บท
ตั้งค่า

2 กำลังจะถูกทิ้ง

คนตัวเล็กที่นั่งจมอยู่กับข้อความที่รอให้ปลายทางตอบกลับหันขวับไปตามเสียง ใบหน้าของทั้งสองหันประจันหน้าระยะห่างเพียงเสี้ยวพอให้แมลงหวี่ แมลงวันบินผ่านได้

“เหนือแกมาอยู่นี่ได้ยังไง” นิษฐกานต์ร้องด้วยความตกใจถอยห่างจากเหนือหรือวัชรธรเล็กน้อย

“ฉันสิต้องถามแกมากกว่า มากับมันได้ยังไง”

“ก็แค่มาทำงานเป็นเพื่อนพี่คิน อยากมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาบ้าง”

“อ้อเหรอ แล้วทำไมไม่บอก ไม่ขอเราดี ๆ”

“กะ ก็ทำไมจะมาไม่ได้เราโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กที่จะต้องรายงานแกทุกอย่าง”

“โตแล้ว ก็เลยมาเที่ยวกับผู้ชายด้วยการหลอกฉันว่ามาทำธุระ?”

“โกหกไม่เนียนนะ”

“ได้ ถ้าแกไม่อยากให้โกหก เรากับพี่คินคุยกันมาหลายเดือนแล้ว ไม่ใช่พึ่งรู้จักแบบที่แกคิด แล้วพี่คินก็เป็นคนดี ไว้ใจได้ แกไม่ต้องเป็นห่วง”

“หมีแกนี่มัน ลุกมานี่เลย” คนตัวโตกว่ากึ่งลากกึ่งจูงร่างเล็กออกมาจากห้องจัดงานเลี้ยง ที่จำต้องยอมเดินตามแรงของเขาออกมา จับยัดคนตัวเล็กลงไปในรถที่ถูกจอดรอไว้ด้านหน้าอยู่แล้ว

“ไอ้เหนือปล่อยเลยนะ” ไอ้เหนือคำที่ผู้หญิงตรงหน้าเอ่ยเรียกบ่อยครั้ง แต่วันนี้กลับขัดหูชอบกล ไอ้เหนืองั้นเหรอ ทีผู้ชายรู้จักไม่กี่เดือนเรียกพี่คินเสียเสียงหวาน

“ส่งข้อความไปบอกมันซะ จะบอกว่าป่วย ปวดหัว เป็นไข้ ตัวร้อน ท้องเสีย อะไรก็อ้างไป” นิษฐกานต์ยังคงนั่งนิ่ง สองมือยกขึ้นกอดอก เมินคำสั่งของเพื่อนสนิท

“เดี๋ยวนี้! ลูกหมี” วัชรธรดุเธอเสียงดังจนสะดุ้งโหยง ไม่บ่อยที่เขาจะหัวเสียขนาดนี้ และเธอรู้ดีว่าหากเขาอยู่ในอารมณ์แบบนี้ ห้ามขัดใจ

แม้จะไม่พอใจ แต่ความอยู่ด้วยกันมานาน ทำให้จำต้องทำตามเพราะรู้นิสัยของวัชรธรดี เธอส่งไปบอกพี่คินเองดีกว่าปล่อยให้วัชรธรเป็นคนส่ง

“อือ เราส่งแล้ว แกอย่าเสียงดังดิ เราตกใจ” นิษฐกานต์ว่าอย่างจำยอม วัชรธรจึงเริ่มรู้ตัว ลูกหมีไม่ชอบให้เขาเสียงดัง

“ขอโทษ แค่ไม่พอใจที่แกมาโดยไม่บอก”

“อือ รู้ แต่ถ้าบอก เหนือจะยอมให้เรามาเหรอ” หันไปรอคำตอบจากคนที่กำลังขับรถ

“แล้วนี่แกจะไปไหน เราพักโรงแรมXX อยู่คนละทาง” หญิงสาวทักท้วง

“ฉันจองโรงแรมไว้ ไปนอนด้วยกันดิ”

“ไม่เอา เกิดพี่คินกลับไปหาที่ห้องจะทำยังไง คือเราหมายถึงเผื่อพี่คินจะมาดูอาการที่เราไม่สบายอะ” คำอธิบายถูกเอ่ยออกไป ที่เธอก็ไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องบอกเขา

อีกอย่างคืนนี้เธอไม่อยากไปกับวัชรธร

“ทางเลือกแกมีสองอย่างคือแกมานอนกับฉัน หรือให้ฉันไปนอนกับแก”

สุดท้ายเธอจำต้องยอมไปกับเขา เหนือกำลังเอาแต่ใจ เธอไม่อยากขัดใจให้ต้องทะเลาะกัน ก็เคยนอนห้องเดียวกัน

