านิษฐกานต์จะรู้สึกเพียงคนเดียว เหนือเองก็ไม่ต่างกัน แต่ความอยากถนอมเธอทำให้เขาต้องอดทน
“ใส่มาแรง ๆ เลย เสียวจะตายอยู่ละ” แต่เขาคงคิดเยอะไปจนคนใต้ร่างต้องเร่งรัด
“กลัวแรงแล้วหมีน้อยจะเจ็บ”
“อึก แต่หมีจะไม่ไหวแล้ว” ใบหน้าเล็กส่ายสะบัด จากการถูกโรมรันร่างน้อยมาสักพัก ทำให้เธอต้องการเติมเต็ม
“หมีเอ็กซ์ฉิบหาย อยากจับกระแทกทั้งวันเลยอะ ตัวก็หอม” ว่าจบจมูกคมกดลงบนลำคอเนียนสูดดมกลิ่นหอมอันคุ้นเคย
“ทะลึ่ง”
“ก็พูดจริงอะ หมีทำให้เราไม่อยากตื่นไปทำงานเลย อยากจะดมกลิ่นหอม ๆ นี้ทั้งวัน ซี้ดดด ยิ่งดมไปด้วยเอาไปด้วยแม่งฟินว่ะ”
“อื้อออ แกมันคนหื่นไอ้เหนือ” นิษฐกานต์ว่าคนหื่น เบือนหน้าหนีจากใบหน้าคมที่จ้องมอง สองมือยังคงจิกลงกับไหล่แน่นตึง
คนหื่นที่ยังฝังใบหน้าอยู่กับลำคอขาวผ่อง หัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินคำโต้ตอบ ก่อนจะเอ่ยออกไป
“ไม่ให้หื่นกับเมีย จะให้หื่นกับใครล่ะครับฮึ” เอ่ยชิดริมใบหู ฝังจูบไปตามใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ อดใจไม่ไหวที่จะต้องขบเม้ม
“ใครเมียแกไอ้เหนือ อื้อ กัดอีกแล้ว” น้ำเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้สั่นไหวทั้งจากคำว่าเมียที่ได้ยิน และจังหวะสอดรับด้านล่าง
“กัดเมีย อยากกัด อยากกินไปทั้งตัว”
“ไอ้หมาปีศาจ”
“ฮึ ๆ เดี๋ยวหมาตัวนี้แหละจะขย้ำหมีกลืนลงท้อง”
“อร้ายยยยย” ว่าจบพร้อมกับจังหวะที่หนักหน่วงรุนแรงขึ้น สองขาเรียวโอบรัดเอวสอบแน่น แอ่นตัวตอบรับจังหวะซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เขามอบให้