แค่นอนเฉย ๆ แค่นั้น

บทสนทนาหยุดลงเพียงเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิดตนเอง วัชรธรขับรถไปเงียบ ๆ ส่วนนิษฐกานต์เสมองไปด้านข้างด้วยสายตาเลื่อนลอยกับบางอย่างที่ผุดชัดในใจจนน่ากลัว

รถถูกขับเคลื่อนไปตามเส้นทาง ทั้งสองข้างทางมีร้านรวงมากมาย ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนกระทั่งรถหยุดลง น่าจะเป็นโรงแรมที่วัชรธรจองเอาไว้

นิษฐกานต์เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย แสงไฟในห้องถูกเปิดให้สว่าง

“รอในห้องนะเดี๋ยวมา”

“อือ แล้วแกจะไปไหนอะ” เสียงร้องถามดังขึ้นมาเมื่อเห็นชายหนุ่มทำท่าจะออกไปข้างนอกหลังจากที่ส่งเธอไว้ที่ห้อง

“ก็แกไม่ได้เอาอะไรมาเดี๋ยวออกไปซื้อให้” หญิงสาวพยักหน้าตอบรับ เดินไปหยิบเสื้อผ้าของวัชรธรในตู้ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อออกมาอีกครั้งพบว่าเพื่อนสนิทของเธอกลับเข้ามาแล้วพร้อมกับยื่นของที่ซื้อมาส่งให้เธอ

นิษฐกานต์กลับเข้ามาในห้องน้ำหยิบของที่วัชรธรซื้อมาให้ ล้วนเป็นของใช้ส่วนตัว แม้กระทั่งชุดชั้นในของเธอ

เหนือรู้ทุกเรื่องของเธอนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องซื้อของใช้ส่วนตัวให้

เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าทั้งชิ้นนอกและชิ้นในแล้วจึงก้าวออกมาพร้อมกับเขาที่เดินสวนเข้าห้องน้ำไป เธอจึงเดินไปปิดแสงไฟเหลือไว้เพียงแสงไฟสลัวตรงหัวเตียง ล้มตัวลงสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม เว้นที่ว่างไว้อีกครึ่ง

กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากสบู่ที่ใช้โชยออกมาก่อนที่สักพักร่างสูงของวัชรธรจะล้มตัวลงนอนด้านข้างลำแขนแข็งแรงตวัดเอาร่างเล็กที่นอนหันหลังให้เข้ามาชิดอก

“คืนนี้นอนกอดแกได้ปะ” แรงกอดรัดทำให้คนในอ้อมกอดขยับหยุกหยิกไปมา

“ไม่ วันนี้แกเสียงดังใส่เรา”

“ขอโทษไง ตอนนั้นมันโมโหทั้งที่แกไม่ชอบ ขอโทษนะครับ”

“...” เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบจากคนในอ้อมกอดจึงแกล้งรัดลำแขนให้แน่นขึ้น

“อึดอัด”

“ก็อยากกอดแน่น ๆ” ร่างเล็กจมอยู่กับอกเขา

แขนแกร่งแกล้งรัดแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะคลายลงเพราะกลัวเธอเจ็บ

“คำตอบของเหนือคือ ไม่”

“คำตอบอะไร?”

“ที่หมีถาม ถึงบอกก็ไม่ให้มาหรอก” นั่นทำให้รู้ว่าเธอคิดถูกแล้วที่ไม่ยอมบอกเขา ไม่งั้นคงไม่ได้มา

“ใจร้าย เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

“แค่เป็นห่วง มันไม่ใช่คนดีแบบที่คิดหรอก แล้วนึกยังไงถึงยอมมากับมัน” คนตัวโตถามน้ำเสียงจริงจัง ปกติแล้วนิษฐกานต์ไม่ค่อยชอบออกไปไหนยกเว้นไปกับเขา

นิษฐกานต์นึกไปถึงสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ชั่งใจว่าจะถามออกไปดีไหม

“แกกำลังจะทิ้งเรา แกมีแฟนแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงที่ตอบกลับสั่นเล็กน้อย อ้อมแขนของเขาสัมผัสได้ถึงความสั่นสะท้าน

“เฮ้ย แกไปเอามาจากไหน” คนตัวโตร้อนรนขึ้นมาทันทีผุดลุกขึ้นกลางเตียง ฉุดร่างเล็กที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งหันหน้ามาประชันกับเขา

“อาทิตย์ก่อน ตัวแกมีน้ำหอมผู้หญิง ที่เสื้อแกมีรอยลิปสติก ที่เราตกลงกันไว้ใครมีแฟนแล้วต้องบอกไม่ใช่เหรอ บอกเราดิ ถ้ามีแฟนแล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับเราอีก ชีวิตที่เหลือเราดูแลตัวเองได้”

“ไปกันใหญ่แล้ว ฉันไม่ได้มีแฟน” อาทิตย์ก่อนงั้นเหรอ เขาพอจะรู้สาเหตุแล้ว เหนือได้แต่สบถในใจ

“แล้วกลิ่นน้ำหอมกับรอยลิปสติกมาจากไหน”

“ถ้าบอก แกอย่าโกรธนะ”

“นะครับ”

“ไม่รับปาก” เธอเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองสายตาเว้าวอน ดวงตาเล็กแดงก่ำหยาดน้ำใส ๆ เอ่อคลอ

“ซื้อมา”

“ฮึก”

“กลิ่นน้ำหอมกับรอยลิปสติกน่าจะมาจากผู้หญิงที่ซื้อมานั่นแหละ”

“ไม่ร้องนะหมี ถ้าแกไม่ชอบฉันจะไม่ทำอีก” คำพูดของวัชรธรทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมที่ผ่านมาเขาคงทำแบบนี้หลายครั้ง

ปลายนิ้วของเขายกขึ้นปาดไล้ดวงหน้าเล็กที่กำลังก้มหน้าพยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้

“ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่ร้องนะครับ” มือหนาประคองใบหน้าเล็กขึ้น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่กำลังแดงก่ำ

“เราคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีแก” ร่างเล็กโผเข้ากอดเมื่อมือหนาเอื้อมมือดึงร่างของเธอเข้ามาใกล้เล็กน้อย มือของเขาลูบลงบนกลุ่มผมนุ่มลื่นสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยจากยาสระผมที่นิษฐกานต์ใช้ประจำ

“ฉันไม่มีใคร ไม่มีแฟน จะอยู่กับแก ดูแลแกไปตลอด” ทั้งชีวิตที่รู้จักกันมาทำให้เขารู้ว่าสภาพจิตใจของเธอตอนนี้กำลังอ่อนแอ

พ่อแม่ของเขาและเธอเป็นเพื่อนกันและยังมีลูกพร้อม ๆ กันอีก เขาเป็นพี่เธอไม่กี่เดือน เกิดมาก็เจอหน้ากันแล้ว เรียนก็ที่เดียวกันไม่ว่าบ้านเธอหรือบ้านเขาไปเที่ยวอีกฝ่ายก็ไปด้วยเหมือนคนในครอบครัว เรียนห้องเดียวกัน นั่งโต๊ะข้างกัน กินข้าวด้วยกัน โดดเรียนยังทำด้วยกันมาแล้ว

กระทั่งช่วงที่ลูกหมีอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้าครอบครัวของเธอจากไปกะทันหัน หลังจากวันนั้นเขาจึงเป็นทั้งเพื่อนและพ่อแม่ให้เธอ เป็นทุกอย่าง

เสียงสะอื้นเบาลง ร่างเล็กยังคงซุกอยู่ที่อกของเขา วัชรธรจับแขนที่สวมกอดเขาให้คลายออก

“ขอจูบแกได้ไหม” คำถามที่ไม่สมควรถูกเอ่ยออกไป ไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต ใบหน้าของเขาขยายชัดเจนขึ้นในดวงตา โน้มลงชิดริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม เขาละเลียดชิมอย่างใจเย็นนิษฐกานต์ได้แต่หลับตารับสัมผัส

ริมฝีปากของเธอค่อย ๆ เผยอเปิดรับลิ้นร้อนเข้ามาโดยไม่รู้ตัว เรียวลิ้นกวาดชิมเชื่องช้า กวัดเรียวลิ้นเกี่ยวลิ้นของเธอหยอกล้อให้เธอรู้จักสัมผัสใหม่จากเขา และยอมผละออกเมื่อคนตัวเล็กเริ่มหายใจไม่ทัน

แรงหอบน้อย ๆ ทำให้เขานึกเอ็นดู

เสื้อตัวโคร่งของเขาถูกถอดออกจากลำตัวของเธอเผยให้เห็นเสื้อชั้นในสีครีมที่เขาพึ่งลงไปซื้อ

ร่างเล็กถูกผลักให้นอนราบลงไปตามการชักนำของคนตัวโต

“เหนือ”

“อืม ชอบให้แกเรียกชื่อ เรียกอีกสิ”

“เหนือ อ๊า” ใจดวงน้อยที่เต้นรัวอยู่แล้วพลันรัวเร็วขึ้นกว่าเดิมราวกับจะระเบิดออกมาเมื่อฝ่ามือของเพื่อนชายที่เธอรู้จักมาทั้งชีวิตกำลังกระชากเสื้อสีครีมออกจากตัวพร้อมกับฉกวูบลงมาครอบเต้าอวบอิ่มเต็มปาก

“เหนือเราเสียว อ๊ะ อย่ากัด” ความเสียดเสียวที่เพิ่มขึ้นทำให้เธอบิดตัวไปมา

“แล้วมันดีไหม”

“ไม่รู้” คนตัวเล็กส่ายหน้าเธอไม่รู้ว่าที่ทำอยู่มันดีไหม เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้

“อื้ม ฮึก”

แต่ที่แน่ ๆ เธอไม่อยากให้เขาหยุด

เมื่อส่วนบนถูกเขากลืนกินจนพอใจ คนไร้ประสบการณ์ได้แต่นอนอ่อนระทวย กางเกงขาสั้นเอวยางยืดถูกรูดลงผ่านเรียวขาอย่างง่ายดาย โชว์กางเกงชั้นในสีชมพูอ่อนพร้อมลายหมีตัวเล็กที่ขอบเอว

วัชรธรก้มลงไปจูบหมีน้อยที่กำลังส่งยิ้มอารมณ์ดี ส่วนเจ้าของหมีตัวจริงได้แต่ตัวเกร็ง ก่อนที่เจ้าหมีตัวนอกจะถูกปาออกไปให้พ้นตัว

แพรไหมจำนวนไม่มากไม่น้อยที่ปกคลุมหมีน้อยถูกเปิดเปลือย

เรียวขานวลเนียนหุบเข้าอย่างเขินอายที่ต้องเปิดเผยของส่วนตัว มือหนาจึงเอื้อมจับเรียวขาทั้งสองข้างออกด้านข้างเปิดทางให้มองเห็นหมีน้อยที่กำลังฉ่ำวาว

“ถ้าเราดูดตรงนี้แกจะเสียวกว่าเราดูดนมอีก”

“จะตายไหม” นิษฐกานต์ได้แต่บิดเร่า สองขาหนีบเข้าหากันเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่กำลังเป่ารดใจกลาง แค่เขาดูดดึงหน้าอกเธอก็รู้สึกเหมือนจะตาย หายใจไม่ทันแล้ว

“ไม่มีใครตายเพราะเรื่องแบบนี้หรอกน่า” มี เธออยากจะเถียง ในข่าวมีให้เห็นเยอะแยะ

ยิ่งวัชรธรกลั่นแกล้งด้วยการสัมผัสเพียงเบา ๆ แล้วถอดถอนปลายลิ้นออกมา กายสาวยิ่งสั่นระริก เต้นตุบตับปล่อยหยาดน้ำสีใสออกมาไม่ขาด กระทั่งความอดทนหมดลงจึงฝังใบหน้าเข้าไปฉกชิมรสชาติของเธอ

“อื้อ เหนือเราจะตายแล้ว” สิ้นคำกายสาวหดเกร็งกระตุกปล่อยหยาดน้ำออกมาอีกมากมาย

ตอนนี้ในหัวเธอขาวโพลน

แต่คนตัวโตยังไม่หยุด เรียวลิ้นร้ายยังคงกวาดกินน้ำหวานไม่รู้จักอิ่ม สอดไซ้เข้าไปภายใน ความรู้สึกที่พึ่งแตกกระจายกำลังกลับมาอีกครั้ง ลิ้นของเขาฉกวูบเป็นจังหวะ ขณะที่ปลายนิ้วปัดเขี่ยปุ่มกระสัน

ความรู้สึกเสียว ปวดหนึบแล่นปราดไปที่ใจกลาง รอให้ได้รับการปลดปล่อยอีกครั้ง กระทั่งคนตัวเล็กกระตุกปล่อยหยาดน้ำรุนแรงกว่าเก่า

เธอได้แต่นอนหมดแรง และคิดว่าสิ่งที่ทำคงจบลงแล้วเมื่อวัชรธรชันตัวขึ้นจากท่าทางอันล่อแหลม

“มันไม่จบแค่นี้หรอกหมี” ราวกับล่วงรู้ความคิดของเธอเขาจึงรีบเฉลย

กล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ถูกหยิบมาจากหลังจากที่วัชรธรเดินฝ่าความมืดไปยังมุมห้อง ถึงจะไม่มีประสบการณ์แต่เธอก็รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร

“เหนือแกไปซื้อมาตอนไหน”

“ก็ตอนไปซื้อของให้แกนั่นแหละ” คนตัวโตเอ่ยตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม เหมือนจะเห็นใบหน้าและลำคอของเขาขึ้นสีเข้ม หรือไม่แสงไฟในห้องก็อาจจะทำให้เธอมองผิดไป

แต่ที่แน่ ๆ ไอ้เหนือมันวางแผนมาแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel